เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ รพ.พระนครศรีอยุธยาว่า มีเด็ก 7 ขวบประสบอุบัติเหตุถูกถังสีระเบิดใส่บาดเจ็บสาหัสถูกส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา จึงพยายามติดต่อประสานโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อส่งตัวเด็กไปรักษาต่ออย่างเร่งด่วน แต่ผ่านมาหลายชั่วโมงยังไม่มีการตอบรับ ทำให้พ่อแม่ต่างวิตกกังวลเกรงว่า ลูกจะอาการทรุดหนัก หลังทราบข้อมูล ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบพบนายภาคภูมิ แสงจันทร์ อายุ 35 ปี และนางธัญญาภัทร กลิ่นฉ่าง อายุ 24 ปี บิดา-มารดาของเด็กเฝ้าอาการลูกอยู่หน้าห้องไอซียูด้วยสีหน้าวิตกกังวล โดยมีนางศิริพร ทิมคล้าย ผอ.โรงเรียนวัดตองปุ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส.มาลินี ชมพูวิเศษ ครูประจำชั้น ป. 1 ของหนูน้อยเคราะห์ร้ายที่ทราบข่าวเดินทางมาเยี่ยมพร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง เพื่อให้พ่อแม่ไว้ใช้จ่าย และคอยนั่งปลอบใจนายภาคภูมิ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขับเรือให้ร้านอาหาร ส่วนภรรยาเป็นพนักงานในร้าน มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ ด.ช.รพีพัฒน์ หรือน้องออม แสงจันทร์ อายุ 10 ปี คนโต ส่วนผู้บาดเจ็บคือ ด.ช.วันชนะ หรือน้องอิม กลิ่นฉ่าง อายุ 7 ปี คนเล็ก เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา น้องอิมนำถังสีพลาสติกเก่า มาทำเป็นกลองนั่งตีเล่นตามลำพัง ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องอิมชอบ และมักจะเล่นอย่างนี้เป็นประจำ จู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อถังสีพลาสติกเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สร้างความแตกตื่นให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง รีบพากันวิ่งมาดู พบน้องอิมซึ่งถูกแรงระเบิดในสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่น ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเต็มไปด้วยบาดแผลคล้ายไฟลวก มีเลือดไหลจากดวงตาอาการสาหัส นอนหายใจรวยริน จึงรีบนำส่งรพ.พระนครศรีอยุธยา ที่เกิดเหตุพบถังสีที่ระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งนี้หลังน้องอิมถูกส่งเข้าห้องไอซียูอาการก็ทรุดหนัก แพทย์ที่ดูแลบอกว่าอาการน่าวิตก ต้องส่งตัวให้โรงพยาบาลที่มีเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ทันสมัยโดยเร็วที่สุด โดยทาง รพ.พระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือประสานส่งตัวให้โรงพยาบาลใหญ่ ๆ หลายแห่ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ เข้าใจว่าน่าจะติดขัดเรื่องเตียง ซึ่งตนและภรรยาเป็นห่วงเกรงว่าหากช้ากว่านี้ลูกอาจจะเสียชีวิตได้ด้านนางบังอร ผ่องโอภาส หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ รพ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว และทราบว่าพ่อแม่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก รู้แต่เพียงถังสีระเบิดใส่เด็กมีอาการทางระบบหายใจ และบาดแผลคล้ายไฟไหม้อักเสบเป็นวงกว้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งประสานส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่มีเครื่องมือทันสมัย และพร้อมหกว่า แต่บางแห่งมีปัญหาเรื่องเตียงคนไข้เต็มทำให้ล่าช้า หากประสานได้แล้วจะะรีบส่งตัวทันทีผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ครอบครัวของเด็กเคยมีอาชีพผลิตพลุ และดอกไม้ไฟจำหน่าย จึงเป็นไปได้ว่าถังดังกล่าวน่าจะเคยเป็นถังที่นำไปใส่ดินระเบิดและเชื้อปะทุ ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ และเกาะตัวแน่นกับถังเมื่อเด็กนำมาตีจึงเกิดความร้อนเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เดินทางเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง.
