องค์การอนามัยโลก เตือนว่า ไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก กำลังระบาดเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1,400 รายแล้ว...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก โดยระบุว่า การระบาดครั้งนี้รวดเร็วและขยายวงกว้างอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 1,427 ราย จากผู้ติดเชื้อที่พบทั้งหมด 2,615 คน
WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า ตัวเลขผู้ป่วยต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นปัญหาอย่างมากโดยเฉพาะในไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็นประเทศที่เกิดการระบาดรุนแรงที่สุด WHO ยังแสดงความกังวลต่อสิ่งที่เรียกว่า พื้นที่ลับ (shadow zone) ซึ่งหมายถึงพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึงและผู้ป่วยที่ยังหาไม่พบ
"เนื่องจากอีโบลาไม่มีทางรักษา บางคนจึงเชื่อว่าบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาที่ติดเชื้อ จะจากไปอย่างเป็นสุขมากกว่าหากอยู่ที่บ้าน บางคนไม่เชื่อว่าคนไข้ติดเชื้ออีโบลา และเชื่อว่าการดูแลในศูนย์กักกัน จะนำไปสู่การติดเชื้อและการเสียชีวิตของผู้ป่วย" WHO แถลง
นอกจากนี้ บ่อยครั้งที่ศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลา ถูกญาตินำไปประกอบพิธีกลบฝังโดยไม่มีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ และมีพื้นที่ลับในเขตชนบทซึ่งมีข่าวลือว่ามีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพราะอีโบลา แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากชุมชนต่อต้านหรือขาดแคลนเจ้าหน้าที่
WHO เผยด้วยว่า ขณะนี้พวกเขากำลังทำงานร่วมกับองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าเดิม และเมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) WHO ได้ร่างแผนการเพื่อต่อสู้กับการระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในต้นสัปดาห์หน้า
นายเดวิด นาบาร์โร ผู้ประสานงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในเรื่องไวรัสอีโบลา ซึ่งเดินทางไปยังประเทศไลบีเรียพร้อมกับ ดร.ฟุคุดะ เคจิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านความมั่งคงทางสุขภาพ เผยว่า แผนดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อต่อสู้กับไวรัสมรณะตัวนี้
ด้าน ดร.ฟุคุดะ กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรียว่า การยุติการระบาดของอีโบลาครั้งนี้ อาจต้องใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน