กำลังซื้อ"บ้านเดี่ยว"เชียงใหม่ฟื้นรับการเมืองนิ่ง
 


กำลังซื้อ"บ้านเดี่ยว"เชียงใหม่ฟื้นรับการเมืองนิ่ง


กำลังซื้อ

อสังหาฯเชียงใหม่เริ่มฟื้นหลังการเมืองสงบ กลุ่มทุนท้องถิ่น "ภานน" รุกเปิดตัวบ้านเดี่ยวสไตล์อิงลิชคันทรี่ เฟส 4

"นนนิภา วิวดอย" ตรงข้ามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แค่ 2 เดือนกวาดยอดขายกว่า 40 ยูนิต จากทั้งหมด 87 ยูนิต กว่าครึ่งเป็นคนกรุงเทพฯซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 จ่อเปิดตัวเฟส 5 บนที่ดิน 100 ไร่ ไตรมาส 4 นี้ ชี้ภาพรวมตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาซบเซา ไม่มีโครงการใหม่เปิดตัว

นาย อานนท์ น้อยอ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภานน จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรสไตล์อิงลิชคันทรี่ "นนนิภา แม่โจ้" จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวโครงการนนนิภา เฟสใหม่ (เฟสที่ 4) ภายใต้ชื่อ "นนนิภา วิวดอย" บนที่ดิน 40 ไร่ ในซอยทุ่งหมื่นน้อย ตรงข้ามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปรากฏว่าผลตอบรับดีกว่าที่คาด ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมาปิดการขายได้ถึงเกือบ 50% หรือกว่า 40 ยูนิต จากทั้งหมด 87 ยูนิต ภายในไตรมาส 3 นี้จะปิดการขายได้

จุดขาย โครงการเฟสใหม่คือสามารถเห็นวิวดอยสุเทพได้ชัดเจน โครงการมีบ้านให้เลือก 5 แบบ แบ่งเป็นบ้านชั้นเดียว 2 แบบ บ้านชั้นครึ่ง 1 แบบ และบ้าน 2 ชั้น 2 แบบ ฟังก์ชั่น 2-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 85-120 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้น 60-213 ตารางวา ราคายูนิตละ 2.69-5.55 ล้านบาท มูลค่าขายรวมกว่า 200 ล้านบาท

ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีอายุ 40-50 ปี ในจำนวนนี้กว่า 50% เป็นคนกรุงเทพฯที่ซื้อไว้เป็นบ้านพักหลังที่ 2 มาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาล ที่เหลืออีกกว่า 40% เป็นคนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องการมีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ รอบนอก โดยจากที่ตั้งโครงการใช้เวลา 25-40 นาที ก็สามารถเดินทางถึงตัวเมืองและสนามบินเชียงใหม่ได้

"สาเหตุที่ยอดขายดีน่าจะมาจาก 2 ปัจจัย คือปัจจุบันมีเราและผู้ประกอบการอีกรายที่พัฒนาบ้านจัดสรรสไตล์อิงลิชคัน ทรี่ ส่วนที่สองน่าจะมาจากปัญหาทางการเมืองได้ข้อยุติ ทำให้ผู้บริโภคกลับมาตัดสินใจซื้อบ้านอีกครั้ง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเดือนเดียว ปิดการขายได้ 20 ยูนิต"

ทั้ง นี้จากผลตอบรับที่ดี บริษัทวางแผนจะเปิดตัวโครงการเฟสที่ 5 หรือ "นนนิภา วิวดอย 2" บนที่ดิน 100 ไร่ ตรงข้ามกับเฟสวิวดอย 1 ภายในช่วงไตรมาส 4 นี้ โดยแบบบ้านหลังเล็กสุดจะพัฒนาเป็นบ้านแฝดบนที่ดินเริ่มต้น 35 ตารางวา เพื่อคุมราคาขายเริ่มต้นไม่เกิน 1.9 ล้านบาท จากเดิมโครงการ 3 เฟสแรกเป็นบ้านเดี่ยวบนที่ดิน 50-60 ตารางวามาตลอด เนื่องจากบริษัทได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มเป้าหมายคนเชียงใหม่ 800 ตัวอย่าง พบว่าค่าเฉลี่ยต้องการซื้อบ้านราคา 1.8-1.9 ล้านบาท

นายอานนท์กล่าว อีกว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงใหม่ นับจากเดือนพฤศจิกายน 2556-เมษายน 2557 ถือว่าซบเซาจากผลกระทบปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง สังเกตว่าแทบไม่มีผู้ประกอบการเปิดตัวบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่เป็น โครงการใหม่ แต่ใช้วิธีเปิดเฟสใหม่ในโครงการเดิม หรือนำโครงการที่อยู่ระหว่างการขายมาจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอด เช่น บริษัทพัฒนาที่ดินจากกรุงเทพฯรายหนึ่งเปิดขายบ้านเดี่ยวราคา 6-7 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ได้จัดโปรโมชั่นลดราคายูนิตละ 1 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อน่าจะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากการเมืองเริ่มสงบ

สำหรับบริษัทพัฒนาที่ดินจากกรุงเทพฯที่ เปิดโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ (คิวเฮ้าส์) เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ลัดดารมย์ ราคาเฉลี่ยกว่า 3 ล้านบาทเร็ว ๆ นี้, บมจ.แสนสิริ ปีที่ผ่านมาเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเศรษฐสิริ สันทราย-เชียงใหม่ และดีคอนโด ราคา 1 ล้านต้น ๆ

หลายโครงการ, บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดตัวบ้านเดี่ยวราคากว่า 3 ล้านบาท, บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง เปิดตัวคอนโดฯ ดิ อามองต์ บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ราคาเริ่มต้นยูนิตละกว่า 1 ล้านบาท, บมจ.ศุภาลัย เปิดตัวบ้านจัดสรรและคอนโดฯหลายโครงการ, บมจ.ปริญสิริ มีกระแสข่าวซื้อที่ดินบริเวณถนนเชียงใหม่-แม่ริม ฯลฯ




// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.