"อีริคสัน" เผยรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านโทรคมนาคมทั่วโลก ชี้เป็นปัจจัยหลักกระตุ้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ห่วงไทยเลื่อนประมูล 4จี เสียโอกาสทั้งธุรกิจและผู้บริโภค…
นายบัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมาร์ทดีไวซ์เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ประกอบกับราคาที่ถูลงส่งผลให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคนั้นง่ายดายขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในอีก 5 ปีข้างหน้า จะสูงถึง 700 ล้านเครื่อง จากจำนวนโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 1,300 ล้านเครื่อง ซึ่งเมื่อเทคโนโลยี 4จี (แอลทีอี) ได้รับการติดตั้งในประเทศต่างๆ มากขึ้น จำนวนผู้ใช้ 4จี อาจมีจำนวนถึงกว่า 230 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้งานราว 20 ล้านคน ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากรายงานอีริคสัน โมบิลิตี้ รีพอร์ท ประจำปี 2014 ระบุว่า 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ ไทย อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาก ติด 5 อันดับแรกของโลก โดยมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นรวมกันกว่า 17 ล้านเครื่อง โดยในส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าตัว โดยเทคโนโลยี 3จี และ 4จี จะเป็นเทคโนโลยีหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า อีก 5 ปีข้างหน้า ยอดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกอาจสูงถึง 9,200 ล้านเครื่อง โดยจะมีการใช้งานโมบายบรอดแบนด์ถึง 7,400 ล้านเครื่อง ส่วนปริมาณทราฟฟิกที่เกิดขึ้นจากการใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นอาจเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวภายใน 5 ปีจากนี้ โดยทราฟฟิกในรูปแบบวิดีโอจะเพิ่มขึ้นกว่า 13 เท่าตัว ซึ่งสัดส่วนทราฟฟิกบนโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 50% ก็จะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอ นอกจากนี้ปริมาณการใช้โมบายดาต้าก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 2.5GB ต่อเดือน ภายในอีก 5 ปีจากนี้ โดยเพิ่มจากปริมาณ 60MB ต่อเดือน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
"ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง กำลังรอความชัดเจนเรื่องการประมูลคลื่นความถี่สำหรับให้บริการ 4จี ซึ่งโอเปอเรเตอร์ได้มีการเตรียมความพร้อมไปแล้วทั้งด้านอุปกรณ์และบุคลากร ทั้งคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ หากไม่สามารถจัดการประมูลในปีนี้ ก็คงจะเป็นการเสียโอกาสอย่างมาก เนื่องจากคลื่นความถี่นั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูนโยบาย กสทช. ว่าหากไม่มีการประมูลจะนำคลื่นไปใช้อย่างไร ในมุมผู้บริโภคก็เสียโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภค แต่ต้องดูภาพรวมนโยบาย กสทช. ด้วยว่าจะบริหารจัดการคลื่นความถี่นั้นอย่างไร"
นายบัญญัติ กล่าวอีกว่า คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นความถี่ที่ทั่วโลกนำมาใช้ให้บริการเทคโนโลยี 4จี ภาพรวมของประเทศไทยในขณะนี้ เชื่อว่าผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเทคโนโลยีและการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ทั้งด้านงบประมาณการลงทุน แม้ว่าจะต้องชะลอการประมูลออกไป แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นความพร้อมที่โอเปอเรเตอร์ต้องเตรียมพร้อม
"ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้มือถือในไทยเพิ่มเป็น 92 ล้านราย ขณะที่การจัดสรรคลื่นความถี่ให้โอเปอเรเตอร์นั้นยังไม่สัดส่วนไม่เพียงพอที่จะรองรับการใช้งาน ซึ่งหากไทยต้องการเป็นผู้นำในการเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งโอเปอเรเตอร์ไทยแตกต่างจากโอเปอเรเตอร์ต่างประเทศที่มีจำนวนช่วงความถี่หลากหลาย ในประเทศที่มีศักยภาพในการให้บริการอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง เช่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์นั้นจะมีคลื่นคามถี่ที่หลากหลายมากถึง 4-5 รูปแบบคลื่นความถี่ หาก 4จี ไม่เกิด ปัญหาคือโอเปอเรเตอร์ต้องหาทางรองรับความต้องการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์จากการเข้าถึงเทคโนโลยี".
