สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นักประดาน้ำอินโดนีเซีย 15 คนถูกส่งลงใต้น้ำเมื่อวันที่ 15 มกราคม เพื่อตรวจสอบชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องแอร์บัส 320-200 ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นชิ้นส่วนของเที่ยวบินคิวแซด 8501 ของแอร์เอเชียที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยหน่วยค้นหาและกู้ภัยเตรียมพร้อมนักประดาน้ำ 100 คนลงสมทบเพื่อกู้ร่างผู้เสียชีวิต
รายงานระบุว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนลำตัวซึ่งติดกับชิ้นส่วนปีกมีขนาดความยาว 26 เมตร พบอยู่ในทะเลชวา ห่างจากชิ้นส่วนหางที่ถูกพบและยกขึ้นเหนือน้ำด้วยบัลลูนยักษ์ก่อนหน้านี้ ไปราว 2 กิโลเมตร โดยนายบัมบัง โซลิสตีโย หัวหน้าหน่วยค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซียระบุว่า หากทีมประดาน้ำประสบปัญหาในการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ยังคงสูญหายอีกกว่า 100 รายจากซากใต้น้ำ จะพยายามยกซากดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำต่อไป ขณะที่ล่าสุดข้อมูลการบินและเสียงที่บันทึกจากห้องนักบินได้ถูกดึงออกมาจากกล่องดำแล้ว โดยอยู่ระหว่างการแปลงเป็นรูปแบบข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา น.ส.พ.จาการ์ตาโพสต์ของอินโดนีเซีย รายงานว่า นายซูนุ วิยาโมโก แถลงยอมรับระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมาธิการด้านคมนาคมของรัฐสภาอินโดนีเซีย ถึงกรณีที่เที่ยวบินคิวแซด 8501 ขึ้นบินในวันที่ไม่ได้รับอนญาตว่า เป็นการดำเนินการโดยประมาทของสายการบินในการแจ้งข้อมูลของการเปลี่ยนตารางบินด้วยวาจากับหน่วยงานควบคุมการบินของกระทรวงคมนาคมโดยไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร
