นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีสำนักงาน กกต.รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2557 เป็นโมฆะ ว่า ขณะนี้สำนักงาน กกต.กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ก็ต้องใช้เวลา เนื่องจากมีเขตเลือกตั้งถึง 28 เขต มีหน่วยเลือกตั้งกว่า 10,300 หน่วย ที่มีการประท้วงจนทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถทำได้ โดยในส่วนนี้มีพยานหลักฐานที่ต้องรวบรวมจำนวนมาก เพราะการจะฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจะต้องมีพยานหลักฐานที่รัดกุม รู้ตัวผู้กระทำผิด จะฟ้องสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นอกจากนั้นแล้ว กกต.เองก็ต้องมาดูว่างบประมาณที่เสียไปกับการจัดเลือกตั้งเป็นอย่างไร เพราะงบประมาณที่ทาง กกต.ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เป็นเงินประมาณ 3,100 ล้านบาท และอีก 600 ล้านบาท เป็นของหน่วยนอกที่ขอไปที่สำนักงบประมาณโดยตรง จึงต้องมาดูว่าตกลงค่าเสียหายจากการจัดการเลือกตั้งครั้งดังกล่าวคืออย่างไร“หากกระบวนการหลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่เรียบร้อย รู้ตัวผู้กระทำผิด มีหลักฐานชัดเจน ทางประธานคณะกรรมการ กกต. ก็จะเสนอเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อไป ดังนั้น กกต.จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม หากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ฟ้องไปก็แพ้ อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังปีใหม่นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ กกต.ต้องเร่งดำเนินการอยู่แล้ว เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157”นายภุชงค์ กล่าว.
