ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงปัญหาแชร์ลูกโซ่ เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพบข้อมูลว่า ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐมองถึงประเด็นเรื่องจริยธรรม ไม่เข้าไปส่งเสริมธุรกิจเหล่านั้น แม้ว่าจะเป็นการเข้าไปโดยรู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ต้องตระหนักด้วยว่า แชร์ลูกโซ่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และต้องสิ่งเหล่านี้คือการสร้างปัญหาซ้ำเติมเศรษฐกิจ

“เจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจอยากให้ตั้งความคิดให้มั่นคงว่า สิ่งที่ท่านเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการส่งเสริมบริษัทต่างๆ ให้ลำพองใจคิดว่า ตัวเองมีผู้ใหญ่สนับสนุนแล้วทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่คิดว่าตัวเองทำถูก ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐต้องวางตอนเองให้เหมาะสมอย่าไปยุ่งกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งตอนนี้พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องไม่น้อย และคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ในหลายแวดวง หลายอาชีพแต่ที่น่าสงสารคือประชาชนที่เข้ามาในช่วงหลัง เพราะคนที่เข้าไปในกลุ่มแรกเขาจะได้ผลตอบแทนครบแต่คนมาทีหลังไม่ได้ผลตอบแทนแล้วนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นสุดท้ายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่นานจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากเข้ามาร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลว่า กำลังเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ได้มาก รวมถึงมีข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังในต่างประเทศ โดยพบว่ารวมกันแล้วมีมูลค่าสูง แต่ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ แต่เชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาทั้งระบบเร็วที่สุด โดยการแก้ไขปัญหาแชร์ลูกโซ่จะเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะปัญหานี้ได้สร้างความทุกข์ให้คนเข้าไปเล่นจำนวนมาก  แต่การจะออกกฎเกณฑ์เพื่อไปห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่นั้นถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจเองก็อยากได้เงินและเข้าไปเล่นในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จึงทำได้เพียงขอให้คำนึงถึงเรื่องจริยธรรมเพราะเจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นแบบอย่างให้ประชาชน