เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 ม.ค. พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล พ.ต.ต.วิชิตสินค้า สว.สส.สน.บุคคโล พร้อมพวกจับกุมนายญาณกร กานต์พิชชากุล อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ฎค-2857 กท. ได้ที่กลางซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 24 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี พ.ต.ท.ปิโยรส เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุให้ช่วยสกัดจับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงรถเก๋ง จากบริเวณศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองเนท์มิสเตอร์คาร์ กรุ๊ป ถนนรัชดา-ท่าพระ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี โดยคนร้ายขับรถคันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าเข้าไปภายในซอยรัชดา-ท่าพระ 4 โดยมีพนักงานขายและพลเมืองดีช่วยกันไล่จับกุม จึงนำชุดสืบสวนตั้งด่านสกัดจับ กระทั่งพบคนร้ายกำลังขับรถออกจากบริเวณปากซอยรัชดา-ท่าพระ4 เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตั้งด่านจึงทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปยังบริเวณซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 24 เจ้าหน้าที่จึงติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายพร้อมของกลางไว้ได้

สอบสวนนายญาณกรรับสารภาพว่า จะทำทีเข้าไปขอซื้อรถมือสองด้วยเงินดาวน์ตามเต๊นท์รถมือสองทั่วฝั่งธนบุริ ก่อนจะนำรถไปขายต่อให้นายทุนซึ่งทราบเพียงชื่อเล่นว่าบอย โดยนัดส่งมอบรถ และรับเงินกันที่ห้างแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ในราคาตั้งแต่ 5 หมื่นถึงกว่า 6 แสนบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ หากคันไหนมีทะเบียนเล่มราคาก็จะสูงขึ้น เมื่อได้เงินก็จะนำไปเที่ยวเล่นเมื่อเงินหมดก็กลับไปก่อเหตุใหม่ เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 50 กระทั่งช่วงหลังชื่อของตนติดแบล็คลิสต์ จึงต้องอาศัยใช้เอกสารของพรรคพวกที่รู้จักกันไปเช่าซื้อรถ ก่อนจะนำมาขายและตกลงราคากับเจ้าของสำเนาที่เช่าซื้อรถ ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นเจ้าของกิจการขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ กระทั่งปล่อยเครดิตให้ลูกค้าจนตัวเองเป็นหนี้ท่วมหัวกว่า10 ล้าน ต้องปล่อยเช็คเด้ง จนมีหมายจับหลาย 10 หมายในหลายท้องที่ แต่ตนเคยเป็นเด็กเต๊นท์รถมาก่อนจึงรู้ช่องโหว่และช่องทางหาเงินจากการซื้อรถมือสองไปขายเป็นอย่างดีจึงก่อเหตุดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า เคยเปลี่ยนชื่อเพื่อหลบหนีคดีมาแล้วกว่า 4 ครั้ง และมีหมายจับในข้อหา ฉ้อโกงรถและคดีเกี่ยวกับเช็คเงินสดติดตามตัวกว่า รวมกว่า 16 หมาย คาดว่ามีผู้เสียหายอีกหลายหลายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความจึงอยากจะฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากเต้นท์รถไหนที่เคยถูก นายญาณกรฉ้อโกงสามารถเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.บุคคโล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาวิ่งราวลักทรัพย์ของผู้อื่น นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.