หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของสถาบันกันตนา อาจกล่าวได้ว่าไม่ต่างจากบริษัทอื่น ๆ ที่เปิดสถาบันการศึกษาเพื่อผลิตคนมาป้อนเข้าสู่ธุรกิจของตัวเอง แต่อีกทางหนึ่งเป็นการสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อเข้ามาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "ผศ.ปนัดดา ธนสถิตย์" ทายาทของ "ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก" ผู้ก่อตั้งบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมาดูแลสถาบันกันตนาโดยตรง ในตำแหน่งอธิการบดีมานานกว่า 4 ปีแล้ว โดยเธอบอกว่าท่ามกลางการแข่งขันของทีวีดิจิทัล บวกกับประเทศไทยต้องการเป็นฮับการบันเทิงของอาเซียน ส่งผลให้บุคลากรด้านอุตสาหกรรมบันเทิงเป็นที่ต้องการสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการรับคนใหม่ หรือการหาตัวตายตัวแทนในตำแหน่งเดิม

- ปัจจุบันสถาบันกันตนาเปิดสอนด้านใดบ้าง

เราเป็นสถาบันเฉพาะทางที่ต่างจากมหาวิทยาลัยทั่วไป คือ ผู้จัดตั้งเป็นผู้ประกอบการด้านสื่อ เน้นการเรียนการสอนด้านการผลิตสื่อบันเทิงโดยเฉพาะ ซึ่งระดับปริญญาตรีมีคณะเดียว คือ ศิลปกรรมการผลิตสื่อ ประกอบด้วยแขนงวิชาการผลิตภาพยนตร์ แขนงวิชาการผลิตแอนิเมชั่นและแขนงวิชาการผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการสื่อสารข้ามสื่อ รวมถึงมีหลักสูตรปริญญาโทเกี่ยวกับการจัดการสื่อบันเทิง

ทั้งนี้มองว่าหากเด็กเรียนปริญญาตรีซึ่งเน้นหนักด้านการผลิต น่าจะมาต่อการบริหารจัดการงานที่เขาผลิตด้วย นอกจากนั้นเรายังมีหลักสูตรระยะสั้น โดยร่วมกับกันตนาเทรนนิ่ง เซ็นเตอร์อยู่แล้ว ในการทำงานบริการวิชาการ จะมีการอบรมด้านการแสดงหรือการเป็นพิธีกร รวมถึงหลักสูตรเกี่ยวกับเบื้องหลัง ขณะเดียวกันประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม กัมพูชา พม่า ได้ส่งนักวิชาชีพมาที่เรา หรือให้เราไปเปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้นที่เขา

- แผนการขยายหลักสูตรเพิ่มเติม

เนื่องจากภาพของกันตนาจะเกี่ยวข้องกับการแสดง ทำให้เมื่อเราไปโรดโชว์จะมีคนถามว่ามีหลักสูตรการแสดงหรือไม่ ดังนั้นเราจึงมีแนวคิดที่แขนงวิชาการแสดงเพิ่มเติมในปีการศึกษา 2558 หรือ 2559 นอกจากนี้จะทำหลักสูตรปริญญาตรีของทั้งสามแขนงวิชาเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษด้วย เพื่อดึงดูดนักศึกษาต่างชาติมาเรียน อย่างไรก็ดี หลักสูตรภาษาไทยที่เรามีอยู่สามารถรับนักศึกษาอื่นที่เขารู้ภาษาไทย และสามารถมาเรียนได้ อย่างนักศึกษาจากประเทศลาว แต่ค่าเล่าเรียนจะสูงกว่านักศึกษาไทยประมาณ 20%

- การเปิดหลักสูตรอินเตอร์มองเห็นโอกาสอะไร

ตอนนี้กลุ่มประเทศอาเซียนเริ่มเปิดการใช้สื่อวิทยุโทรทัศน์มากขึ้น ส่วนหนึ่งเขาเคยมาเรียนกับเรา เหมือนผู้บริหารรุ่นพ่อแม่ต้องส่งต่อความรู้ให้กับลูก แทนที่จะส่งลูกไปเรียนประเทศไกล ๆ ก็ส่งลูกมาเรียนกับเราดีกว่า เพราะมีหลักสูตรที่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ และด้วยเราเพิ่งเปิดหลักสูตรปริญญาโท ถือเป็นโอกาสและทางเลือกให้กับเขามาเรียนต่อที่เราด้วย โดยในเดือน มี.ค.นี้เราจะมี Study Tour พานักศึกษาไปที่ประเทศเวียดนาม คิดว่าอาจจะไปสำรวจตลาด และหาความร่วมมือเพิ่มเติม

