ประธานาธิบดีวิโดโด แห่งแดนอิเหนา ยืนยันคำเดิม เตือนกร้าว รัฐบาลต่างชาติไม่ควรเข้ามาแทรกแซงสิทธิในการประหารชีวิตนักโทษของอินโดนีเซีย ชี้การประหารจะเดินหน้าต่อไป แม้จะโดนกดดันหนักจากผู้นำออสเตรเลีย, บราซิล และฝรั่งเศสที่จะมีพลเมืองชาติตนโดนประหารด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ได้แสดงจุดยืนแข็งกร้าว ชี้รัฐบาลต่างชาติไม่ควรเข้ามาแทรกแซงในเรื่องสิทธิของการประหารชีวิตนักโทษที่กระทำความผิดตามกฎหมายของอินโดนีเซีย โดยยืนกรานว่าการประหารชีวิตนักโทษในคดีค้ายาเสพติดด้วยการถูกยิงเป้าจะเดินหน้าต่อไป

ประธานาธิบดีวิโดโด กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากผู้นำรัฐบาลออสเตรเลีย, บราซิล และฝรั่งเศส เนื่องจากพลเมืองของชาติตน เป็นนักโทษชาวต่างชาติที่จะถูกประหารชีวิตในคดีค้ายาเสพติดในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ จากจำนวนนักโทษประหาร 11 คน

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวิโดโด หรือมีชื่อเล่นเรียกขานว่า ‘โจโกวี’ ได้ยืนยันมาตลอดว่า เขาจะไม่ผ่อนปรนโทษประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติด 11 คน ในจำนวนนี้ รวมทั้งนักโทษชายออสเตรเลีย 2 คน คือ นายแอนดรูว์ ชาน วัย 31 ปี และนายมิวรัน ซูคูมารัน วัย 33 ปี ตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ และชาวออสเตรเลีย ที่พยายามเรียกร้องให้ทางการอินโดนีเซียให้ความเมตตา ไว้ชีวิตแก่นักโทษชาวออสเตรเลียทั้ง 2 หลังถูกจับกุมได้ที่สนามบินในเมืองเดนปาซาร์ บนเกาะบาหลี ตั้งแต่ปี 2548 ด้วยข้อหาลักลอบขนเฮโรอีน กว่า 8 กิโลกรัม

ข่าวแจ้งว่า อินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลก ที่มีกฎหมายลงโทษ ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดด้วยการประหารชีวิต โดยโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติดในอินโดนีเซียนั้น ได้ถูกนำมาบังคับใช้ใหม่ เมื่อปี 2556 หลังจากหยุดพักไป 4 ปี ขณะที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ซึ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีใหม่อินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้ว ก็มีจุดยืนที่เด็ดเดี่ยวในการลงโทษนักโทษในคดียาเสพติด