ปั้น ′บุรีรัมย์′ เป็น ′เดสติเนชั่น′ จุดหมายปลายทาง ′เนวิน′ ?
 


ปั้น ′บุรีรัมย์′ เป็น ′เดสติเนชั่น′ จุดหมายปลายทาง ′เนวิน′ ?


 ปั้น ′บุรีรัมย์′ เป็น ′เดสติเนชั่น′ จุดหมายปลายทาง ′เนวิน′ ?

โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

มติชนรายวัน 30 กันยายน 2557


"เนวิน ชิดชอบ" อดีตนักการเมืองชื่อดัง ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ ผ่านประสบการณ์ด้านการเมืองมาอย่างโชกโชน จนมาวันหนึ่งประกาศหันหลังให้กับแวดวงการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลความขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมืองหรือไม่ จึงทำให้ถูกจับตาในฐานะฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกันอย่างชัดเจน เพราะผลจากการเลือกข้าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสมัยรัฐบาลทักษิณ ปัจจุบัน "เนวิน" ผันตัวเองไปเป็นนักธุรกิจเต็มตัว พยายามสร้างเมืองบุรีรัมย์ให้เป็นที่รู้จักเหมือนกับหลายเมืองทั่วโลก หลังจากที่ผ่านมา บุรีรัมย์ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่เมืองทางผ่าน ไม่ใช่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยว แต่ปัจจุบัน "เนวิน" เข้ามาลงทุนสร้างจนทำให้บุรีรัมย์เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากมีชื่อเสียงด้านกีฬาฟุตบอล กระทั่งล่าสุดลงทุนสร้างสนามแข่งรถระดับมาตรฐานโลก และยังมีโครงการจะสร้างแอดเวนเจอร์พาร์คหรือสวนสนุกผจญภัย โรงแรม และแหล่งช้อปปิ้ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนเมืองบุรีรัมย์ "เนวิน" เปิดใจถึงแผนที่จะทำให้บุรีรัมย์เป็นเดสติเนชั่น หรือจุดหมายปลายทางให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้

สนามแข่งรถบุรีรัมย์ หรือ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถมาตรฐาน FIA/FIM มีที่มาที่ไปยังไง

วิธีคิดเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ใหญ่ขนาดนี้ คิดด้านเงินลงทุนอย่างเดียวไม่ได้ วันนี้เงินลงทุนสนามแข่งนี้ประเมินโดยไม่รวมราคาที่ดินประมาณ 3,000 ล้านบาท งบก่อสร้างจะเกินงบประมาณอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะถือเป็นรายได้ทั้งหมด ถ้าเอามาคิดง่ายๆ จะมีสองแบบคือมีค่าเสื่อมสภาพมั้ย หรือว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในอดีตการทำธุรกิจมีค่าเสื่อมเยอะ แต่การสร้างสนามแข่งรถแบบนี้ เหมือนการทำสนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม แบรนด์ แวลู (Brand Value หรือมูลค่าตราสินค้า) ขึ้นทุกวัน มูลค่าก็จะมากตามไปด้วยมหาศาล คือคอนเซ็ปต์หลักที่ใช้สอนเด็กๆ ทุกคนที่อยู่กับผมว่าโลกในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว คนร่ำรวยมากๆ ประสบความสำเร็จมาจากแนวความคิดที่มีความแปลกแยกและแตกต่างไปจากกรอบความคิดเดิมๆ

