กินอาหารอย่างไร? เพื่อ...ต้านมะเร็ง โดยนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร
 


กินอาหารอย่างไร? เพื่อ...ต้านมะเร็ง โดยนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร


 กินอาหารอย่างไร? เพื่อ...ต้านมะเร็ง โดยนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร



"มะเร็ง" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cancer หรือตัวย่อว่า CA ไม่มีใครอยากเจอะเจอ ไม่อยากเป็น และก็เป็นปัญหาของแพทย์อย่างมากในการที่จะเอ่ยปากบอกคนไข้ว่าเป็น "มะเร็ง" คิดแล้วคิดอีกจะเริ่มต้นอย่างไร? ที่จะบอกคนไข้ให้เข้าใจ ไม่เครียด ตระหนกตกใจ กังวลใจ ท้อแท้ใจ จนกระทั่งกินไม่ได้ นอนไม่หลับ

ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสไปเยือนท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดเปิดใหม่เล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนท่านคนหนึ่งอายุ 50 ปีเศษ ชอบกินเนื้อย่างเกาหลี ปิ้งๆ ย่างๆ ที่ตรงข้ามหน้าบ้านท่าน นพ.สสจ. เย็นวันหนึ่งชายคนดังกล่าวได้ไปเยี่ยมบ้านท่าน นพ.สสจ. ในบรรยากาศเย็นๆ สบายๆ ท่านได้ทราบจากปากว่ากินมา 4 ปี แล้วอย่างต่อเนื่อง และกินเป็นประจำ ท่าน นพ.สสจ.ได้แนะนำให้ค่อยๆ ลด และเลิกกินอาหารดังกล่าว โดยบอกว่ามันมีพวกดินประสิวปนอยู่ อันตรายจะทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ได้ แต่เขาไม่เชื่อฟัง ไม่รู้ฟังยังกินต่อไป จนกระทั่ง 6 เดือนต่อมา เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ แล้วตายในที่สุด ต่อมาก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งบ้านใกล้กันกับชายคนแรกเช่นกัน กินติดต่อกันได้ 2 ปี ก็เสียชีวิตไป แต่ร้านขายเนื้อย่างเกาหลีแห่งนี้ ต้องปิดลงแล้วย้ายไปขายอีกจังหวัดหนึ่ง...

ผู้เขียนอยากเรียนท่านๆ ทั้งหลายว่าในปัจจุบันนี้ โรคมะเร็งไม่ใช่โรคที่น่ากลัวแล้ว เราต้องเรียนรู้ และยอมรับฝึกปลูกฝังและหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมตามที่แพทย์บอกกล่าวให้ความรู้ แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ยังมีความเชื่อว่าโรค "มะเร็ง" เป็นโรคที่รักษาไม่หาย และเมื่อเป็นแล้วผู้ป่วยต้องเสียชีวิตร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้ป่วยไม่มาโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ส่งผลให้สุขภาพกาย สุขภาพใจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนไม่ดีเท่าที่ควร เพราะขาดความเชื่อมั่น ศรัทธา ปฏิบัติตัวใหม่ตาม หากหมั่นฝึกปฏิบัติเหมือนหัดขับรถจนเคยชินทุกอย่างก็จะดำเนินชีวิตได้อย่างปกติเป็น Norm ของชีวิตได้

ดังนั้น ผู้เขียนอยากให้พวกเรา ล้มล้าง... "ความคิดความเชื่อ" ในสิ่งไม่ถูกต้องดังกล่าว จึงจำเป็นต้องทำให้ทุกคนมีพื้นฐานความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ "โรคมะเร็ง" ที่ถูกต้องเสียก่อน และอยากสื่อสารเพิ่มเติมของดีๆ ให้พี่ๆ น้องๆ โปรดเชื่อ และปฏิบัติตามว่า...กินอาหาร "ถูกต้อง เหมาะสม" พอดี...นั้นคือ... "อาหารต้านมะเร็ง" ได้



โรคมะเร็ง คือ โรคของเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวผิดปกติเกินความจำเป็น จนกระทั่งเป็นก้อนที่ตรวจพบได้ กลายเป็นก้อนมะเร็งหรือเนื้องอก ซึ่งสามารถบุกรุกทำลายเนื้อเยื่อใกล้เคียง และสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ เช่น ตับ ปอด และสมอง โดยผ่านไปตามหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง

โดยแบ่งเนื้องอก 2 ชนิด คือ

-เนื้องอกชนิดธรรมดา : ไม่ใช่มะเร็งสามารถตัดออกได้ และส่วนใหญ่ไม่กลับเป็นซ้ำ และไม่กระจายไปส่วนอื่นๆ ไม่อันตรายถึงเสียชีวิต

-เนื้องอกชนิดร้ายแรง คือ "มะเร็ง" เซลล์เหล่านี้มีความผิดปกติด้านการแบ่งตัว ขาดการควบคุมแทรกซึม กระจาย ทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะข้างเคียงได้

