รัฐเดินหน้าตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ
 


รัฐเดินหน้าตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ


รัฐเดินหน้าตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ประกาศกิจการเป้าหมาย 13 กิจการในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ระดับสูงตามประกาศของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)พร้อมทั้งเห็นชอบกิจการเป้าหมายรายพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก สระแก้ว ตราดมุกดาหาร และสงขลา โดยจากนี้สศช. จะไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายกร่างประกาศกนพ. ต่อไป

สำหรับกิจการทั้ง13 กิจการ ประกอบด้วยอุตสาหกรรมการเกษตร ประมงและกิจการที่เกี่ยวข้อง ,อุตสาหกรรมเซรามิกส์ ,อุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องหนัง ,อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเรือน ,อุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ,การผลิตเครื่องมือแพทย์ ,อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน ,อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,การผลิตพลาสติก ,การผลิตยา ,กิจการโลจิสติกส์,นิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และกิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว

ขณะที่สิทธิพิเศษของการเข้าลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นผู้ที่เข้ามาลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามประกาศ บีโอไอ เช่นได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปีได้รับการลดหย่อนสำหรับกำไรสุทธิที่ได้รับจากการลงทุน 50% เป็นเวลา 5 ปี สามารถหักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าประปา ได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 30 ปีสามารถหักเงินลงทุนในการติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกได้ 25% ของเงินลงทุน ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นสำหรับส่วนที่ผลิตเพื่อการส่งออก 5ปี และอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในโครงการที่ได้รับการส่งเสริมตามที่บีโอไอกำหนด

“ตอนนี้มีเอกชนแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแล้วคือเครือสหพัฒน์ ที่มีพื้นที่ในเขตอ.แม่สอดอยู่แล้ว จะลงทุน 2 เรื่อง ทั้ง อุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม และแฟชั่น และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ที่ตอนนี้มีเอกชนจะมาขอเช่าพื้นที่ของสหพัฒน์ประกอบกิจการ”

ทั้งนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบกำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะที่2 ใน 5 จังหวัด คือ หนองคาย เชียงราย นครพนม นราธิวาส และกาญจนบุรี รวม 63ตำบล ใน 16 อำเภอ แบ่งเป็น หนองคาย 22 ตำบล ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.สระใคร อ.โพนพิสัยอ.ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ ,เชียงราย 21 ตำบล ใน 3 อำเภอ คือ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ , นราธิวาส 5 ตำบล ใน 5 อำเภอ คือ อ.สุไหงโกลก อ.ตากใบ อ.แว้งอ.ยี่งอ อ.เมือง ,นครพนม 13 ตำบล ใน 2 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ท่าอุเทน และกาญจนบุรี 2 ตำบล ใน 1 อำเภอ คืออ.เมือง

ขณะเดียวกันยังเห็นชอบพื้นที่แปลงที่ดินเพื่อนำมาจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรมหรือให้เช่าใน6 เขตเศรษฐกิจพิเศษรวม 24,817 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินของหน่วยงานรัฐ เช่นกรมป่าไม้ คือ จังหวัดตาก 14,858 ไร่ สระแก้ว 2,944 ไร่ ,ตราด 740 ไร่ ,มุกดาหาร 1,085 ไร่ ,สงขลา 1,095 ไร่ และหนองคาย 4,149 ไร่โดยที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดทำรายละเอียดด้านกฎหมายและการชดเชยเสนอให้คสช.ออกเป็นคำสั่งให้สามารถนำที่ดินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและให้กรมธนารักษ์ดูแล

นายอาคมกล่าวว่า กนพ.ยังเห็นชอบโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอดและสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่2 บริเวณใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์แห่งแรกวงเงินรวม 3,900 ล้านบาท โดยให้ใช้งบกลางปี 58 วงเงิน 500 ล้านบาทดำเนินการระยะแรก พร้อมกับพัฒนาโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรบ้านหาดเล็ก จ.ตราด โดยให้กระทรวงต่างประเทศร่วมกับกระทรวงกลาโหม เจรจากับกัมพูชาหาข้อยุติเรื่องเขตแดนและการใช้ประโยชน์พื้นที่ รวมทั้งการพัฒนาด่านถาวร ต.บ้านไร่อ.อรัญประเทศ โดยมอบหมายฝ่ายความมั่นคง เจรจาหาข้อยุติเรื่องการกำหนดพื้นที่ด่านถาวรกับกัมพูชาต่อไป

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.