สธ.เตือน!คนไทยอย่าตระหนกเชื้ออีโบลา
 


สธ.เตือน!คนไทยอย่าตระหนกเชื้ออีโบลา


สธ.เตือน!คนไทยอย่าตระหนกเชื้ออีโบลา

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือที่ปรึกษาด้านสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (คสช.) ให้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ (คกก.) อำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2557 โดยในวันนี้มีเรื่องพิจารณาที่สำคัญ 2 เรื่องคือ การเตรียมพร้อมของประเทศไทยสำหรับกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา และการเตรียมพร้อมสำหรับโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาคณะกรรมการได้เห็นชอบกรอบมาตรการเตรียมความพร้อม 4 ด้านคือ 1.การจัดระบบเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและในสัตว์ 2.การดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล มีการเตรียมห้องแยกผู้ป่วย การดูแลรักษาผู้ป่วยตามแนวทางมาตรฐาน รวมถึงการควบคุมการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด3.การพัฒนาระบบการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัย ร่วมมือเป็นเครือข่ายห้องปฏิบัติการของประเทศ และ 4.การบริหารจัดการแบบบูรณาการหลายภาคส่วน โดยมีศูนย์ประสานปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ซึ่งบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสามารถประสานสั่งการ เชื่อมโยงการทำงานทั้งประเทศ กรณีพบผู้ป่วยอีโบลา

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังโรค การดูแลรักษาผู้ป่วย และการควบคุมโรค ทั้งกรณีที่ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศจนถึงกรณีที่พบผู้ป่วยในประเทศ โดยเฉพาะในกรณีที่พบผู้ป่วยในประเทศ จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานฝ่ายต่างๆจึงมอบหมายให้ตั้งคณะทำงานจัดทำแนวทางปฏิบัติอย่างละเอียด โดยมีผู้แทนจากหลายฝ่าย รวมทั้งให้มีการซ้อมแผนการเตรียมความพร้อมในทุกจังหวัด ที่สำคัญอีกเรื่องคือการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ให้ตั้งคณะทำงานจัดทำแนวทางปฏิบัติด้านการชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ โดยมีศ.นพ.ประเสริฐทองเจริญ เป็นประธาน และมีผู้แทนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัย และเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ส่วนเรื่องการสื่อสารความเสี่ยง ให้ตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำแผนและประสานการดำเนินงาน โดยให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธาน ส่วนด้านการบริหารจัดการแบบบูรณาการ เพื่อควบคุมสถานการณ์กรณีเกิดการแพร่โรคในประเทศซึ่งอาจเป็นโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา โรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือโรคติดต่ออุบัติใหม่อื่นๆ จะมีการใช้ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ควบคู่กับ พรบ.โรคติดต่อ โดยให้กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ประสานและสนับสนุนปฏิบัติการ

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รับทราบร่างข้อเสนอการของบประมาณ สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือโรคอีโบลาในระยะเฉพาะหน้า และการป้องกันและแก้ปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ในระยะกลางและระยะยาว ในวงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเร่งพิจารณาเสนอของงบประมาณสำหรับระยะเร่งด่วนก่อนซึ่งตั้งวงเงินไว้กว่า 100 ล้านบาท โดยจะใช้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เตรียมค่าตอบแทนความเสี่ยงภัย จัดหาอุปกรณ์และวัสดุทางห้องปฏิบัติการจัดการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ส่วนงบประมาณสำหรับดำเนินการในระยะกลางและระยะยาว จะให้อนุกรรมการด้านวิชาการและยุทธศาสตร์พิจารณาด้านแนวทางการพัฒนาและบูรณาการให้ชัดเจน

นพ.ณรงค์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พบผู้ป่วยสงสัยโรคอีโบลา ชาวเมียนม่าร์ เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด แวะเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย ก่อนเดินทางต่อไปประเทศเมียนม่าร์ และตรวจพบว่าป่วยที่ประเทศเมียนม่าร์ว่า ขณะนี้ได้ให้กรมควบคุมโรคติดต่อประสานข้อมูลกับทางการเมียนม่าร์อย่างใกล้ชิดเพื่อทราบข้อเท็จจริง ส่วนแนวทางการเฝ้าระวังโรคที่ได้จัดเตรียมไว้ จะสามารถติดตามตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางร่วมไปในสายการบินเดียวกัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมโรคไปตรวจเยี่ยมระบบการเฝ้าระวังโรคที่จุดเข้าออกประเทศ ว่าสามารถปฏิบัติการได้ตามระบบที่กำหนด ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะไม่จำเป็นต้องตระหนก กรณีที่ประเทศเมียนม่าร์ตรวจพบป่วยที่ผู้อยู่ในข่ายสงสัยถือว่าเป็นความไวของระบบการเฝ้าระวังโรค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและควบคุมโรค.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.