ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันสัปดาห์หน้า
 


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันสัปดาห์หน้า


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันสัปดาห์หน้า
 

รายงานข่าวจากหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานบริษัทไทยออยล์ แจ้งว่าราคาปิดน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯและน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่53.28และ57.33เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบห้าปีครึ่งนับตั้งแต่เดือนพ.ค.52และปรับตัวลดลงมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบในเดือนมิ.ย.57โดยมีสาเหตุหลักมาจากสภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาดหลังมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากหินShaleในสหรัฐฯและการคงโควต้าการผลิตของกลุ่มโอเปกขณะที่อุปสงค์ยังคงอ่อนตัวจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ(อีไอเอ)ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯลดลง 1.8ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดเพียง67,000บาร์เรลโดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตของโรงกลั่นภายในประเทศประมาณ36,000บาร์เรลต่อวันอย่างไรก็ดีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่งโอกลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้นถึง1.995ล้านบาร์เรลส่งผลให้ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังรวมไม่ได้เปลียนแปลงไปมากนักและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง

อุปทานน้ำมันของกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลงจาก30.25ล้านบาร์เรลในเดือนพ.ย.มาอยู่ที่29.98ล้านบาร์เรลในเดือนธ.ค.แตะระดับต่ำสุดในรอบหกเดือนหลังเกิดความวุ่นวายภายในประเทศลิเบียที่ท่าเรือราส ลานุฟและเอส ไซเดอร์อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์จากPetromatrixยังคงคาดการณ์ว่าอุปทานยังคงล้นตลาดในช่วงปี2558ที่กำลังจะมาถึงเนื่องจากกลุ่มโอเปกยังยืนกรานที่จะไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง

โดยไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ53-58เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ56-61เหรียญฯสำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือ ท่าทีของกลุ่มโอเปกและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่คอยกดดันราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับต่ำ

ผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงต่อเศรษฐกิจโลกที่ถึงแม้ราคาที่ลดลงจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ตามแต่ผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศเช่น รัสเซีย ไนจีเรียและเวเนซุเอลาอาจต้องเผชิญกับสภาวะความไม่สมดุลทางการเงินส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเกิดการไหลออกของเงินทุนทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลงจนเกิดแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยนทั้งนี้จากการเชื่อมโยงของระบบการเงินทั่วโลกสถานการณ์เหล่านี้อาจบานปลายและกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมก็เป็นได้

พร้อมทั้งติดตามวิกฤตการณ์เงินรูเบิลอ่อนค่าของรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกภายหลังทางการรัสเซียมีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก10.5%เป็น17%และเรียกร้องให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาตรการเหล่านี้ช่วยให้ค่าเงินรูเบิลฟื้นตัวกลับมาจากระดับกว่า60รูเบิลต่อเหรียญสหรัฐฯมาเป็นประมาณ 55รูเบิลต่อเหรียญสหรัฐฯในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่การใช้นโยบายให้อัตรารดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงนี้ส่งผลให้ธนาคาร ทรัสต์ แบงก์ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่15ของรัสเซียประสบปัญหาทางการเงินธนาคารกลางรัสเซียจึงต้องนำเงินเข้าช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารดังกล่าวล้มละลาย



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.