เมื่อวันที่7 ม.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นายสมพงษ์ ศรีอนันต์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี น.ส.ภัทรภร อุปริรัตน์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี และตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้เข้าให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.หนก (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ที่ถูกมารดาจับมัดแขนแล้วผูกไว้กับขื่อบ้านเลขที่ 27/17 หมู่ 4 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานีเมื่อถึงพบเป็นบ้านไม้ถูกล็อกอย่างมิดชิด จากการมองผ่านช่องว่างระหว่างหลังคาบ้านต้องพบภาพอันน่าตกใจ เมื่อเห็น ด.ญ.หนก อยู่ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ถูกเชือกฟางมัดข้อมือซ้ายขึงไว้กับขื่อหลังคาจนไม่สามารถงอขหรือนั่งลงกับพื้นได้ เป้นภาพอันน่าเวทนามาก เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้พ่อและแม่ของเด็กรีบเปิดประตูเพื่อเข้าไปตัดเชือกและคุมตัวทั้งหมดมาสอบปากคำโดย ด.ญ.หนก ที่อยู่ในอาการหวาดระแวงพอให้การได้ว่า เป็นลูกสาวคนโต มีน้องสาวอีกคนอายุ 12 ปี ปกติอาศัยอยู่กัน 4 คน ซึ่งพ่อและแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ชั้น ม.2 แต่แม่ให้ลาออกเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อ้างกับครูว่าตนเป็นเด็กเกเรและดื้อมาก แต่พอมาอยู่บ้านแม่กลับผูกมือตนขึงไว้กับขื่อหลังคาทุกวัน จะแกะอีกครั้งก็ตอนกลับมาถึงบ้าน ทำให้ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะต้องยืนทั้งวัน แมลงกัดต่อยก็ปัดป้องไม่ได้ ขณะที่ผู้เป็นแม่ เผยว่า ที่ทำไปเพราะความรักลูก ลูกเกเรมาก ทั้งยังไม่ตั้งใจเรียนอีก รวมทั้งมีพฤติกรรมบางอย่างที่รับไม่ได้ด้วย แต่ขอไม่บอกเพราะอับอายเกินไป วานนี้(6 ม.ค.) ก็มีตำรวจมาบอกว่าลูกสาวไปขโมยมือถือของเพื่อนบ้าน ด้วยึความกลัวว่าเดี่ยวออกไปก็ก่อเหตุอีกจึงต้องจับมัดดังกล่าว เพื่อเป็นการสั่งสอนและกักบริเวร ด้านพยานรายหนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลกลับกันว่า แม่คนนี้มีนิสัยดุร้ายมักเฆี่ยนตีลูกเป็นประจำ มีหลายครั้งที่ลูกๆวิ่งหนีมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็พยายามไกล่เกลี่ยให้หลายครั้งแต่สุดท้ายก็ทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงใช้สมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ เพื่อเป้นหลักฐานไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานส่วน นางปวีณา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้เด็กไปพักอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี เพื่อรอการตรวจร่างกายและสอบปากคำโดยสหวิชาชีพ ส่วนแม่เด็กยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่หากพบว่าผิดจริงต้องเจอดำเนินคดี.