1.ตร.สั่งห้ามจัดเสวนา"ความยุติธรรมที่ปิดปรับปรุง"
เมื่อเวลา เวลา 14.30 น.ในงานแถลงรายงานและเวทีเสวนา ความยุติธรรมที่ปิดปรับปรุง ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดย พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี เดินทางมาส่งมอบหนังสือระงับการเสวนาโดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่สงบ และถือเป็นการชุมนุมเกิน 5 คน
ซึ่งทางตัวแทนผู้จัดงานได้ชี้แจงว่า "เป็นเพียงงานเสวนาแลกเปลี่ยนกันธรรมดาเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้กับสังคม ไม่ได้มีเจตนาชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด
โดยจุดประสงค์หลักของข้อเสนอในรายงานได้แก่ 1.ยุติกฎอัยการศึก 2.ยกเลิกการจับกุมบุคคลโดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก 3.ยกเลิกการจับกุมควบคุมเสรีภาพการแสดงออกของบุคคลโดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก 4. ยกเลิกการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร และมองว่า ประชาชนควรมีทนายเพราะปัจจุบันยังอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมาย และตามสิทธิเสรีภาพที่มนุษย์พึงมีโดยปกติตั้งแต่กำเนิดอยู่แล้ว ซึ่งสรุปสุดท้ายทางผู้จัดงานก็ให้ความร่วมมือในการงดการจัดงานไปก่อน
2.อธิบดีราชทัณฑ์เชือด!! 14เจ้าหน้าที่คุก อกพ.มีมติไล่ออก พัวพันซุกยาเสพติด-ลอบนำเข้ามือถือ
เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กรมราชทัณฑ์ มีมติไล่ออกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องและพัวพันกับยาเสพติดและโทรศัพท์ จำนวน 14 ราย โดยข้าราชการเหล่านี้ กระทำความผิด เช่น ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด จำนวน 3 ราย ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ รวมทั้งยาเสพติด และสิ่งของต้องห้ามอื่นๆ จำนวน 11 ราย ซึ่งการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการเหล่านี้ ปรากฎหลักฐาน อกพ.กรมฯ จึงมติไล่ออกดังกล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า การดำเนินการทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เป็นนโยบายสำคัญที่จะเร่งปราบยาเสพติด และโทรศัพท์ภายในเรือนจำให้ได้มากที่สุด
3."บิ๊กตู่" ลั่นครม.ไม่มีกำหนดระยะเวลาทำงาน เชื่อมั่นความดีจะฟันฝ่าอุปสรรคได้
วันที่ 2 กันยายน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเปิดเผยถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ทันทีที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติและจะมีการแบ่งการทำงาน 19 กระทรวงให้รองนายกรัฐมนตรี 5 คนดูแลขณะที่บทบาทการทำงานของ คสช. 5 ด้านยังคงอยู่ แต่ก็ต้องลดบทบาทลง มีเพียงการดำเนินการเกี่ยวกับงานขับเคลื่อนที่เป็นเรื่องเร่งด่วน อาทิ การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความมั่นคงภายใน รวมถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ คสช.มุ่งเน้น พร้อมระบุถึงการทำงานในส่วนของรัฐบาลใหม่ด้วยว่าได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศโดยยึดหลัก ทำก่อน ทำจริง มีผลสำเร็จ ปี 2558 และยั่งยืนบนพื้นฐานของค่านิยมคนไทย 12 ประการ
หัวหน้า คสช. กล่าวถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีด้วยว่าจะไม่มีการกำหนดระยะเวลาการทำงานเพราะไม่ต้องการให้เงื่อนไขของเวลามาเป็นอุปสรรคส่วนตัวเชื่อมั่นในความดี ว่าความดีจะชนะความไม่ดี และจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้
4.คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธ.กสิกรสยาม หลังครบเดดไลน์ใช้หนี้พนันบอล
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน สามารถจับกุมนายพรศักดิ์ แก้วชัยสิน อายุ 30 ปี หลังสวมหมวกกันน๊อคและผ้าคลุมศีรษะ ใช้ปืนปลอมก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาสยามสแควร์ ได้เงินสดรวม 120,850 บาท แต่ว่าถูกตำรวจจับกุมได้ทันที หลังพยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
โดยพลตำรวจตรี ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาเข้าก่อเหตุภายในธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ร้องขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมีตำรวจชุมชน และสายตรวจนอกเครื่องแบบ ดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณดังกล่าวจึงเข้าช่วยจับกุมผู้ต้องหาทำให้ผู้ต้องหาล้มลงทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ท้ายทอยเล็กน้อย
จากการสอบสวนพบว่านายพรชัย ต้องการนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้พนันฟุตบอลที่ติดอยู่กว่า 1 แสนบาท และวันนี้เป็นวันที่ครบกำหนดชำระจึงตัดสินใจนำปืนของเด็กเล่นที่ซื้อให้ลูกนำมาใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้
5.วันสุดท้ายรับสมัครสรรหา สปช. ยอดรวมกว่า 6,729 คน
วันสุดท้ายในการเปิดรับสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. โดยมีบุคคลสำคัญสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นจำนวนมาก อาทิ นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม ที่ต้องการปฏฺิรูปด้านกีฬา //นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการกลุ่มกปปส.ร่วมสมัครรับการสรรหา ประกอบด้วย นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ /นายคมสันต์ โพธิ์คง และ นายบรรเจิด สิงคะเนติ รวมถึงผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนวลนรดิศซึ่งเป็นโรงเรียนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สำเร็จการศึกษา ก็มายื่นสมัครด้านการศึกษา ด้วย
ทั้งนี้ ยอดรวมผู้สมัครล่าสุดมีกว่า 6,729 คนโดยการเสนอรายชื่อตลอด 20 วัน พบว่า ใน 5 อันดับแรกที่มีองค์กรนิติบุคคลสนใจเสนอรายชื่อมากที่สุด คือ ด้านการศึกษา ขณะที่ด้านสื่อสารมวลชน มีผู้เสนอชื่อน้อยสุด โดยกกต.จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 22 กันยายน
