เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า การที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีความผิดไม่ระงับยังยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ส่อให้เห็นว่ามีการทุจริต เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับกระแสสังคมและคนทั่วไป ที่ในขณะนี้มีความตื่นตัวกันมากในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่น ที่ต้องถูกตัดสิทธิไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง ส่วนคดีอาญา อัยการสูงสุดได้มีมติส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว มั่นใจว่าครั้งนี้น่าจะมีความชัดเจนในการเอาคนผิดมาลงโทษรวมทั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ซึ่งมีหลักฐานมัดแน่นหนา จนไม่น่ามีโอกาสโต้แย้งคดีได้มากนัก“คาดว่าการพิจารณาคดีนี้จะทำได้รวดเร็ว เพราะทั้ง ป.ป.ช.และผู้ถูกกล่าวหา ต่างมีข้อมูลหลักฐาน รวมทั้งประชาชนติดตามกันมาตลอดในเรื่องของข้อมูลสองฝ่าย ดังนั้นจะมีการอ้างสองมาตรฐานคงไม่ได้แล้ว ทั้งเรื่องขาดทุน การทุจริต รวมถึงการบริหารที่ผิดพลาดจึงเกิดความเสียหาย ซึ่งมีความชัดเจนในการปฏิบัติหลายขั้นตอนในการรับจำนำข้าว ทำให้เห็นว่ามีการทุจริตแน่นอน ตอนนี้คนตื่นตัวมากในการติดตามคดี มีการเข้าไปหาข้อมูล ทั้งนี้ ป.ป.ช. อัยการสูงสุด ศาล และผู้ถูกกล่าวหา ทุกฝ่ายควรมีคำอธิบายต่อประชาชนให้เข้าใจได้ ว่าเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นแล้วมีผลทำให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องถูกลงลงโทษอย่างไร”นายประมนต์ กล่าว.
