ปัจจุบันการจมน้ำเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตของกลุ่มเด็กไทย ซึ่งที่มีความเสี่ยงสูงสุดคือ ในช่วงอายุ 1-10 ขวบ และจากการตรวจสอบสถาน การณ์เด็กจมน้ำในประเทศไทย ของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า กลุ่มเด็ก 1-4 ขวบ มีอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงถึง 12.9/100,000 ต่อปี คิดเป็นร้อยละ 53 ของการเสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยพบมากในภาชนะกักเก็บน้ำ อ่างน้ำ กะละมัง ซึ่งผู้ปกครองต้องใช้ความระมัดระวังในการดูแลเด็กเล็กในขณะอยู่ในบ้านที่พักอาศัย หรือใกล้อ่างอาบน้ำ ตลอดเวลาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำดังกล่าว

จากสภาพปัญหาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กตามแหล่งจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พบว่า สินค้าประเภทอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กไม่มีการจัดทำฉลากสินค้า เพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก พ.ศ. 2541 เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก และไม่มีการแสดงข้อมูลด้านการเฝ้าระวังการจมน้ำของเด็กขณะอยู่ในอ่างอาบน้ำ

ดังนั้น สคบ. จึงเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก กำหนดให้มีการแสดงฉลากและคำเตือนที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการตระหนักและคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก โดยต้องระบุคำเตือนว่า “ระวังอันตราย ไม่ควรปล่อยเด็กอยู่ในน้ำ ตามลำพังเพราะเด็กอาจจมน้ำได้แม้มีระดับน้ำเพียงเล็กน้อย” ซึ่งข้อ ความที่เป็น “คำเตือน” ต้องใช้ตัวอักษรที่มีสีต่างจากสีพื้นผิวผลิตภัณฑ์ และมีขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรอื่นแสดงไว้ในลักษณะคงทนที่ผลิต ภัณฑ์ พร้อมทั้งแสดงตราสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีความกว้าง 3 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว และข้อความที่เป็นคำเตือนต้องใช้ตัวอักษรทึบขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรอื่น ในกรอบสี่เหลี่ยม สีของกรอบและข้อความตัดกับสีพื้นของฉลากในกรอบสี่เหลี่ยม สีของกรอบและข้อความตัดกับสีพื้นของฉลาก แสดงไว้ในลักษณะคงทนที่ผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สคบ. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการปรับปรุงแก้ไขฉลากสินค้าประเภทอ่างอาบน้ำสำหรับเด็ก ทั้งในเขตกรุงเทพ มหานครและในต่างจังหวัด พบว่า ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือกับ สคบ. ดำเนินการปรับเปลี่ยนแก้ไขฉลากอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กให้เป็นไปตามประกาศฯ โดยในส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้องนั้น สคบ. ได้แจ้งให้เร่งดำเนินการแก้ไข ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากพบว่าไม่ดำเนินการแก้ไขจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป.