เรียนให้ดีแบ่งเวลาให้ถูก…ผ่านฉลุย
 


เรียนให้ดีแบ่งเวลาให้ถูก…ผ่านฉลุย


เรียนให้ดีแบ่งเวลาให้ถูก…ผ่านฉลุย
คนที่ทำงานไปด้วยแล้วเรียนไปด้วย ชีวิตคงต้องจัดระเบียบและแบ่งเวลาให้ดี เพื่อที่จะทำทั้ง 2 อย่างไปได้พร้อม ๆ กันด้วยดี โดยเฉพาะคนในวงการบันเทิงที่อยู่ในวัยเรียนหลายคนต้องประสบปัญหาเรื่องนี้ วันนี้ “เปรียบมวย” มีเรื่องราวดี ๆ ของ 2 สาวนักร้องวัยรุ่นจากค่ายกามิกาเซ่ ในเครืออาร์เอสฯ อย่าง ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ จากวง “เฟย์ฟางแก้ว” และ “ขนมจีน-กุลมาศ ลิมปวุฒินวรานนท์ ศิลปินเดี่ยวที่มีทั้งงานเพลงงานแสดง ทั้งคู่จะมาเผยเคล็ดลับอย่างไร ที่งานก็เดินไปด้วยดี ส่วนเรื่องเรียนก็ไม่เสีย

ฟาง งานไม่เสียเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม

ฟาง-ธนันต์ธรญ์ ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี เกียรตินิยมอันดับ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฟางเล่าย้อนไปถึงช่วงที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ฟังว่าเป็นช่วงที่ยุ่ง มาก ๆ เพราะเป็นช่วงออกอัลบั้ม มีคอนเสิร์ตใหญ่ พร้อมกับละครเข้ามาในเวลาเดียวกัน เล่นเอาเครียดไม่น้อย ฟางบอกถึงเคล็ดลับในการสอบว่า ให้มองการสอบเหมือนเป็นการเล่นเกมในห้องสอบ ถ้าคิดแบบนี้ก็จะไม่เครียด พอมีทัศนคติที่ดีในการสอบก็จะไม่กดดัน

พอเข้ามาเรียนปีหนึ่งฟางเกรดตกมาก เพราะติดซ้อมคอนเสิร์ตไม่ได้มาเรียนเลยเป็นเดือน ๆ ตอนนั้นเริ่มไม่แน่ใจว่าจะไหวหรือเปล่า แต่มีคุณแม่เป็นที่ปรึกษาที่ดีบอกว่า เรื่องเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง หลังจากนั้นเลยไม่กดดัน พยายามแข่งกับตัวเอง จากนั้นจึงเริ่มเรียนดีขึ้นมาเรื่อย ๆ

ด้วยความที่ทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ฟางจึงปรับตัวเรื่องการแบ่งเวลาได้แล้ว แต่ต้องพยายามเข้าหาเพื่อน เพราะต้องมีเพื่อนคอยช่วยเวลาทำงานกลุ่มหรือเวลาที่ต้องขาดเรียน เพื่อนบางคนเห็นว่าฟางเป็นศิลปินทำให้ไม่กล้าเข้ามาคุย ทำให้มีปัญหาในการสื่อสารกับเพื่อน ๆ รวมถึงคนรอบข้าง การคบเพื่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญทำให้เรียนดีขึ้นและเรียนอย่างเป็นระบบมากขึ้น ส่วนเวลางานต้องมีการคุยกับทางอาร์เอส ซึ่งทางบริษัทก็เข้าใจและสนับสนุนให้อิสระเด็กในการเรียนมาก ช่วงแรกจะมีปัญหาในการล็อกคิวช่วงสอบที่ล็อกเฉพาะวันที่สอบ แต่ก่อนสอบไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย ทำให้ได้ไปสอบ แต่กลับทำข้อสอบไม่ได้ จึงต้องมีการจดตารางเวลาใหม่วางแผนในการอ่านหนังสือและทำให้ได้ตามเป้าหมาย

“บางทีถ้าคะแนนออกมาไม่ดีจะทำให้รู้สึกแย่ แต่เราก็จะมีข้ออ้างของตัวเองว่าเราทำงานด้วยเรียนด้วย ซึ่งถ้าคะแนนออกมาดีเพื่อนก็จะบอกว่า โห..นี่เรียนด้วยทำงานด้วยนะ เราก็จะรู้สึกภูมิใจ แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเวลาที่เราทำได้ไม่ดี มันไม่ใช่ว่าเพราะเราทำงานด้วย แต่เป็นเพราะเราสนใจการเรียนน้อยลง การที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนั้น ฟางแค่เอาเวลาที่เพื่อน ๆ ไปเล่นไปเที่ยว ไปทำงานมากกว่า เรามองว่าเวลาเรียนเราก็เรียนพร้อมกัน มีเวลาเท่ากัน ก็เลยไม่รู้สึกว่าสิ่งนั้นจะมากระทบการเรียนเรา เลยมองว่าการทำงานมันไม่ใช่ข้ออ้าง ถ้าเราคะแนนไม่ดีมันขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการกับมันยังไงมากกว่า”

