10 โมเมนท์ข่าวกีฬาประจำปี 57 กับช่วงขาขึ้นของวงการกีฬาไทย
 


10 โมเมนท์ข่าวกีฬาประจำปี 57 กับช่วงขาขึ้นของวงการกีฬาไทย


10 โมเมนท์ข่าวกีฬาประจำปี 57 กับช่วงขาขึ้นของวงการกีฬาไทย

ปี 2557 ถือเป็นอีกปีที่ครบรสชาติวงการกีฬา ทั้งเหตุดราม่า กระแสเกาเหลาดุเดือด ไปจนถึงความสำเร็จที่น่าประทับใจ พร้อมการแจ้งเกิดของหลายๆ ดาวรุ่งวงการกีฬาไทย และกีฬาโลก ตั้งแต่มหกรรมฟุตบอลโลก ที่สะกดแฟนบอลให้ต้องมนต์ และปี "ขาขึ้น" ของวงการกีฬาไทย ที่สามารถกอบกู้ศรัทธาแฟนกีฬาบ้านเรา ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง "ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" ได้รวบรวมโมเมนท์สำคัญๆ ในรอบปีของวงการกีฬามาฝากผู้อ่านกัน จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปย้อนรอยกันเลย



"อินทรีเหล็ก" แชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4


มหกรรมฟุตบอลที่คนทั้งโลกรอคอย โดยตัวพ่อแห่งวงการฟุตบอลอย่าง "แซมบ้า" บราซิล รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางกระแสต่อต้านและปัญหาจากผู้คนภายในประเทศ จนเป็นประเด็นตั้งคำถามถึงความพร้อมของเจ้าภาพในครั้งนี้ ก่อนเปิดฉากทัวร์นาเมนท์ได้แบบฉิวเฉียด โดยเจ้าภาพปีนี้หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมาก ที่จะคว้าแชมป์ที่บ้านเกิดกะว่าได้ฉลองทั้งที เอาที่บ้านตัวเองกันไปเลย

โดยทีมตัวเต็งที่โชว์ฟอร์มดีในทัวร์นาเมนท์นี้ล้วนหัวกะทิแทบทั้งสิ้น บราซิล ฮอลแลนด์ อาร์เจนตินา เยอรมัน และทีมม้ามืดที่แจ้งเกิดเต็มตัวอย่างคอสตาริกา ที่หักด่านปากกาเซียน ทะยานเข้ารอบแบบเหนือความคาดหมาย ก่อนตกรอบด้วยน้ำมือทีมกังหันสีส้มไปแบบน่าเสียดาย ตามด้วยเม็กซิโก โคลัมเบีย ที่แม้ขาดตัว "ราดาเมล ฟัลเกา" ดาวยิงตัวเก่งไป แต่ก็ยังมีอาวุธลับอย่าง "ฮาเมส โรดริเกซ" ที่แจ้งเกิดเต็มตัว และทีมปีศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยี่ยม ที่ต่างโชว์ฟอร์มเก่งแบบไม่เกรงใจทีมยักษ์ใหญ่ พร้อมทั้งแจ้งเกิดผู้รักษาประตูแดนละติน ที่เข้าขั้นเหนียวหนึบ ชนิดดาวยิงชั้นนำถึงกับส่ายหัวมาแล้ว นำโดยกิเยร์โม่ โอชัวร์ นายด่านจากจังโก้ "เม็กซิโก"

ซึ่งเหตุการณ์เด่นๆ อยู่ที่อาการบาดเจ็บของเนย์มาร์ ที่ปิดเทอมยาวก่อนใครเพื่อน จากอาการบาดเจ็บที่หลัง ทำให้บราซิลไปไม่ถึงฝัน โดนเยอรมันต้อนคาบ้านท่วมท้น 7-1 แบบขายหน้าทั้งประเทศ โดยสุดท้ายเป็นเยอรมันที่ทะยานเข้าไปเฉือดฟ้าขาว อาร์เจนตินาร์ 1-0 จากลูกยิงช่วงต่อเวลาของมาริโอ เกิตเซ่ คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ไปครองสุดยิ่งใหญ่




