ยันไม่ยอมจำนน โลกรุมประณาม
ผู้นำนานาชาติรุมประณามกลุ่มไอเอส หลังฆ่าตัดหัวตัวประกันชาวญี่ปุ่นสุดโหดเหี้ยมพร้อมเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ ไม่เอาเงินค่าไถ่ แต่จะให้แลกตัวประกันระหว่าง “ตัวประกันนักข่าว” กับ “สาวมือระเบิดพลีชีพ” ที่ถูกขังคุกจอร์แดนมาตั้งแต่ปี 2548 ด้านครอบครัวตัวประกันที่ถูกบั่นคอถึงกับอึ้ง ได้แต่หวังว่าไม่เป็นความจริง ส่วน “นายกฯอาเบะ” ประกาศลั่น ญี่ปุ่นจะไม่ยอมจำนนต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย
กรณีกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่แผ่อิทธิพลอยู่ในซีเรียและอิรัก โพสต์คลิปวีดิโอเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ขู่ฆ่าตัดคอตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 คน คือนายฮารูนะ ยูคาวะ นักธุรกิจ วัย 42 ปี และนายเคนจิ โกโตะ นักข่าวอิสระ วัย 47 ปี เว้นแต่ญี่ปุ่นยอมจ่ายค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,400 ล้านบาท) ภายใน 72 ชม. และเมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. หรือเลยเส้นตายที่ไอเอสขีดไว้ 1 วัน กลุ่มไอเอสได้โพสต์คลิปวีดิโอทางอินเตอร์เน็ต เป็นภาพของนายโกโตะถือภาพที่ดูเหมือนภาพศพของนายยูคาวะ ซึ่งแสดงว่ากลุ่มไอเอสได้ฆ่าตัดคอนายยูคาวะตามคำขู่แล้ว พร้อมกันนี้ ยังมีคลิปเสียงที่กลุ่มผู้ก่อเหตุให้นายโกโตะเรียกร้องแลกกับการปล่อยตนเองเป็นอิสระแต่ไม่มีรายละเอียด
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุฆ่าตัดคอตัวประกันชาวญี่ปุ่นดังกล่าวว่า ยังไม่มีท่าทีหรือแถลงการณ์ใดๆ ออกมาจากกลุ่มไอเอส หลังจากเผยแพร่คลิปเสียงและภาพนิ่งของตัวประกันชาวญี่ปุ่นบนเว็บไซต์ “ยูทูบ” เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. ก่อนที่คลิปวีดิโอจะถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลิปเสียงคล้ายเสียงของนายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันคนที่ 2 ที่ระบุว่า นายยูคาวะถูกสังหารในดินแดนรัฐอิสลามคอลิฟะต์ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นสามารถช่วยตนได้โดยร่วมมือกับประเทศจอร์แดน ที่นายอาเบะได้ตั้งศูนย์ประสานงานรับมือเหตุจับตัว ประกันเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการแลกตัวประกัน
ทั้งนี้ ในคลิปเสียงนายโกโตะระบุว่า กองกำลังไอเอสได้ยกเลิกการเรียกค่าไถ่แลกตัวประกันแล้ว แต่จะปล่อยตนแลกกับการปล่อยตัว ซาจิดา อัล-ริชาวี มือระเบิดหญิงที่ถูกจำคุกในจอร์แดนมาตั้งแต่ปี 2548 ในข้อหาพยายามก่อเหตุโจมตีโรงแรม 1 ใน 3 แห่งในจอร์แดน ด้วยระเบิดพลีชีพ แต่ล้มเหลว
ด้านนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น แถลงผ่านโทรทัศน์สาธารณะช่อง “เอ็นเอชเค” เรียกการสังหารนายฮารูนะ ยูคาวะ ที่ถูกกลุ่มไอเอสจับเป็นตัวประกันว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจโหดเหี้ยมให้อภัยไม่ได้ และขอประณามอย่างแรง รวมถึงเรียกร้องให้กลุ่มไอเอสปล่อยตัวนายเคนจิ โกโตะ โดยทันที นอกจากนี้ นายอาเบะยอมรับว่ามีโอกาสสูงที่คลิปเสียงและภาพที่ดูเหมือนภาพศพของนายยูคาวะ ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. จะเป็นของจริง และย้ำว่าญี่ปุ่นจะไม่ยอมจำนนต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย กระนั้นก็ได้กราบบังคมทูลเรื่องนี้ต่อกษัตริย์อับดุล–ลาห์แห่งจอร์แดนแล้ว แต่ไม่กล่าวถึงกรณีที่ไอเอสต้องการให้ปล่อยตัวอัล-ริชาวี หรือไม่
ส่วนนายโชอิจิ ยูคาวะ พ่อของนายยูคาวะ กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรจะพูด เหลือแต่ความว่างเปล่า แต่ยังมีความหวังอยู่เต็มอกว่าข่าวลูกชายถูกฆ่าจะไม่เป็นความจริง ถ้ามีโอกาสพบ ตนเพียงต้องการสวมกอดลูกชายแน่นๆ ด้านนางจุนโกะ อิชิโดะ แม่ของนายโกโตะ เผยว่า ตนรู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หวังว่าลูกชายจะได้กลับบ้านเร็วๆนี้
ขณะที่ปฏิกิริยาจากผู้นำโลกต่อเหตุสุดโหดที่เกิดขึ้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันเดียวกันว่า ทำเนียบขาวแถลงว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้แถลงประณามการสังหารนายยูคาวะว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และนายโอบามาซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนอินเดีย ได้โทรศัพท์ถึงนายอาเบะ แสดงความไว้อาลัยเหตุสังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า สหรัฐฯจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับญี่ปุ่น ขอขอบคุณที่ญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โอลองด์ ของฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบ็อตต์ ของออสเตรเลีย ประณามว่าเป็นการเข่นฆ่าที่ป่าเถื่อนและโหดร้ายอย่างยิ่งเช่นกัน
