ลึกแต่ไม่ลับ/จรัญ พงษ์จีน

นายกฯ ตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดฤกษ์ 09.05 น. เข้านั่งหัวโต๊ะ ครม. แล้ว เมื่อวันอังคารที่ 9 เดือน 9 ที่ผ่านมา

ก่อนเข้าทำเนียบ บิ๊กตู่ในเครื่องแบบพลเอก ตื่นเช้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระแก้วหรือวัดพระศรีรัตนศาสดารามก่อน

จากนั้นไปที่ศาลหลักเมือง หัวมุมกระทรวงกลาโหม โดยมี บิ๊กเต่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกลาโหม และ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้ดูแลสถานที่มารออำนวยความสะดวก กราบหลักเมือง สักการะเทพารักษ์ทั้ง 5 เติมน้ำมันในตะเกียง

แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพระราชทานผ้าไหมสีฟ้า ที่ บก.ทบ. เสร็จสรรพจึงไปที่ทำเนียบ

ขึ้นไปบนทำเนียบ สักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ลงมาสักการะศาลพระภูมิ ศาลตายาย ที่สวนหย่อม

เครื่องสักการะตามมาตรฐาน มีทั้งผ้าแพร ผลไม้ หมากพลู ฯลฯ

ที่สะดุดตา คือพานวาง "กล้วยหอม" หวีใหญ่ เป็นสัญลักษณ์เอาเคล็ดว่า ภารกิจหนักหนาทั้งหลาย จะลุล่วงง่ายดายสบายชิลๆ ราวกับปอกกล้วยเข้าปาก

ส่วน ครม. อื่นๆ มาในชุดพระราชทานผ้าไทยสีสุภาพ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และได้อารมณ์ไทยๆ ต่างไปจากยุครัฐบาลเลือกตั้งที่นิยมสูทผูกไทในแบบสากลนิยม

การเข้าทำเนียบของบิ๊กตู่ดำเนินไปภายใต้การอารักขาอย่างเข้มข้น ตำรวจและทหารจับมือทำหน้าที่ตรวจตราละเอียดยิบ

สุนัขสงครามถูกนำตัวมาตรวจสอบว่า มีวัตถุแปลกปลอมหรือไม่ ขณะที่รอบๆ กายบิ๊กตู่เอง มีชายหนุ่มสวมสูทดำทะมัดทะแมงเดินตามห้อมล้อม

การ์ดกลุ่มนี้ มาจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบ ที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ ร.21 รอ. หน่วยเดิมของบิ๊กตู่นั่นเอง

งานนี้หวยไปออกที่นักข่าว ช่างภาพ จะเคลื่อนไหวไปแบบกันเองเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

ภาพการรุมล้อมนายกฯ เพื่อสัมภาษณ์ในวันประชุม ครม. ยังไม่ค่อยได้เห็น

ครม. ใหม่ใส่กระจับขึ้นเวที ไหว้ครูเรียบร้อย ยก 1 ยก 2 จะเป็นยังไง ต้องติดตาม!!



จุดโฟกัสของคนทั้งประเทศยังอยู่ที่ทำเนียบ

ม็อบประท้วงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม "ชัตดาวน์" กรุงเทพฯ รวมๆ แล้วประมาณ 200 กว่าวัน

ระหว่างนั้น ทำเนียบรัฐบาลถูกปิดตาย อดีตนายกฯ ปูต้องสัญจรไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติบ้าง กระทรวงกลาโหมบ้าง

คสช.ปฏิวัติเสร็จ เปิดมาอีกที ทำเนียบจึงอยู่ในสภาพปลวกแทะ ทรุดโทรมหนัก ต้องซ่อมใหญ่ ยกเครื่องใหม่หมด

คสช. ตั้ง "หม่อมเหลน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล" เป็นปลัดสำนักนายกฯ เลยต้องรับหน้าที่โต้โผใหญ่ไปด้วย

กรมโยธาฯ กระทรวงมหาดไทย กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ต้องเข้ามาช่วยดูแล เพราะเกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง และยังมีสถานะเป็นอาคารโบราณสถานของชาติอีกต่างหาก

กำหนดเส้นตายคร่าวๆ ว่า เพื่อให้รัฐบาลใหม่ของนายกฯ ตู่ ได้มาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ไม่มีรูรั่ว อุปกรณ์ต้องไฮเทค สะดวกและเก็บความลับได้มิดชิด

ทุกอย่างเดินหน้าอย่างเรียบร้อย ว่างๆ หม่อมเหลน ซึ่งต่อมาสวมหมวก "รมต.ประจำสำนักนายกฯ" อีกใบ พานักข่าวเดินดูความคืบหน้า

วันดีคืนดี พาไปชมห้องประชุมทำเนียบ พร้อมกับอวดชุดไมโครโฟน "บอสช์" จากอเมริกา ราคาชุดละ 1.45 แสนบาท

เท่านั้นเอง งานเข้าแบบล้นทะลัก เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกระหึ่มว่าแพงเกิน ผิดราคาหรือเปล่า

จนโดดหนีกันหมด คสช. บอกว่า เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ ส่วนหม่อมเหลนโยนให้กรมโยธาฯ ของอธิบดี มณฑล สุดประเสริฐ ต้องเหน็ดเหนื่อยออกมาแจกแจง ระบุคุณภาพระดับไฮเอนด์ของไมโครโฟนชุดนี้ ส่วนราคายังต้องต่อรอง เพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อ แต่บริษัท อัศวโสภณ ใจป้ำ มาติดตั้งให้ใช้ก่อน

งานนี้ เป้าจริงๆ คงอยู่ที่ท่านหม่อมเหลน ที่มักออกปากวิพากษ์นักการเมืองเรื่องการใช้งบฯ เร็วๆ นี้ก็เขียนเฟซบุ๊ก ตำหนิ อปท. ว่า ฟุ่มเฟือย กินไวน์ขวดละแสน

เจองานนี้เข้าไป ท่านหม่อมเลยต้องปิดเฟซบุ๊ก ส่วนคดีไมค์แพง ต้องเคลียร์อีกสักพัก

.........

(ที่มา:มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12-18 กันยายน2557)