ทปอ.เคาะ27มหา′ลัยรับตรงปี59 เพิ่มข้อสอบ2วิชาสามัญ
 


ทปอ.เคาะ27มหา′ลัยรับตรงปี59 เพิ่มข้อสอบ2วิชาสามัญ


 ทปอ.เคาะ27มหา′ลัยรับตรงปี59 เพิ่มข้อสอบ2วิชาสามัญ

 

วันที่ 26 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) นายประดิษฐ์  วรรณรัตน์  อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์(นิด้า) ในฐานะรักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมทปอ.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ. ทั้ง 27 แห่ง รับตรงกลางร่วมกัน ในปีการศึกษา 2559 โดยใช้ข้อสอบกลาง ซึ่งจะพัฒนาจากข้อสอบ 7 วิชาสามัญ เพิ่มขึ้นอีก 2 วิชา คือ วิชาคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป รวมเป็น 9 วิชา เพื่อรองรับนักเรียนที่จบสายศิลป์ จากเดิมที่จะเน้นเฉพาะสายวิทยาศาสตร์  หลังจากนี้คณะ/สาขา ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะต้องไปกำหนดสัดส่วนและองค์ประกอบที่จะใช้ในการคัดเลือกและประกาศให้นักเรียนทราบ ทั้งนี้นักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา สามารถเลือกสอบได้เฉพาะวิชาที่ต้องใช้ในการยื่นเข้าเรียนต่อในคณะ/สาขาที่ต้องการเท่านั้น
 
นายประดิษฐ์กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามการรับตรงกลางร่วมกันครั้งนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะคะแนนข้อสอบกลาง9วิชา แต่มหาวิทยาลัยยังสามารถใช้คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป(GAT) และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ(PAT)  และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต) มาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อได้เช่นเดิม เนื่องจากที่ผ่านมา ทปอ. ได้ขยับเวลาการทดสอบต่าง ๆ ให้ใกล้กัน โดยการสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 1 จะสอบในช่วงเดือนพฤศจิกายน, การจัดสอบกลาง จะสอบเดือนมกราคม ,โอเน็ตสอบประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และการสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 2 จะสอบเดือนมีนาคม 


ซึ่งนักเรียนสามารถนำคะแนนทั้งหมดไปใช้ได้ทั้งการรับตรงผ่านระบบเคลียริ่งเฮาส์ ของสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) ซึ่งเด็กจะต้องเลือกว่าจะเรียนในคณะที่สอบรับตรงได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ต้องสละสิทธิ ไม่ให้เกิดปัญหาไปกันที่คนอื่น จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา(แอดมิสชั่นส์)ต่อไปส่วนระบบโควตาโครงการพิเศษต่างๆผู้มีความสามารถทางด้านกีฬาดนตรียังคงมีอยู่


 “เชื่อว่าระบบนี้จะทำให้การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์ขึ้นและนักเรียนไม่ต้องวิ่งรอกสอบในทุกมหาวิทยาลัยอีกต่อไปผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะต่อไปนักเรียนจะสอบเพียงครั้งเดียวแต่สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าศึกษาต่อทั้งระบบการรับตรงและแอดมิสชั่นส์ได้”


นพ.เฉลิมชัย  บุญยะลีพรรณ  อธิการบดี มศว  กล่าวว่า มศว จะนำร่องรับตรงกลางร่วมกันตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 โดยเมื่อเด็กสอบผ่านข้อเขียนมาแล้ว ในขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์ มศวจะมีข้อสอบย่อยเพื่อใช้ทดสอบความสามารถในการปฏิบัติของเด็ก ไม่ใช่มานั่งสัมภาษณ์อย่างเดียว เพื่อให้รู้ว่าเด็กมีความสามารถที่จะเรียนต่อในสาขาที่เลือกเรียนจริงๆ เช่น การวาดภาพ การแสดง เป็นต้น  ซึ่งคะแนนทั้งหมด เด็กสามารถยื่นได้หลายที่



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.