สยองศพคู่ยึดห้องนอนสุสาน
พิษหึงผัวหนุ่มแทงเมียสาวดับคาห้องนอนแล้วกะซวกท้องตัวเองตายตาม พบฝ่ายหญิงเป็นลูกสาวเจ้าของฟาร์มโคนม ทั้งสองเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน ก่อนจบชีวิตผัวหนุ่มไปทำงานนอกบ้าน ช่วงหัวค่ำโทรศัพท์มาหาเมียสาวได้ยินเสียงผู้ชายอยู่ในห้องนอน ระแวงเมียสาวแอบปันใจให้ชายอื่น มีปากเสียงทะเลาะกันทางโทรศัพท์อย่างรุนแรง กระทั่งดึกผัวกลับมาดูที่บ้าน แต่พ่อตาไม่ยอมให้เข้าบ้านเพราะเกรงปัญหาจะลุกลามไปกันใหญ่ พอรุ่งเช้าคนในบ้านลุกขึ้นมารีดนมวัว แต่ไม่เห็นฝ่ายหญิงตื่นนอน จึงใช้กุญแจสำรองไขประตูห้องนอนเข้าไปดู พบศพถูกแทงตายทั้งคู่
พิษรักแรงหึงเป็นเหตุให้ผัวหนุ่มเมียสาวฆ่ากันตายอนาถรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.ท.พิทักษ์ กลิ่นหอม พนักงานสอบสวน สภ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 11 ต.กุดตาเพชร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ พงษ์ศรี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ นามประเสริฐ พงส.ผนพ.แพทย์เวร รพ.ลำสนธิ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านตึก 2 ชั้น บริเวณบ้านเป็นฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ในห้องนอนชั้นล่างพบศพ น.ส.วิสนีย์ อยู่เจริญ อายุ 19 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดบนพื้นข้างเตียงนอน นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อยืด มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 แผล และที่กลางหลัง 2 แผล เลือดทะลักไหลนอง โดยมีมีดปอกผลไม้ปลายแหลมยาว 9 นิ้ว ตกอยู่ข้างมือขวา ส่วนที่เตียงนอนพบศพนายพีระพล ใหม่เอี่ยม อายุ 28 ปี สามี น.ส.วิสนีย์ อยู่บ้านเลขที่ 701 หมู่ 4 ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ศพนอนหงายนุ่งกางเกงขายาว ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว ถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าหน้าท้องฉกรรจ์ 6 แผล ข้างมือขวาพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต เปื้อนเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายสำเริง อยู่เจริญ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นพ่อของ น.ส.วิสนีย์ให้การว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้ยินทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันทางโทรศัพท์ โดยนายพีระพล ลูกเขย ไปทำงานนอกบ้านได้โทรศัพท์มาหา น.ส.วิสนีย์ ภรรยาสาว พร้อมทั้งต่อว่าได้ยินเสียงผู้ชายอยู่ในห้องนอน ทำให้ทั้งสองเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นในช่วงดึกนายพีระพล ลูกเขยกลับมาที่บ้าน แต่ตนเกรงจะมีปัญหากับลูกสาว จึงยังไม่ให้เข้าบ้าน บอกกับลูกเขยว่าตอนเช้าค่อยมาคุยกันใหม่