วันนี้ไม่อยากให้มองแค่มูลค่าของทรัพย์สิน แต่อยากให้มองดูว่าได้ ครีเอทีฟ (Creative หรือสร้างสรรค์) อะไรออกมาบ้าง แล้วแวลู (Value หรือมูลค่า) จะอยู่กับครีเอทีฟ เป็นสูตรในการทำธุรกิจของโลกในยุคปัจจุบันและโลกในอนาคต มีความเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่าง วิธีคิดของเราก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย บางคนถามว่าลงทุนขนาดนี้ ทำไมถึงกล้าทำ มีความเสี่ยงขาดทุนมั้ย ก็บอกว่า มีวิธีคิดว่าวันนี้ผมต้องการให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเดสติเนชั่น (Destination หรือจุดหมายปลายทาง) ของคนไทยและของคนที่มาเที่ยวในประเทศไทย วันนี้เราต้องคิดนอกกรอบจากคำว่าจังหวัดหรือเมือง ประเทศไทย 77 จังหวัด วันนี้เรามองไปถึงไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าไลฟ์สไตล์ของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนจากสังคมครอบครัว เป็นอีกสังคมหนึ่งไปแล้ว เมื่อก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็แค่กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมิเนียม ทำงานก็อยู่ในออฟฟิศห้องสี่เหลี่ยม วันจันทร์ก็เริ่มต้นทำงาน พอถึงวันพฤหัสฯ ก็เริ่มคิดแล้วว่าวันหยุดจะไปพักผ่อนที่ไหนดี เหมือนกับสังคมใหญ่ๆ ตามเมืองชั้นนำของโลก เช่น โตเกียว โซล ลอนดอน ทุกเมืองในโลกจะเป็นแบบนี้เกือบทั้งนั้น ทุกคนจะมองในเรื่องของการเอ็นเตอร์เทน (Entertain หรือความบันเทิง) ตัวเองเป็นหลักในช่วงวันหยุด เพราะฉะนั้นจึงมีแนวความคิดว่าอะไรจะเอ็นเตอร์เทน ไลฟ์สไตล์ของเราได้ คำตอบก็คือสถานที่จะไปพักผ่อนในวันหยุดนั้น มีรีสอร์ตจะสามารถเอ็นเตอร์เทนท์มั้ย



ยกตัวอย่างเช่นเมืองโชคดีมีภูเขาทะเล แต่ถ้าเราไม่ไปทั้งทะเลและภูเขา จะต้องมีอีเวนต์ (EVENT หรือกิจกรรม) มั้ย ถ้าไม่มี ไม่มีทางเลยที่จะไป นี่คือไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เพราะฉะนั้นการจะเกิดเดสติเนชั่น หรือทำตัวเองให้เป็นเดสติเนชั่นให้ได้ ในยามที่บ้านเมืองไม่มีรีสอร์ต คนบุรีรัมย์ไม่โชคดีเหมือนกับคนหัวหินมีทะเล คนพัทยามีทั้งทะเลและภูเขา ไม่โชคดีเหมือนคนเชียงใหม่ เชียงราย หรือแม้แต่คนโคราชมีเขาใหญ่ มีธรรมชาติงดงาม จึงต้องสร้างอะไรให้มีอีเวนต์ขึ้นมาเยอะๆ คนคิดอะไรไม่ออกว่าวันหยุดนี้จะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ก็รู้ได้เลยว่าหากมาบุรีรัมย์จะมีอีเวนต์ให้ความบันเทิงและความสนุกตื่นเต้นในรูปแบบของสปอร์ต อีเวนต์อย่างแน่นอน

มีกิจกรรมอะไรน่าสนใจนับจากนี้ที่บุรีรัมย์บ้าง

สิ่งที่กำลังทำคือ เมืองบุรีรัมย์จะเป็นเมืองสปอร์ตอีเวนต์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ยกตัวอย่างพอสนามแข่งรถแห่งนี้เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป จะจัดการแข่งขันแดร็กทุกอาทิตย์ จะมีเรซ (Race หรือการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ) ทุกอาทิตย์ อย่างน้อยที่สุดสนามแข่งแห่งนี้จะมี อีเวนต์สำหรับการแข่งรถ 30 อีเวนต์ในหนึ่งปี มีการแข่งแดร็ก 52 อีเวนต์ ในหนึ่งปี มีฟุตบอลลงเล่นโดยทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด สำหรับเกมในบ้านอีก 30 แมตช์ ในหนึ่งปี เพราะฉะนั้น เมื่อคุณเดินทางมาเมืองนี้เมื่อไหร่ จะไม่มีอาทิตย์ไหนเลยจะไม่มีอีเวนต์ ของการแข่งขันทั้งฟุตบอลและรถยนต์ รวมถึงจักรยานยนต์ จะกลายเป็นเมืองเจ้าแห่งอีเวนต์ของกีฬา และกลายเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาที่บุรีรัมย์ 

เชื่อว่านับจากนี้ไปไม่เกิน 5 ปี ประเทศไทยจะเหลือแค่ 10 เดสติเนชั่น ใครจะสามารถสร้างตัวเองให้แข็งแกร่ง แล้วทำให้เมืองมีจุดขายจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้มายังที่นั้นๆ ในช่วงวันหยุดพักผ่อน ทำให้เมืองของตนเองกลายสภาพเป็น 1 ใน 10 เดสติเนชั่น ที่มีความสำคัญของประเทศไทย นั่นหมายถึงความอยู่รอดของผู้คนในเมืองแห่งเดสติเนชั่น แต่ถ้าหากไม่สามารถสร้างได้ เมืองนั้นก็จะกลายสภาพเป็นเมืองผ่าน เศรษฐกิจทุกอย่างของเมืองผ่านจะมีสภาพเหมือนบอนไซ ไม่มีหนทางเจริญเติบโต นี่คือสิ่งที่ชาวบุรีรัมย์คิด แล้วเราก็ตัดสินใจลงมือทำ แล้วกำหนดเป้าหมายเลยว่า เราทำฟุตบอล เราทำมอเตอร์สปอร์ต เรามีสนามยิงปืน เรากำลังจะทำโปรเจ็กต์ต่อไปหลังจากสนามแข่งแห่งนี้เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์



จะมีโปรเจ็กต์ใหญ่ต่อเนื่องจากนี้อีก

เราจะทำให้บุรีรัมย์เป็น สปอร์ต แอดเวนเจอร์ (Sport Aventure) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับผู้คนที่ชอบสไตล์แอดเวนเจอร์ในการใช้ชีวิตช่วงวันหยุด จะมีกีฬาให้เล่นทั้งสะลิงไลน์ บันจี้จัมพ์ กระรอกบิน สนามจักรยานเมาเท่นไบค์ อะไรก็ตามที่เป็นกีฬาสไตล์แอดเวนเจอร์ เพราะว่าไลฟ์สไตล์ของผู้คนทุกวันนี้ บางทีก็ต้องการเอ็นเตอร์เทนไม่ซ้ำซากจำเจ ผมจึงทำให้บุรีรัมย์กลายเป็นสปอร์ตซิตี้ 


หลังจากนั้นเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น มันยากมากที่เมืองอื่นๆ จะสามารถไล่ตามความเจริญของบุรีรัมย์ได้ทัน เพราะว่าใครจะเป็นคนเริ่ม ใครจะเอาด้วย เพราะเวลาเริ่มต้นต่างฝ่ายต่างก็คิดว่า การจะลงทุนทำ 1 โปรเจ็กต์ จะได้ผลตอบแทนกลับคืนมาเท่าไหร่ แต่ทิศทางในการสร้างสปอร์ตซิตี้ ไม่มีใครมีปัญหา เพราะทุกคนในเมืองบุรีรัมย์จะเริ่มมีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ในชีวิตคนบุรีรัมย์ไม่เคยคิดว่าจะมีเงินล้าน หรือ 10 ล้าน 100 ล้าน วันนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนบุรีรัมย์ เพราะเมื่อผมเริ่มต้นโปรเจ็กต์นี้ แต่ก่อนที่ดินในแถบบุรีรัมย์มีราคาไร่ละ 1 แสนบาท แต่เวลานี้ ที่ดินทำเลดีๆ ขนาด 2 ไร่ มีราคา 24 ล้านบาท ที่ดินในบุรีรัมย์เริ่มมีราคาที่ขยับตัวสูงขึ้นมากเป็นไร่ละ 2-4-6 ล้านบาทแล้วแต่สถานที่ตั้งทรัพย์สินที่เป็นที่ดินมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 

ฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะกลายเป็นรูปธรรมชัดเจนของคนบุรีรัมย์ในด้านของสภาพเศรษฐกิจ และยินดีกับทุกโปรเจ็กต์ที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ต่อไป

