สหรัฐฯพบคนในประเทศติดเชื้อไวรัส อีโบลา เป็นรายแรก หลังจากก่อนหน้านี้เพียงแต่รับผู้ป่วยในต่างประเทศเข้ามารักษาเท่านั้น...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคาร (30 ก.ย.) ว่า คนไข้ชายของโรงพยาบาล เท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัส อีโบลา ซึ่งกำลังระบาดในหลายประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก
ผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นบุคคลในประเทศรายแรกที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้ออีโบลา โดยที่ผ่านมามีชาวอเมริกันติดเชื้ออีโบลาหลายราย แต่ล้วนติดจากประเทศในพื้นที่การระบาดฝนแอฟริกาตะวันตก ก่อนจะถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯเพื่อรับการรักษา
ดร.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการของซีดีซีแถลงข่าวที่เมืองแอตแลนตาในช่วงบ่ายวันอังคารว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อมาจากแอฟริกาตะวันตก แต่ไม่แน่ใจว่าตนเองติดเชื้อมาได้อย่างไร เนื่องจากเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ที่พยายามหยุดยั้งการระบาดของอีโบลาในภูมิภาคดังกล่าว โดยเขาเดินทางออกจากไลบีเรียในวันที่ 19 ก.ย. ถึงสหรัฐฯในวันที่ 20 ก.ย.
ชายคนนี้เริ่มแสดงอาการป่วยของผู้ติดเชื้ออีโบลาเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 ก.ย. และเข้ารับการตรวจเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 ก.ย. และแอดมิดเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 28 ก.ย. โดยดร.ฟรีเดนย้ำว่า ในช่วงเวลาตั้งต่ 24-28 ก.ย. คนไข้รายนี้มีการติดต่อกับผู้อื่นเพียงไม่กี่คน ซึ่งกำลังถูกซีดีซีจับตาอย่างใกล้ชิด
ขั้นต่อไป ดร.ฟรีเดนระบุว่า จะเป็นช่วงการรักษาผู้ป่วย และจำกัดโอกาสที่ไวรัสจะแพร่กระจายให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการระบุตัวผู้ที่ติดต่อกับชายคนนี้ทุกคน ซึ่งทั้งหมดจะถูกเฝ้าสังเกตเป็นเวลา 21 วัน และเดี่ยวหากปรากฏอาการไข้ในช่วงเวลาดังกล่าว