ที่จริงแล้วคนประเทศกัมพูชา, ลาว, เวียดนาม ล้วนรู้จักกันตนา เพราะเราเข้าไปทำสถานีโทรทัศน์ที่กัมพูชา และมีบริษัทที่ร่วมลงทุนกับกลุ่มทางพม่า รวมถึงไปลงทุนเปิดบริษัทที่เวียดนาม บวกกับการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้ก่อนหน้านี้ ทำให้นักวิชาชีพของเขารู้จักเราอยู่แล้ว ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ ดังนั้นจึงจะเข้าไปทำตลาดกับประเทศที่กันตนาเข้าไปทำธุรกิจก่อน

- จุดแข็งของนักศึกษาสถาบันกันตนา

หากเด็กไปอยู่มหาวิทยาลัยจะอยู่ในแวดวงอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อมาเรียนกับเรา เขาได้อยู่กับบริษัทที่ทำงานจริง ๆ เหมือนมาเรียนด้านวิชาชีพที่ต้องเจอกับผู้คนมากมาย อาจารย์ที่สอนจะมีนักวิชาชีพมาสอนด้วย จะมาให้ความจริงในการทำงาน รวมถึงมีโอกาสได้เข้าไปร่วมงานด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าขณะนั้นวิทยากรกำลังทำหนังอยู่นักศึกษาจะได้เรียนรู้การทำงานในวงการ รู้จักคนในวิชาชีพ

- เป้าหมายการรับนักศึกษา

ตอนนี้เรามีนักศึกษาประมาณ 60 คน จำนวนนี้เป็นปริญญาโท 7 คน เด็กที่จบไปรุ่นแรกมีบางส่วนเข้าทำงานกับกันตนา โดยเราตั้งเป้าว่าแต่ละปีจะรับนักศึกษาปริญญาตรี 50 คน แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ อาจเพราะเราเปิดสอนคณะเดียว ซึ่งเขาไม่สามารถโยกย้ายไปเรียนสาขาอื่นได้เหมือนเรียนมหาวิทยาลัย

- การแข่งขันของสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนด้านสื่อบันเทิง

คิดว่าการแข่งขันไม่รุนแรงเท่าไร อย่างด้านแอนิเมชั่นที่เปิดเป็นคอร์สสั้น ๆ ก็เริ่มแผ่วลงไปแล้ว แต่เราหวังว่าอนาคตของตลาดด้านนี้ต้องเติบโตกว่าปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัลที่ใกล้เคียงกัน คนเรียนทีวีมาก็สามารถทำหนังได้ ดังนั้นคาดว่าเทรนด์ผู้เรียนด้านบันเทิงน่าจะเยอะขึ้น แต่ที่เป็นปัญหาคือเด็กที่เรียนแล้วสามารถออกมาทำงานได้เลยมีไม่มากเท่าไรนัก

- Position ของสถาบันกันตนาอีก 3-5 ปีข้างหน้า

เราตั้งใจว่าจะเป็นที่รู้จักของอาเซียน และคนในประเทศอาเซียนมาเรียนที่เรา ขณะที่เด็กของเรามีผลงานเป็นที่ยอมรับ ก็กำลังสร้างว่าไม่ใช่จบอย่างเดียว แต่ต้องมีงานปรากฏให้คนเห็น และรู้เลยว่านี่เป็นเด็กจากสถาบันกันตนา นอกจากนั้นเราอยากมีเด็กมาเรียนเพิ่มขึ้น โดยสามารถรับได้เต็มที่สำหรับปริญญาตรี 200 คน ปริญญาโท 20 คน รวมถึงมีแผนเปิดปริญญาเอกอีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่ต้องรอดูหลักสูตรปริญญาโทให้แข็งแกร่งก่อน

อย่างไรก็ดี สภาสถาบันของเราก็เปิดไฟเขียวแล้วให้มีปริญญาเอกได้ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับการจัดการสื่อบันเทิง ตามวิถีที่เราถนัดนั่นเอง

(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ป