มั่นใจว่าทฤษฎีนี้จะทำให้ประสบความสำเร็จ

มั่นใจว่าครีเอทีฟคือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ทฤษฎีนี้สำเร็จล้านเปอร์เซ็นต์ สำหรับสนามแข่งรถเชื่อว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5 ปี ส่วนการรองรับนักท่องเที่ยวก็ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงบ้าง เพราะตอนนี้บุรีรัมย์มีห้องพักประมาณ 5 พันห้อง เป็นระดับ 3 ดาว ประมาณ 2 พันห้อง คาดว่าสิ้นปีหน้าโรงแรมระดับ 3 ดาวจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันห้อง ตอนนี้ในพื้นที่สนามแข่งรถและสนามบอลใกล้เคียงกันผมลงทุนสร้างโรงแรมอมารีขนาด 60 ห้อง มีคนถามทำไมไม่ทำขนาด 200 ห้องไปเลย ผมอยากให้นักลงทุนคนอื่นมาร่วมกันทำบ้าง เราไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ต้องมาผูกขาด ให้คนอื่นมาช่วยกันทำดีกว่า เราใช้วิธีแชร์แบบวินวิน ตอนนี้เครือเบสท์เวสเทิร์นก็กำลังจะมา แต่ตอนนี้เราก็มีเมืองแฝดคือสุรินทร์ ห่างไป 50 กิโลเมตร

สนามแข่งรถนี้มีเป้าหมายจะจัดแข่งรถสูตร 1 หรือฟอร์มูล่าวัน (เอฟวัน) เลยหรือไม่

เรายังไม่พูดถึงเอฟวัน เราจะพูดถึงมอเตอร์จีทีที่กำลังจะแข่งขันก่อน เพราะการแข่งขันเอฟวันภาครัฐจะต้องเป็นคนทำ เราไม่มีกำลังพอไปลงทุนซื้อไลเซนส์ (ใบอนุญาต) ราคาหลายล้าน แต่เราพร้อม หากจะใช้สนามบุรีรัมย์ใช้แข่งขัน

สปอนเซอร์สนามแข่งรถเข้ามาแค่ไหนแล้ว

สปอนเซอร์สนามประมาณ 270 ล้านบาท ตอนนี้ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ถือว่าคอฟเวอร์ (ครอบคลุม) ตามแผนแล้ว ที่เหลือจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากการทำโซวิเนียร์ (ของที่ระลึก) จำหน่ายตั๋วการแข่งขันแต่ละการแข่งขัน อย่างมอเตอร์จีพีเดือนตุลาคมนี้จะมีคนญี่ปุ่นมาบุรีรัมย์ 3 พันกว่าคน มาอยู่เป็นอาทิตย์ เราบอกพ่อค้าแม่ค้าชาวบุรีรัมย์ว่าอย่าไปฟันแขก แต่เราจะทำแบบน้ำซึมบ่อทราย ค่อยๆ ทำให้นักท่องเที่ยวพึงพอใจ จะแฮปปี้ที่สุด

สร้างโปรเจ็กต์มากมายให้บุรีรัมย์ขนาดนี้ ทำเพื่อธุรกิจอย่างเดียวหรือ จะหวนกลับไปเล่นการเมืองอีกหรือไม่ โดยเฉพาะขณะนี้เปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองแล้ว

ผมมาขนาดนี้ คงไม่หวนกลับไปแล้ว และมั่นใจว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้ชาวบุรีรัมย์มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เพราะธุรกิจที่ทำ เราเอาแค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกหกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของส่วนรวมแบ่งกันไป รวยคนเดียวคงอยู่ไม่ได้ จริงๆ แล้วไม่ใช่ไม่อยากได้ แต่วิธีคิดการทำธุรกิจเป็นแบบนี้ อย่างเช่น การขายเสื้อฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ เราขายไม่แพง ทำให้เราผลิตออกมาขายถึงสี่แสนตัว ต้องการรายได้จากสปอนเซอร์ ติดไปกับเสื้อสี่แสนตัว จะเอาค่าสปอนเซอร์มาชดเชยราคาเสื้อขายให้แฟนบอล มาถึงวันนี้สำหรับการแข่งขันของบุรีรัมย์ยูไนเต็ดคนเต็มทุกแมตช์ เพราะค่าตั๋วถูก สปอนเซอร์แฮปปี้


และนี่คือความในใจของอดีตนักการเมือง "เนวิน ชิดชอบ" วันนี้เลือกจุดหมายปลายทางของชีวิต คือการทำธุรกิจเนรมิตเมืองบุรีรัมย์ให้เป็นเมือง "เดสติเนชั่น" 

ส่วนจะเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายในชีวิต จะหวนกลับไปสู่แวดวงการเมือง ภายหลังเกิดการปฏิรูปในประเทศไทยครั้งสำคัญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ ยังเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้าจับตาดูอยู่


// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.