ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีน้องเอก วัย 19  นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของแฟนเพจเฟสบุ๊ค  "เก๊กฮวยช่วยแม่" หาเงินรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เดือนละ 150,000 บาท ถูกตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะกุเรื่อง เนื่องจากทางบ้านมีฐานะดี พ่อเป็นนายแพทย์และเจ้าของโรงงานเซรามิกในจังหวัดลำปาง เปิดบัญชีรับเงินบริจาคมาตั้งแต่ 9 เดือนที่แล้วนั้น

ล่าสุดได้มีรุ่นพี่คณะนิเทศศาสตร์ ชี้แจงว่าทุกคนในคณะรู้จักและรู้เรื่องราวของครอบครัวน้องเอก ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ๆ คอยช่วยเหลือน้องมาตลอด ก่อนหน้านี้มีการเปิดบัญชีรับบริจาคจริงเป็นระยะเวลา 5 เดือนตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆ และได้ปิดบัญชีไปแล้ว เพราะน้องเอกไม่อยากเป็นภาระให้กับทุกคน โดยเลือกที่จะขายของเพื่อหารายได้เอง และน้องเอกก็ได้ชี้แจงค่าใช้จ่ายทั้งหมดลงในกรุ๊ปเฟซบุ๊กของคณะ

พร้อมกันนี้รุ่นพี่ได้นำหลักฐานมายืนยัน เป็นข้อความที่น้องเอกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กกลุ่มคณะ ระบุว่าเงินระดมทุนที่เคยได้มากว่า 500,000 บาทนั้น ได้หมดลงแล้ว แต่ก็ทำให้มะเร็งลดลง 28% ในระยะเวลา 7 เดือน ทั้งนี้น้องเอก ยังได้ชี้แจงรายละเอียดปลีกย่อยของค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน 150,000 บาท ว่าประกอบด้วย เป็นค่ายาคีโม 81,290 บาท ค่ายาจีนประมาณ 30,000 บาท หนี้นอกระบบตั้งแต่แม่ยังไม่ป่วย 40,000 บาท พร้อมแสดงเจตนาว่าจะไม่ขอรับเงินบริจาคอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนข้อสงสัยที่ว่าพ่อแม่เอกมีฐานะ พ่อเป็นนายแพทย์และมีโรงงานเซรามิกอยู่ที่ลำปางนั้น รุ่นพี่ของน้องเอกระบุว่าทุกคนในคณะก็ทราบเรื่องโดยพ่อเป็นแพทย์โรคผิวหนัง แต่ออกจากราชการไปเปิดโรงงานเซรามิก ต่อมาเกิดขาดทุน จึงจำเป็นต้องขายโรงงาน ทำให้ฐานะทางบ้านไม่สู้ดีนัก โดยก่อนเป็นข่าว รุ่นพี่เห็นว่าหากน้องเอกขายของแค่ในคณะจะไม่เพียงพอ จึงเสนอให้น้องเอกเปิดแฟนเพจเก๊กฮวยช่วยแม่ เพื่อโปรโมตสินค้าและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่สู้ชีวิตเหมือนกันจนเพจเป็นที่รู้จักดังกล่าว