เกาเหลา "น้องก้อย-โค้ชเช"


ถือเป็นข่าวสุดเข้มข้น และร้อนแรงอีกหนึ่งข่าวของวงการกีฬาไทย สำหรับกรณีเกาเหลาของ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดทีมชาติไทย วัย 23 ปี เจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่ออกมาโพสต์ข้อความลงโซเชียล เน็ตเวิร์ก ว่าถูก "โค้ชเช" ทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะ ต่อย ขณะที่กำลังแข่งขันรายการ โคเรีย โอเพ่น 2014 เหตุเพราะตนไม่พร้อมสำหรับการแข่งขัน จนทำให้ต้องตกรอบแรก ซึ่งทำให้โค้ชเชออกอาการไม่พอใจถึงระเบียบวินับของน้องก้อยมาก

ซึ่งหลังจากเดินทางถึงเมืองไทย ฝ่ายน้องก้อยได้เดินหน้าให้สัมภาษณ์โจมตีโค้ชเช จนทำให้โค้ชขวัญใจชาวไทยถึงกับเกิดอาการท้อ และมีข่าวว่าจะโบกมือลาตำแหน่ง ทั้งนี้ คนในวงการกีฬา และชาวเน็ตต่างพากันให้กำลังใจโค้ชเช และเป็นกระแสสังคมที่กดดันน้องก้อย โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความหละหลวมของระเบียบวินัยของนักกีฬา ขณะที่บางกลุ่มมองว่า เป็นการกระทำที่รุนแรงไปของโค้ช

ก่อนที่เหตุการณ์จะผ่อนคลายลง โค้ชเชออกมายอมรับว่า ตนได้ลงโทษนักกีฬาจริง แต่เป็นเพราะอยากให้เด็กมีระเบียบวินัยจริงพร้อมกับกล่าวขอโทษ และน้องก้อยก็กล่าวขอโทษ ขอขมาโค้ชเชเช่นกัน จึงทำให้เรื่องทั้งหมดจบลง โดยที่ "น้องก้อย" ไม่มีชื่อติดทีมลุยศึกเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้




การตัดสินสุดกังขา "อินชอนเกมส์ 2014"

การแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 เจ้าภาพ "เกาหลีใต้" ถูกโจมตีอย่างหนักถึงการตัดสินที่น่ากังขา ทั้งฟุตบอลชาย ในเกมรอบรองชนะเลิศ โดยลูกจุดโทษทีมไทยถูกทำฟาล์วนอกเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าให้เป็นจุดโทษ ขณะที่ครึ่งหลังผู้เล่นเกาหลีใต้ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินกลับเมินเฉย รวมทั้งมวยสากลสมัครเล่น ที่หลายคู่เจ้าภาพชนะแบบค้านสายตา และลมปริศนาในกีฬาแบดมินตัน ที่ทำให้นักกีฬาจากจีนและญี่ปุ่น ไม่สามารถบังคับลูกได้อย่างที่ต้องการ แต่ที่เข้าตาสายตาประชาชนมากที่สุด

เป็นเคสของ "สาริตา เทวี" นักชกสาวชาวอินเดีย รัวหมัดใส่นักกีฬาเกาหลีใต้แบบไม่ยั้ง แต่เธอกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้เพียงเหรียญทองแดงเท่านั้น และที่เจ็บแสบคือ ในพิธีมอบเหรียญนั้น เธอถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ และเอาเหรียญทองแดงที่เธอได้ ไปคล้องคอนักกีฬาเกาหลีใต้ พร้อมเดินลงจากเวทีไป เพื่อเป็นการตบหน้าการตัดสินของชาติเจ้าภาพ




บอล(หญิง)ไทย ไปบอลโลก

แม้ทีมฟุตบอลชายไทย ยังต้องร้องเพลงรอกันต่อไป สำหรับการไปโม่แข้งศึกฟุตบอลโลก ที่ยังคงฝันค้างฟ้ากันต่อไป แต่ทีมแม่เนื้อ่อนไทยขอไปก่อน เมื่อแข้งสาวไทยโชว์ฟอร์มเก่ง เฉือนชนะเวียดนาม 2-1 ในเกมชิงอันดับ 5 ของศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 จนสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย ไปทำศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ประเทศแคนาดา ในปี พ.ศ. 2558 แม้ผลการจับสลากจะหินสุดๆ เมื่อไทยอยู่สายบี ร่วมกับเสือ สิงห์ กระทิง แรด อย่าง เยอรมนี ไอวอรีโคสต์ และนอร์เวย์ ก็ตาม

โดยเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ได้รับเครดิตไปเต็มๆ




น้องหยอยปั่นกระหึ่มอินชอน เว่าอีสานฟีเวอร์

คนนี้หากไม่ติดท็อปลิสท์ เหตุการณ์สำคัญๆ ในวงการกีฬาไทยคงจะไม่ครบถ้วนแน่ๆ สำหรับ "น้องหยอย" อแมนด้า คาร์ นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่สามารถคว้าเหรียญทองที่ 9 ให้ทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ ในศึกเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ ที่แจ้งเกิดแบบเต็มตัว ด้วยความใสซื่อ น่ารัก และการพูดภาษาอีสานที่ได้ใจคนไทยไปเต็มๆ จนตอนนี้กลายเป็นที่รักของคน(เกือบ) ทั้งประเทศไปแล้ว




ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ตบสนั่นโลก โค้ชสละโสด

ในปีนี้ ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ยังคงทำให้หัวใจแฟนกีฬาชาวไทยพองโต กรี๊ดแตก ลุ้นเอาใจช่วยที่หน้าจอโทรทัศน์เหมือนเดิม โดยไฮไลท์อยู่ที่สองศึกใหญ่ วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก และศึกวอลเลย์บอลเวิลด์ กรังปรีซ์ ที่ชนกับทีมระดับช้างของโลกทั้งสิ้น โดยสาวไทยรวมสปิริตสู้เต็มที่ จบที่อันดับ 17 และ 11 ตามลำดับ แต่เอาชนะใจคนไทยได้ทั้งประเทศ

ก่อนปิดท้ายด้วยรายการเอเชียนเกมส์ 2014 ที่อยู่กรุ๊ปสุดหิน มีคู่แข่งอย่าง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยไทยอาศัยฟอร์มการเล่นและสปิริตที่ยอดเยี่ยม ผ่านเข้ารอบไปชนกับคาซัคสถาน ก่อนไล่ต้อนเอาชนะไปได้ 3-0 เซ็ต ก่อนจะแพ้จีนไปในรอบรอง แต่ยังสามารถคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาตร์มาครองได้สำเร็จ

แถมท้ายด้วยข่าวดีของ "โค้ชอ๊อด" ที่สละโสดกับ "เฝิง คุน" อดีตมือเซตทีมชาติจีนชุดแชมป์โอลิมปิก 2004 หลังคบหาดูใจกันมากว่า 5 ปี ถือเป็นอีกปีทองของวงการวอลเลย์บอลทั้งในและนอกสนาม




บอลไทยกลับมาฟีเวอร์ คว้าแชมป์อาเวียน แข้ง-โค้ช ฮอตยิ่งกว่าดารา

ถือเป็นปีขาขึ้นของวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง หลังจากทีมสาวไทยได้ลุยบอลโลก ฝ่ายชายถึงแม้ยังไม่ใกล้เคียง แต่ก็ส่งสัญญาณบวก กู้ศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้ จากกระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์ นำโดยแกนนำ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่มาสร้างทีมโดยผู้เล่นหน้าใหม่และดาวรุ่งหลายราย จนแจ้งเกิดทำผลงานเยี่ยมในศึกเอเชียนเกมส์ ที่สามารถคว้าอันดับ 4 มาได้แบบน่าชื่นชม พร้อมกับฟอร์มการเล่น การต่อบอลของผู้เล่นแนวรุกที่จัดจ้านแบบทีไม่เห็นแบบนี้ในทีมชาติไทยมานาน

ก่อนต่อยอดความสำเร็จด้วยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ถึงถิ่นมาเลเซีย หลังนัดแรกเปิดบ้านเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 กุมความได้เปรียบ ถ้วยแชมป์อยู่ในมือครึ่งใบแล้ว แต่เกมที่สองกลับถูกทีมเสือเหลืองขย่มออกนำไปก่อน 3-0 สถานการณ์ทีมไทยเข้าขั้นตึงเครียด แต่มาได้สองคู่หูฮีโร่ "เจ&ปุยส์" ชารีล ชัปปุยส์ และชนาธิป สรงกระสินธิ์ ช่วยกันยิงคนละประตู ให้ทีมไล่ไล่มาเป็น 2-3 ก่อนคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 4-3 คว้าแชมป์ซูซูกิคัพสมัยที่ 4 ในรอบ 12 ปีสุดยิ่งใหญ่

โดยเป็นการปลุกกระแสบอลไทยให้กลับมากระหึ่มอีกครั้ง จากการเปิดขายบัตรรอบชิงที่หมดภายใน 2 ชั่วโมง จนกลายเป็นของมีค่าหายากในตอนนั้น พร้อมกับกระแสบอลไทยฟีเวอร์ ของหนุ่มน้อยชารีล ชัปปุยส์ ที่ถูกอกถูกใจแม่ยกทั้งประเทศ ขระที่ โค้ชซิโก้ ก็ฮอตไม่แพ้ดารากันเลยทีเดียว สำหรับปีหน้าทีมชาติไทยยังมีอีก 4 ทัวร์นาเมนท์รออยู่ ติดตามกันต่อไปว่า ทีมชาติไทยชุดนี้จะต่อยอดผลงานได้ดีแค่ไหน ภายใต้การคุมบังเหียนของอดีตดาวยิงหมายเลข 13




บัวขาวชิ่งหนีเวทีปริศนา คำถามที่ไร้คำตอบ

อีกกรณีดราม่าวงการมวย หลังจากเกิดกรณีในการแข่งขันมวยไทย เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนอล บัวขาว บัญชาเมฆ อดีตแชมป์ เค-วัน รุ่นน้ำหนัก 70 กก. 2 สมัย ที่มีคิวพบกับ "เอ็นริโก เคห์ล" คู่ชกจากเยอรมนี ได้เดินลงจากเวที หลังจากจบยก 3 แบบหน้าตาเฉย จนสร้างความมึนงงให้คณะผู้จัดการแข่งขันเป็นอย่างมาก จนสุดท้ายมีการปรับแพ้ฟาล์ว ทำให้นักชกจากเยอรมัน ขึ้นเป็นแชมป์เค-วัน  คนใหม่ทันที

โดยก่อนหน้าจะถึงยก 3 ทางด้านบัวขาว ได้ต่อยกับคู่ต่อสู้จากเยอรมันอย่างดุเดือด แต่สุดท้ายบัวขาวก็ตัดสินใจเดินออกไปจากเวทีดังกล่าว ท่ามกลางเสียโห่จากแฟนมวยรอบเวที หลังจากนั้นทางบัวขาวได้ออกมาแถลงข่าวว่า "สิ่งที่ผมทำผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางคนอาจจะไม่เข้าใจ ไม่รู้เบื้องลึก เบื้องตื้น บางคนก็เข้าใจสิ่งที่ผมทำลงไป ยืนยันว่าผมไม่ได้ละทิ้งหน้าที่บนเวที แต่ผมทำหน้าที่ของผม ส่วนจะแพ้หรือชนะอยู่ที่กรรมการบนเวที คณะกรรมการตัดสิน ตัวผมไม่ได้ปักใจการตัดสิน แต่ผมให้คนไทยตัดสินว่า ผลการชกเป็นอย่างไร นี่คือจุดประสงค์ผม" โดยทิ้งปริศนาสาเหตุที่จริงไว้ต่อไป




จะออกไปแตะขอบฟ้า สตีเว่น เจอร์ "ลื่น"