กระบวนการเกิดมะเร็ง : เมื่อร่างกายได้รับสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมี สารเร่งเนื้อแดง ดินประสิว สีย้อมผ้า สารฟอกขาว เชื้อรา ไวรัส สารจากควันพิษ รังสี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดสารอนุมูลอิสระตกค้าง (Free Radicals) และเกิดการเผาผลาญ (Oxidation) ทางชีวเคมีในร่างกาย และในที่สุด เซลล์ปกติก็จะกลายเป็นเซลล์ "มะเร็ง" ถ้าระบบภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถทำลายเซลล์นั้นได้ เซลล์มะเร็งก็จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นก้อนมะเร็งต่อไป

ระยะเวลาของการก่อตัวและกระจายตัวทั่วร่างกาย ถ้าร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งนานๆ ต่อเนื่องนานๆ หรือสัมผัสจากมลพิษ เซลล์จะเปลี่ยนเริ่มกลายเป็นเซลล์มะเร็งภายในเร็ววัน ยังแยกชนิดเซลล์ไม่ออก ถ้านาน 10 ปี ถึง 20 ปี จะเป็นเซลล์มะเร็งได้ในที่สุด

สัญญาณบอกเหตุของการเป็นมะเร็ง : โรคมะเร็งส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่ผลการศึกษาพบว่ามีปัจจัยหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิด "มะเร็ง" บางชนิดสามารถบอกเหตุนำ หรือเหตุที่มาได้ ที่สำคัญคือ...ทุกคนต้องเฝ้าระวังตนเอง โดยการสังเกตสำรวจร่างกายตนเองอย่างสม่ำเสมอ และควรต้องพบแพทย์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

อาการผิดปกติที่ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ได้แก่ 7 สัญญาณอันตราย

-มีเลือดหรือสิ่งผิดปกติในร่างกาย เช่น มีตกขาวมากเกินไป

-มีตุ่มหรือก้อนเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย และก้อนนั้นโตเร็วผิดปกติ

-มีแผลเรื้อรัง รักษาไม่หาย ปากแผลบานคล้ายดอกกะหล่ำ

-มีอาการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะผิดปกติ ปวดเบ่ง ขับถ่ายไม่ออก หรือเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มูก มูกปนเลือด

-เสียงแหบแห้งหรือไอเรื้อรัง น้ำหนักลดลง หายใจขัดๆ

-มีการเปลี่ยนแปลงของหูด ไฝ ปาน โตผิดปกติและเร็ว



ปัจจัยเรื่องของโรคมะเร็ง แบ่งได้ 2 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ

1.ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกร่างกาย หรือสิ่งแวดล้อม ได้แก่

-สารพิษจากเชื่อราชนิดที่สำคัญคือ อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเกิดจากเชื้อราตระกูลแอสเปอร์จิลลัส ทำให้เกิดมะเร็งตับ เช่น กินถั่วลิสง ถั่วลิสงถั่วป่น ข้าวโพด พริกแห้ง ข้าวฟ่าง สารพิษชนิดนี้ทนความร้อนได้ถึง 206oซ

-สารก่อมะเร็งจากการปรุงอาหารจากเนื้อสัตว์ ได้แก่ การปิ้งย่าง เผารมควัน ทอดอาหารที่อุณหภูมิสูง จะทำให้เกิดสารพิษขึ้นมาหลายชนิด พบมากในส่วนที่ "ไหม้เกรียม" ทำให้เกิดมะเร็งตับ ลำไส้ และต่อมน้ำนม

-สารพิษไนโตรซามิน ไนโตรซาไมด์ เชื่อกันว่าเป็นมะเร็งตับ กระเพาะอาหาร พบในพวกไส้กรอก แหนม เบคอน เป็นอาหารที่เติมเครื่อง Nitrite หรือ Nitrate (ดินประสิว)

-สารสังเคราะห์ที่ปนเปื้อนในอาหาร เช่น สีย้อมผ้า ยาฆ่าแมลง สารฟอกขาว

-สารพิษจากพืช สารก่อมะเร็งกลุ่มนี้ ได้แก่ สารไซเคซีน จากลูกปรงอาจเป็นสาเหตุมะเร็งลำไส้ ไต ตับ

-อาหารที่มีไขมันสูง และกากน้อย พบว่าอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันสัตว์ ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก ต่อมลูกหมาก

-ควันบุหรี่ ทำให้เกิดมะเร็งปอด กล่องเสียง และช่องปาก พบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มากกว่าวันละ 20 มวน จะเสี่ยงต่อมะเร็งปอดถึง 10 เท่าของผู้ที่ไม่สูบ

-รังสี พบในบุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่อง x-ray คนทำงานในเหมืองแร่

-ไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและซี อาจทำให้เกิดมะเร็งตับ ไวรัสเอชไอวี อาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือดขาวและสมอง

-พยาธิ เป็นปัจจัยทำให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ พยาธิใบไม้ในตับที่ติดมากับอาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ

จากการศึกษาด้านระบาดวิทยาของโรคมะเร็ง พบว่า 70-90% ของโรคมะเร็งในคนนั้น มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกร่างกาย

2.ปัจจัยภายในร่างกาย เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น กรรมพันธุ์ ความผิดปกติทางยีน ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันโรคที่เข้มแข็งจะช่วยป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอม ตลอดจนเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายเป็นปกติ

