ฟาร์มโชคชัยเปิดตัวแลนด์มาร์กใหม่ "ตึกม้าอาชาไนย" ผลิตไอศกรีมอืมม!..มิลค์ นมแล็กโทส 0% เจาะตลาดกลุ่มคนดื่มนมท้องเสียง่าย พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว พัฒนาพื้นที่หน้าฟาร์มกระตุ้นยอดขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ฟาร์มโชคชัยได้จัดงานเปิดตัว "ตึกม้าอาชาไนย" อย่างเป็นทางการที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังจากที่เดินเครื่องผลิตมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของฟาร์ม โดยตัวตึกออกแบบเป็นรูปม้าหมอบ ติดตั้งกระจกใสลดการใช้พลังงาน และสามารถชมกระบวนการผลิตภายในได้อย่างชัดเจน มูลค่าการลงทุนกว่า 300 ล้านบาท พื้นที่กว่า 4,560 ตารางเมตร
ตึกม้าอาชาไนยเป็นฐานผลิตผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอืมม!..มิลค์ ทั้งนมสด ทอฟฟี่ ไอศกรีม รวมทั้งนมแล็กโทส 0% ที่ร่วมกับสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มตลาดคนไทยกว่า 50% ที่มีปัญหาในการดื่มนม โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตนมแล็กโทส 0% อยู่ที่ 1,200 ขวดต่อวัน
นายโชค บูลกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทฟาร์มโชคชัย กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงของการวิจัยและพัฒนา (R&D) นมแล็กโทส 0% ซึ่งถือเป็นสินค้าสุขภาพ แต่ยังไม่ได้เริ่มทำการตลาดในวงกว้าง
นอกจากนี้ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมกระบวนการผลิตภายในตึกได้ เป็นการต่อยอดด้านการท่องเที่ยวแบบ Interactive ที่ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตมากขึ้น ในช่วงปลายปียังมีโครงการปรับพื้นที่โซนหน้าฟาร์มและโซนตึกม้าอาชาไนยให้มีความเป็น InteractiveRetail มากขึ้น โดยใช้พื้นที่ราว 500 ไร่ คาดว่าอาจใช้งบฯในการปรับปรุงประมาณ 100 ล้านบาท
นายโชคกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ฟาร์มโชคชัยได้ปรับตัวเข้าสู่ E-commerce มากขึ้น เช่น การจองร้านอาหาร, ที่พัก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของฟาร์ม เพื่อขยายช่องทางการตลาด โดยสามารถจองที่นั่งและรายการอาหารของร้าน Prime Steak@Farm Chokchai ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตขึ้น 20-30% รวมทั้งการจองแพ็กเกจทัวร์ผ่านเว็บไซต์ก็มียอดขายอยู่ในลำดับต้นๆ และอาจมีการปรับโมเดลการท่องเที่ยวให้เป็นรูปแบบท่องเที่ยวกับอาหาร โดยการชูจุดเด่นด้านการทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ของฟาร์ม ตอบรับเทรนด์ของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ส่วนความคืบหน้าของการเป็นที่ปรึกษาวางต้นแบบอุตสาหกรรมโคนมและส่งออกแม่พันธุ์วัวไปยังต่างประเทศนั้น ล่าสุดเพิ่งได้รับออร์เดอร์แม่พันธุ์วัวจากรัฐบาลเมียนมาร์ และกำลังเจรจากับมาเลเซีย โดยจะใช้โอกาสนี้เป็นช่องทางในการรุกตลาดส่งออกสินค้าเข้าไปในประเทศเหล่านี้ด้วย
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