ย้อนกลับไปเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้วของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงโค้งสุดท้าย ที่ทาง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กำลังขับเคี่ยวอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดเข้มข้น โดยเกมที่ตัดสินและมีผลตัดสินแชมป์ อยู่ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี โดยที่ลิเวอร์พูลขอเพียงเสมอในเกมนี้ แล้วชนะในเกมที่เหลือก็เพียงพอต่อการคว้าแชมป์ แต่แล้วจังหวะ "ผิดพลาด" ประจำซีซั่น ที่เป็นการโยนแชมป์ทิ้งของฝ่ายแดงลิเวอร์พูล เมื่อสตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นล้ม ทำให้เจอเดมบ้า บา ฉกบอลไปยิงง่ายๆ พาเชลซีออกนำ 1-0 ก่อนจบเกมเป็นเชลซีบุกมาชนะ 2-0 ทำให้การลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลสั่นคลอน พร้อมกับโยนโมเมนตัมไปทางฝั่งแมนฯ ซิตี้ ทันที ก่อนมหาเศรษฐีเมืองแมนเชสเตอร์จะคล้าแชมป์ในบั้นปลาย


จากความผิดพลาดดังกล่าว กลายเป็นการล้อเลียนจนถึงวันนี้ สำหรับการลื่นล้ม ที่เป็นการโยนแชมป์ของตัวเองทิ้งทันที





"เจ้ามุ้ย" อินลาลีก้า สเปน


เป็นข่าวโด่งดังฮือฮาสุดๆ เมื่อ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ย้ายข้ามฟากจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บินลัดฟ้าสู่แดนกระทิงดุ ไปค้าแข่งกับอัลเมเรีย จนเป็นที่สนใจของแฟนบอลชาวไทยอย่างมาก ทั้งให้การติดตาม เอาใจช่วย โดยเจ้ามุ้ยได้รับโอกาสไม่มากนัก ใช้เวลาอยู่กับม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ จนสื่อดังของสเปนจัดประจำทีมม้านั่งสำรอง ก็มีชื่อของดาวยิงทีมชาติไทยร่วมแจมอยู่ด้วย แต่แล้วโอกาสของเจ้ามุ้ยก็มาถึง เมื่อถูกส่งลงฟาดแข่งกับเรอัล เบติส ในศึกโคปา เดอ เรย์ แล้วเจ้ามุ้ยก็สามารถยิงประตูเปิดซิงของตัวเองได้ทันที ในเกมที่เฉือนเบติส 4-3 ทำให้ประตูโอกาสของเจ้ามุ้ยกับทีมอัลเมเรียเปิดขึ้นอีกครั้ง




เหตุสลด แข้งอินเดียตีลังกาตาม "โคลเซ่" เสียชีวิตคาสนาม


เกิดเหตุสลดในวงการลูกหนังลีกอินเดียขึ้น เมื่อมิดฟิลด์ทีม "เบธเลเฮม วังธลาง เอฟซี" ทีมลีกระดับล่างในแดนภารตะ เสียชีวิตหลังจากแสดงท่าดีใจด้วยการกระโดดตีลังกา แต่จังหวะลงพลาด เมื่อส่วนบริเวณคอลงกระแทกสนามอย่างจัง ทำให้คอหัก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมลีกระดับล่างของประเทศอินเดีย โดย เบธเลฮัม วังธลาง เอฟซี พ่ายคารังต่อ ชานมารี เวสต์ เอฟซี 2-3 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา

จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ปีเตอร์ เบียคซังซูอล่า มิดฟิลด์เจ้าถิ่นซัดประตูตีเสมอ  1-1 ในนาทีที่ 62 ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งไปแสดงท่าดีใจด้วยการกระโดดตีลังกา แต่กลับผิดพลาด เมื่อลงผิดจังหวะ ทำให้คอของปีเตอร์ลงมากระแทกพื้นสนามอย่างจัง ท่ามกลางความตกใจของเพื่อร่วมทีมที่รีบเข้ามาดูอาการ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์สนามได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรั้งชีวิตเขาไว้ไม่ได้ก่อนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่19ตุลาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า แข้งผู้เคราะห์ร้ายชื่นชอบท่าดีใจแบบ "มิโรสลาฟ โคลเซ่" ยอดศูนย์ตัวเก๋าชาวเยอรมัน และเป็นเรื่องน่าสลดทีเดียว เมื่อแข้งวัย 23 ต้องมาจบชีวิตเพราะการแสดงท่าดีใจในแบบไอดอลของเขา




// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.