สินค้าโอท็อปกลุ่มชายแดนใต้เติบโตพันล้าน สงขลากระทุ้งรัฐบาลใหม่สนับสนุนลงทุน-ทำตลาดบุกประเทศอาเซียน

นายสวัสดิ์ มีแต้ม พัฒนาการจังหวัดสงขลา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล) ขยายตัวเติบโตดีมาก โดยเฉพาะสินค้าของจังหวัดสงขลาเติบโต 15-20% มีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดประมาณ 1,400 ล้านบาท/ปี ขณะที่จังหวัดอื่นๆ มียอดขายสินค้าเฉลี่ย 600-700 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ เป็นเพราะได้นำสินค้าไปโรดโชว์ในประเทศเพื่อนบ้านหลายครั้ง ทำให้ลูกค้ายอมรับอย่างกว้างขวาง สินค้าเด่น ได้แก่ ผ้าทอยกดอก และหนังปลากะพงขาวทอดกรอบเกาะยอ กรงนกเขาชวาอำเภอจะนะ ยาสีฟันสมุนไพรอำเภอนาหม่อม และผ้าคลุมผมสตรีและหมวกกะปิเย๊าะอำเภอจะนะ ในอนาคตหากรัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนและทำการตลาดที่ดี สินค้าดังกล่าวจะมีโอกาสขยายตัวอีกมาก หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

"โอกาสที่สดใสของสินค้าโอท็อปสงขลาเมื่อเข้าสู่เออีซี มีความได้เปรียบจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากเปรียบเสมือนประตูสู่อาเซียน สามารถเดินทางไปมาหาสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียได้สะดวกทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยว นับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปที่จะบุกตลาดอาเซียน"

นายสวัสดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสงขลามีสินค้าโอท็อปขึ้นทะเบียนกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสงขลา จำนวน 340 ราย 715 ผลิตภัณฑ์ ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการสมัครเข้ารับการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ 115 ราย ใน 5 ประเภทผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก และประเภทสมุนไพร ซึ่งมีผู้ประกอบการผ่านระดับ 5 ดาว จำนวน 20 ราย

อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้เตรียมความพร้อมนำสินค้าโอท็อปบุกตลาดอาเซียนด้วยการวางแนวทางจะพัฒนาแก้ไขจุดด้อยของผลิตภัณฑ์ให้สามารถดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าอาเซียนมากขึ้นทั้งด้านบรรจุภัณฑ์ ภาษา ทักษะการขายกับนักท่องเที่ยว และการขายผ่านสื่อออนไลน์

ลำดับแรกที่ต้องพัฒนาคือบรรจุภัณฑ์จะต้องทำให้สวยงามทันสมัย มีภาษาเพื่อสื่อสารกับลูกค้า 3 ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ จีน และมลายู รวมทั้งพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้ทักษะในเรื่องการขายกับลูกค้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัด และเพื่อสื่อสารในโอกาสที่นำสินค้าไปขายในประเทศอาเซียน

นายดลเดช พัฒนรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สงขลาและกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ส่งเสริมการดำเนินงานโครงการโอท็อปทุกรูปแบบทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ศักยภาพผู้ผลิตและผู้ประกอบการ รวมทั้งสนับสนุนการหาตลาดให้แก่กลุ่มอาชีพได้มีช่องทางในการแสดงและจำหน่ายเพื่อสร้างงานรายได้เพื่อให้สินค้าโอท็อปเป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคและตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้มีการเจรจาด้านธุรกิจและการลงทุน ประชาสัมพันธ์ให้สินค้าเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในการนำสินค้าสู่การเปิดตลาดอาเซียน