เราจะกินอาหารต้าน "มะเร็ง" ได้อย่างไรดี หลักคือ "3 เลือก" คือ เลือกปลูก เลือกซื้อ เลือกกิน

-เลือกปลูก พืชผักสวนครัวภายในบ้านเพื่อบริโภคเองด้วยการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดสารเคมี

-เลือกซื้อ อาหารปลอดภัย

-เลือกกิน เลือกอาหารรับประทานปลอดสารพิษได้ถูกต้อง

พฤติกรรมการเตรียม การปรุง และการบริโภค ถ้าสามารถเลือกอาหารรับประทานได้ถูกต้อง จะเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อการเกิดมะเร็งหรืองดอาหารที่มีสารก่อมะเร็งได้ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้อย่างดี และมีคุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้น

อาหารที่มีคุณสมบัติป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

-พืชผักผลไม้หลายชนิดที่มีสารเคมีธรรมชาติที่มีศักยภาพในการป้องกันหรือยับยั้ง การเกิดโรคมะเร็ง เรียกว่า สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สารนี้จะลดจำนวนอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ซิลิเนียม วิตามินอี วิตามินซี เบต้าแคโรทิน ไลโคปิน เป็นต้น

ข้อปฏิบัติในการกินอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็ง

อาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด และเมล็ดธัญญาพืชต่างๆ เป็นต้น อาหารชนิดนี้จะช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลำไส้ส่วนปลาย

อาหารที่มีเบต้าแคโรทินสูง เช่น ผัก ผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม เช่น ฝักทอง มะละกอสุก มะม่วงสุก แครอต ผักสีเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า ผักโขม จะช่วยป้องกันมะเร็งปอด กล่องเสียง และหลอดอาหาร

อาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผักสด ผลไม้ เช่น ฝรั่ง สับปะรด ส้ม ขนุน มะละกอสุก ช่วยลดเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร

ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อกโคลี ลดเรื่องเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลำไส้ส่วนปลาย หลอดอาหาร ระบบหายใจ

เครื่องเทศต่างๆ เช่น กระเทียม กระชาย ข่า ขิง ฝักข้าว ตระกูลขมิ้น มีสารป้องกันมะเร็งอยู่ด้วย



ทั้งหมดที่ผู้เขียนจาระไนมาให้พี่ๆ น้องๆ มากมายจดจำไม่ไหว ไม่หมดด้วย หากสรุปข้อเสนอแนะการกินกับ "อาหาร...ต้านมะเร็ง" ดังกล่าวหลักง่ายๆ คือ

-กินผัก ผลไม้ เป็นหลักให้มาก หลากหลาย (ชนิด สี) และสม่ำเสมอ

-แต่ละมื้อ แต่ละวัน จะกินเท่าไรดี จำง่ายๆ และได้ผล คือ ผักครึ่งหนึ่ง...อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง (ธัญญาพืชและเนื้อสัตว์) รวมกันอีกครึ่งหนึ่ง

-ไม่ควรรับประทานอาหารที่มี "รา" ขึ้นเด็ดขาด หรืออาหาร "ไขมันสูงเป็นเนืองนิตย์"

-งดอาหารที่ใส่ดินประสิว เช่น เนื้อย่างเกาหลี

-อาหารปิ้งๆ ย่างๆ ส่วนที่ไหม้เกรียม ควรต้องเลี่ยงไม่กิน

-หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่สีย้อมผ้า



ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่พูดถึงอาหารประเภทเนื้อสัตว์เลย? ถ้าคนเรารับประทานผัก ผลไม้ อย่างเดียว จะอยู่ได้ไหม ถามว่า

เต่า...อายุยืน กินอะไร?...ผักบุ้งใช่ไหม

ช้าง...แข็งแรงตัวใหญ่ กินอะไร?...กล้วย อ้อย ใช่ไหม

ม้า...วิ่งเร็ว ปราดเปรียว กินอะไร?...หญ้าใช่ไหม

ยีราฟ...สูงโย่ง...กินอะไร?...ยอดไม้...ใช่ไหม

ลิง...ว่องไวมาก...กินอะไร?...กล้วย ผลไม้ ใช่ไหม

เสือ...ดุมาก...กินอะไร?...

สุนัข...ก็ดุ...เชื่องก็มี...แสนรู้ก็มี..กินอะไร?...

"คน"...กินอะไรดี?...ทุกอย่าง...อายุยืนอย่างเต่า แข็งแรงอย่างช้าง วิ่งเร็วอย่างม้า สูงอย่างยีราฟ ฉลาดว่องไวอย่างลิง เท่านี้พอไหม... กินแต่พืช ผัก ผลไม้ ก็น่าจะพอเพียง เท่าที่ศึกษาสมัยพุทธกาล ทราบว่า...แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราๆ ก็ทรงฉันพืช ผัก ผลไม้ และธัญญาพืชอยู่ในป่า พระองค์ทรงมีพระชนมายุยืนนานได้ถึง 80 พรรษาเชียวนะครับ

 

 

 นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร

อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข


 


(ที่มา:มติชนรายวัน 28 มกราคม 2558)



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.