คอลัมน์ จับกระแสตลาด

เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ นอกจากการเปลี่ยนปฏิทินแล้ว ยังมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในนั้นคือ เทรนด์ของสินค้าที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นและความต้องการของผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป

สินค้าที่น่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคไม่น้อยในปีนี้คงหนีไม่พ้นทีวี ที่มีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่การออกอากาศระบบดิจิทัล ที่จะทำให้ผู้บริโภคถือโอกาสนี้มองหาทีวีเครื่องใหม่เพื่อใช้ดูช่องทีวีดิจิทัลที่คมชัดขึ้น

"โทชิฮิโรมาจิมะ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ย้ำว่า เทรนด์ของทีวี นอกจากเรื่องความใหญ่และความคมชัดแล้ว การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและฟังก์ชั่นเสริมจะเริ่มมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากผู้คนใช้ทีวีมากกว่าการดูภาพยนตร์หรือฟรีทีวีแล้ว แต่ยังใช้เล่นอินเทอร์เน็ต ดูภาพยนตร์ออนไลน์ และอื่น ๆ อีกด้วย

สอดคล้องกับ "ถกล นิยมไทย" ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย การตลาดและบริการ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ที่กล่าวว่า สินค้าทีวีรุ่นเรือธงของบริษัทจะเน้นไซซ์ใหญ่ขึ้น และการมีนวัตกรรม รวมไปถึงดีไซน์แบบเรียบหรูแบบมินิมอลลิสติก

ส่วน "นิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี" หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจะหันมาทำตลาดทีวีโอแอลอีดีจอโค้ง ร่วมกันกับทีวี 4K โดยจะเพิ่มไลน์อัพโอแอลอีดีให้มีหลายขนาดมากขึ้น

สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นใหญ่อย่างตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้าเทรนด์ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไปในทิศทางเดิมกับปีที่ผ่าน ๆ มา "บุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์" ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เฉลยว่า ครอบครัวไทยนิยมเก็บของต่าง ๆ ในตู้เย็น ทำให้ต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นอยู่เสมอ

ปีนี้ฮิตาชิจะส่งตู้เย็นขนาด 700 ลิตร หรือประมาณ 25 คิว เข้ามาทำตลาด ซึ่งน่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

เช่นเดียวกับค่ายโตชิบาที่ "ถกล" ระบุว่า สินค้าตู้เย็นของโตชิบาในปีหน้าจะเน้นขนาดที่ใหญ่ และที่ดีไซน์หรูหรา พร้อมด้วยระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อประหยัดพลังงาน ส่วนเครื่องซักผ้าจะเน้นนำเสนอนวัตกรรมที่ทำให้ซักผ้าได้สะอาดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กซึ่งในปีนี้มีสินค้าแบรนด์ไม่คุ้นหูเพิ่มเข้ามาจนผิดสังเกต "วีรเทพ ฉัตรศิริวิชัยกุล" รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด อธิบายว่า ประเด็นหลักของสินค้ากลุ่มนี้จะเป็นการชูนวัตกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นจุดขาย

ทั้งนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กจะแข่งขันดุเดือดขึ้น จากผู้เล่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าบริษัทและผู้เล่นหน้าเก่าจะยังได้เปรียบด้านคุณภาพและความเชื่อมั่น โดยชาร์ปจะยังเน้นมองหาช่องว่างตลาดและพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เหล่านั้น เช่น หม้อหุงข้าวขนาดเล็ก 0.3 ลิตรสำหรับนักศึกษาที่อยู่หอพักหรือผู้สูงอายุ

"วีรเทพ" ยังได้ทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้อาจจะมีผู้เล่นจากเกาหลีเข้ามาในตลาด โดยคาดว่าจะลงเล่นในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพที่ยังเป็นตลาดขนาดเล็กอยู่

ด้านโตชิบา "ถกล นิยมไทย" กล่าวว่า บริษัทจะเน้นนวัตกรรมเป็นหลัก เช่น ไมโครเวฟ ซึ่งรุ่นเรือธงที่ใช้ระบบสัมผัสในการสั่งงาน และหม้อหุงข้าวระบบดิจิทัล

นี่เป็นข่าวดีของผู้บริโภคที่จะมีตัวเลือกมากขึ้น ทั้งสินค้าราคาถูกจากจีนที่เหมาะกับการใช้ชั่วคราว และสินค้าแบรนด์เนมสำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการมีอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ ประจำบ้านไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าจะเด่นชัดมากอีกในปี 2558 นี้ คือ แบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายเพิ่มความเข้มข้นในตลาดบนและกลุ่มภาคธุรกิจหรือตลาดบีทูบีซึ่งถูกมองว่าจะยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่เช่น พานาโซนิค ประกาศจะรุกตลาดลูกค้าองค์กรในกลุ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย จอแสดงผลกลางแจ้งและตู้ชุมสายแบบดิจิทัล ไปจนถึงกลุ่มงานโปรเจ็กต์ที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั้งชิ้นเล็กและใหญ่ พร้อมนำความเป็นญี่ปุ่นมาเป็นจุดขายด้วยไลน์สินค้าที่นำเข้าจากแดนปลาดิบ

ด้านฮิตาชิ ที่ชูเรื่องสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในการรุกตลาดนี้เช่นเดียวกันนั้น "บุญชัย" แสดงความเห็นว่า ช่องทางนี้ถือเป็นโอกาสที่จะช่วยกระตุ้นตลาดได้ และฮิตาชิเองยังมีจุดแข็งที่สามารถเลือกฟังก์ชั่นของสินค้าได้ตรงความต้องการของคนไทย เช่น หม้อหุงข้าวที่มีโปรแกรมหุงข้าวหอมมะลิ หรือการเสริมฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสุขภาพในเตาไมโครเวฟ เป็นต้น

หากเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นอย่างที่คาดการณ์กันไว้ การแข่งขันก็น่าจะทวีความดุเดือดเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะแต่ละค่ายจะต้องรีบสร้างรายได้ชดเชยจากที่หายไปเมื่อปีที่ผ่านมา