ส่วนเคล็ดลับในการอ่านหนังสือสอบนั้น ฟาง เผยว่า “ฟางจะใช้ปากกาสี ๆ ทำให้เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ เราต้องรู้ภาพใหญ่ก่อนว่ามันคืออะไร พอเรารู้เราก็จะรู้ว่าเราเรียนสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ถ้าเราเข้าใจเราก็ต้องตอบให้ได้ว่าเพื่ออะไร เราต้องรู้ถึงประโยชน์ของแต่ละวิชา และเราก็จะตั้งใจกับมันมากขึ้น ฟางเป็นคนที่ชอบอัดเสียงอาจารย์เวลาสอน เวลาอยู่บนรถเราก็จะเปิดฟังไปเรื่อย ๆ เราต้องฟังพูดอ่านเขียน อยากบอกว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นชีวิตที่สนุกมาก อยากให้ตั้งใจเรียน แต่ไม่อยากให้เครียดเกินไป พยายามหาเวลาว่างทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ระหว่างเรียน เพราะมันจะช่วยให้เรามีศักยภาพในการที่เราจบออกมาแล้ว ทำให้เราทำงานร่วมกับคนอื่นได้ในอนาคตค่ะ”

ขนมจีน ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้

นักร้องสาว ขนมจีน-กุลมาศ ปัจจุบันเรียนปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่าตอนเรียนมัธยมเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่พอจะเข้ามหาวิทยาลัยถึงเวลาที่เราจะต้องอ่านจริงจัง

เพื่อที่จะสอบเข้าให้ได้ ทั้งอ่านหนังสือทั้งเรียนพิเศษเพิ่มเติมจนทำได้สำเร็จ พอสอบเข้าได้แล้วช่วงแรกยังไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เพราะไม่ค่อยแตกต่างจากการเรียนสมัยมัธยม แต่เป็นการเริ่มต้นเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ที่ต้องเจอทุกปี ทำให้ต้องเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ให้มากขึ้น

ถึงแม้จะต้องทำงานด้วย แต่ขนมจีนจะเน้นเรื่องเรียนเป็นหลัก พอตารางเรียนออกมาก็ต้องมาคุยกับทางบริษัท ว่ามีเรียนวันไหนบ้าง ที่เหลือจึงจะรับงานได้ แต่ถ้ามีงานสำคัญมาก ๆ จนต้องหยุดเรียนก็ต้องมาคุยกัน และต้องคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาให้เข้าใจ ส่งจดหมายลา ทำตามกฎระเบียบให้ถูกต้อง ในเรื่องการเรียนขนมจีนบอกว่าสิ่งสำคัญมาก ๆ คือเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเวลาขาดเรียน และการทำงานกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งขนมจีนบอกว่า ตนนั้นโชคดีเรื่องเพื่อนมาก ๆ ที่คอยช่วยเหลือกันตลอดเวลา การทำงานไปด้วยนั้นขนมจีนกลับมองว่าเป็นเรื่องดี ที่ทำให้มีประสบการณ์ก่อนเพื่อน ๆ ที่พอจบมหาวิทยาลัยแล้วค่อยได้ทำงาน

สำหรับผลการเรียนในแต่ละครั้งที่ออกมาขนมจีนบอกว่าพอใจมาก ๆ สามารถรับผิดชอบทั้งงานและเรียนได้ก็ถือว่าโอเคมาก ๆ โดยพยายามใช้ชีวิตในการเรียนและการทำงานแบบไม่ซีเรียสมาก เพราะถ้าเครียดมากก็จะทำให้ไม่มีความสุขกับการเรียนและการทำงาน ส่วนเคล็ดลับในการอ่านหนังสือสอบของขนมจีนนั้น ไม่มีอะไรมาก แค่อ่านหนังสือประมาณสองถึงสามรอบ รอบแรกจะอ่านผ่าน ๆ ดูหัวข้อที่สำคัญคร่าว ๆ หลังจากนั้นก็จะกลับมาอ่านอีกทีแบบจริงจัง และก็มีแลคเชอร์เพิ่มเติมอย่างละเอียดด้วย แต่เรียนอย่างเดียวใช่ว่าจะดี ก็ต้องหาวิธีการผ่อนคลายเพื่อไม่ให้เครียดจนเกินไปด้วย ขนมจีนจึงมักชอบดูหนังและทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ หรือบางทีก็หันไปทำพวกดีไอวาย เย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ของไปเรื่อย

“ขนมจีนว่าการเรียนที่ดีนั้นต้องให้มีความสนุกกับสิ่งที่ทำดีกว่าค่ะ มีความสนุกกับการเรียน ขนมจีนมองว่าเป้าหมายหลักของการเรียนจบมันสำคัญ แต่ระหว่างทางกว่าเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นสำคัญกว่าค่ะ เพราะมันคือประสบการณ์ที่ทำให้เราเข้มแข็งภายในวันข้างหน้า ในอนาคตถ้าเราผ่านไปได้ก็ต้องเจออะไรมากกว่าในตำราเรียนอยู่แล้วค่ะ”

ทำงานได้เงินมา ใช้แล้วก็หมดไป แต่ความรู้อยู่ในหัว สามารถใช้ต่อยอดได้ตลอดชีวิต การเรียนจึงเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องทำให้ดี แต่ขณะเดียวกันงานการก็สำคัญต้องรับผิดชอบและเดินไปพร้อม ๆ กัน สุดท้ายสิ่งที่ได้ คือ ความภูมิใจ.

มยุรี วนะสุขสถิตย์



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.