เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กล่าวถึงกรณีทีมทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้อดีตรัฐมนตรี เข้าร่วมชี้แจงในการประชุมแถลงเปิดสำนวนถอดถอน วันที่ 9 ม.ค.นี้ ว่า ต้องดูว่าทั้ง 8 คนเข้ามาทำหน้าที่อะไร ถ้ามาให้กำลังใจก็ไม่น่าเป็นปัญหา แต่ถ้าจะมาร่วมแถลงก็ต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของประธานในที่ประชุม โดยจะพิจารณาว่ามาในฐานะอะไร หากในฐานะพยานก็คงไม่ได้ เพราะ สนช.ได้มีมติว่าไม่อนุญาตให้ผู้ถูกร้องเพิ่มพยานหลักฐานไปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นพยานหลักฐานใหม่ การร่วมชี้แจงต้องอยู่ในประเด็นที่เกี่ยวกับสำนวน ป.ป.ช.เท่านั้น ซึ่งในวันประชุมตนจะควบคุมให้ผู้ร่วมแถลงพูดเฉพาะประเด็นในสำนวนเท่านั้น ห้ามนอกประเด็น ส่วนข้อร้องขอให้มีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 นั้น ตนมองว่าที่ผ่านมาการพิจารณาวาระถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ไม่เคยมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 แต่อย่างใด โดยมีการถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านสถานีวิทยุกระจายและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาอยู่แล้ว เพราะกระบวนการในการพิจารณาต่างๆ ของ สนช.ทำอย่างเปิดเผย ทั้งนี้กระบวนการทั้งหมดจะเสร็จภายในเดือน ม.ค. 

นายพรเพชร ยังได้กล่าวถึงกรณีนายวิลาส จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นให้เร่งรัดการสอบสวนเรื่องการใช้จ่ายและการทุจริตโครงการต่างๆ ของนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้อยู่ในอำนาจของสภาฯ ที่จะตั้งกรรมการสอบสวน เนื่องจากนายสุวิจักขณ์ ถูกย้ายไปประจำยังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งเท่าที่ตนทราบทางสำนักปลัดสำนักนายกฯ ก็ได้มีการตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนแล้ว ขณะที่ข้าราชการของสภาฯที่ถูกร้องว่ามีส่วนในการทุจริตนั้น ทางสภาฯได้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้วเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้ ได้กำชับให้นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิสภาผู้แทนราษฎร เข้ารายงานความคืบหน้าทุกเดือน ส่วนเรื่องที่มีการยื่นร้องว่า การทำงานของนายจเรไม่มีประสิทธิภาพนั้น ได้ให้นายจเรทำรายงานมาเสนอตนรับทราบ โดยยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด.