ข่าว ลือ-ข่าวลวง "3 นายพล" ที่สวม "หมวกเสนาบดี" ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกใบ ทั้ง "บิ๊กนมชง" พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) -รมว.พาณิชย์, "บิ๊กต๊อก" พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด-รมว.ยุติธรรม และ "บิ๊กน้อย" พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บังคับบัญชา-รมช.ศึกษาธิการ เตรียมลาออกจากตำแหน่งในกองทัพ "ก่อนเกษียณ" ในเดือนตุลาคม 58 หลังสละเวลารับ "งานราษฎร์" บริหารประเทศ จน "งานหลวง" ภายในกองทัพ สะดุด

"สปอตไลต์" ฉายจับไปที่ พล.อ.ฉัตรชัย ในฐานะ 1 ใน 5 เสือ ทบ. ที่จะ "ว่างลง" เพื่อ "เปิดทาง" ให้กับ 2 แคนดิเดต "ทบ.1" ซึ่งเกษียณอายุราชการพร้อมกันเดือนกันยายน 59 แทน "บิ๊กโด่ง"-พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.

1 "บิ๊กหมู"- พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่ 1 เตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) "เพื่อนร่วมรุ่น" ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน และ "น้องรัก" ในสาย "บิ๊กป้อม"- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ "พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์" และอีก 1 "บิ๊กติ๊ก" - พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. คนที่ 2 ตท.15 -"น้องชาย" ใน "สายเลือด" พล.อ.ประยุทธ์ ที่รอ "พี่-น้องบูรพาพยัคฆ์" ตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่า ใคร ? คือ ผู้เหมาะสมที่จะก้าวขึ้นสู่ "เบอร์ 1" ท่ามกลางกระแสข่าว "ปฏิวัติซ้อน"-"ปฏิวัติซ้ำ"

ทว่าคำถามคือ "ใครล่ะ"? จะเป็นคนลงมือ เพราะทุก "ขุมอำนาจ" ในกองทัพ ล้วนแล้วถูกสยายปีก "แผงอำนาจสายบูรพาพยัคฆ์" ไว้เต็มพรืดทั้งหมดแล้ว

กอปรกับข่าว "เกาเหลา" ระหว่าง "พี่ป้อม" กับ "น้องตู่" ยิ่งทำให้อุณหภูมิใน "บ้าน 3 ป." ระอุขึ้น เพราะหาก 3 นายพล โดยเฉพาะ "พล.อ.ฉัตรชัย" ตัดสินใจลาออกจริง ก็จะต้องตัดสินใจเลือกว่าใครจะเข้า "ไลน์" ในตำแหน่ง "รอง ผบ.ทบ." เพื่อจ่อขึ้นเป็น "ผบ.ทบ.คนใหม่" ก่อนถึงช่วงเวลาอันสมควร

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 นายพล ก็ออกมายืนยันกลางห้องประชุมคณะรัฐมนตรีทันที "ผมทำให้ได้ ช่วยพี่ได้ ผมทำเพื่อบ้านเมือง" ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาสยบทุก "คำลือ" ข่าวลือที่ว่าจะให้รัฐมนตรีบางคนที่ควบตำแหน่งข้าราชการประจำลาออกจาก ตำแหน่งข้าราชการประจำนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนอนุมัติมีเพียงคนเดียวคือผม คนที่จะปรับรัฐมนตรีก็คือผม วันนี้ยังไม่มีอะไร ไม่มีใครลาออกทั้งสิ้น และผมไม่ได้ให้ใครลาออก ถ้าจะให้ใครลาออกผมคงไม่ให้เขาเข้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว

ในส่วนของการ ปรับย้าย แต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพใหม่ เป็นสิทธิ์เป็นอำนาจของตนในการอนุมัติ ซึ่งมีคณะกรรมการแต่งตั้งอยู่แล้วตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กลาโหม ก็จะเสนอขึ้นมาตามขั้นตอน และการปรับย้ายจะไม่ทำกันกลางปี...เว้นแต่จะมีความผิด ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีการปรับ จะไปดำเนินการในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการปรับย้ายหลัก ส่วนการปรับในเดือนเมษายนถือเป็นการปรับเพื่อหมุนเวียนเพื่อรอเกษียณ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการปรับย้ายใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะถือว่าปรับไปแล้ว ในเดือนเมษายนก็จะปรับเพื่อทดแทนปรับเลื่อนตำแหน่งเล็กน้อย และ "คำลวง" โดยเฉพาะเรื่องน้องชายของผมก็ไม่เกี่ยว ไม่มีคำว่าน้องชาย มีแต่ข้าราชการกองทัพบก ผมไม่ได้อยู่ในกองทัพบกก็ให้สิทธิ์ ผบ.ทบ.เป็นผู้ตัดสินเป็นผู้พิจารณา อย่ามากังวลกับผม ขอยืนยันว่าไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่ในทางที่ผิดอยู่แล้ว กองทัพบกเขามีคำว่า อาวุโส ถึงแม้จะมีรุ่นหรือเกษียณพร้อมกันแต่ต้องดูว่าใครอาวุโสกว่า"

หาก มีความจำเป็นเหตุผลอย่างอื่น เช่น ทำงานได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า คณะกรรมการพิจารณาของกองทัพบกต้องว่ากันไปไม่เกี่ยวกับผม อย่ามากังวลว่าผมจะต้องเอาคนนั้นคนนี้มา ที่ผมพูดใครจะเป็นก็เป็นไป ไม่ได้มีผลกับผม เพราะผมถือว่ากองทัพบกก็คือกองทัพบกของชาติและประชาชน และผมทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชน เชื่อว่าทุกกองทัพมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ผมไว้ใจทุกคน ไม่มีใครทำนอกกรอบและผมก็ไม่เคยไปละลาบละล้วง

ก่อน จะตบโต๊ะ "วันนี้ไม่มีปฏิวัติ ไม่มีปลด ไม่มีย้าย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ยืนยันว่าไม่มี และไม่เคยมั่นใจในอำนาจ เพราะไม่มีอำนาจ แต่บอกว่ามีอำนาจในการปกครองบังคับบัญชาบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีอำนาจไปแสวงหาผลประโยชน์หรือเพื่อสร้างฐานอำนาจใหม่ ไม่มี ไม่เคยคิด ใครล่ะ มาซิมาปฏิวัติไปเลย ใครล่ะ คงไม่มีใครเขาโง่ที่จะมาปฏิวัติ ยืนยันว่าไม่มีปฏิวัติแน่นอน"

จึงเป็นการโยนหินถามทาง "บิ๊กตู่" ในหมาก-กลระดับ "ขงเบ้ง" ลงกลางวง

"พี่-น้อง 3 ป." ว่าจะเลือกค้ำยันบัลลังก์ หรือ เอกภาพในกองทัพและสายสัมพันธ์เหล่าทหารเสือราชินี