"ไอคอนสยาม" เติมเสน่ห์ "5 หมื่นล้าน" ร่ายมนตร์...สะกดโลก
 


"ไอคอนสยาม" เติมเสน่ห์ "5 หมื่นล้าน" ร่ายมนตร์...สะกดโลก



นับตั้งแต่ 2 ปีก่อนที่เซ็นสัญญาร่วมทุนกันระหว่างสยามพิวรรธน์และกลุ่มซีพี-แมกโนเลีย ทุ่ม 3.5 หมื่นล้านบาท สร้างโครงการยักษ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินผืนงาม 40 ไร่ เพื่อปั้นแลนด์มาร์กระดับเวิลด์คลาสดึงนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก และตามแผนการลงทุนพร้อมเปิดปี 2558 รับประชาคมอาเซียน

นับตั้งแต่วันประกาศบิ๊กโปรเจ็กต์ครั้งนั้น การเงียบหายของ 2 ผู้บริหารสาว กลับกลายเป็นการซุ่มเงียบเพื่อเก็บข้อมูลและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับอภิมหาโครงการเมืองที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดที่ภาคเอกชนเคยทำมา พร้อมกับงบฯการลงทุนที่พุ่งพรวดทะลุ 5 หมื่นล้านบาท

"ชฎาทิพ จูตระกูล" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ "ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ควงคู่กันเปิดใจอีกครั้งถึงความเคลื่อนไหวและทุกความพร้อมสำหรับอวดโฉมโครงการยักษ์

"คอนเซ็ปต์ของโครงการได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีมากจากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าและการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ ทำให้เราตัดสินใจขยายพื้นที่โครงการให้ใหญ่ขึ้น ด้วยการซื้อที่ดินที่อยู่ล้อมรอบโครงการเพิ่มเติมอีก 10 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 50 ไร่"




ผลจากการขยายพื้นที่และต่อยอดโครงการทำให้มูลค่าการลงทุนของโครงการเพิ่มขึ้น 40% เป็น 50,000 ล้านบาท จากเดิม 35,000 ล้านบาท ที่ประกาศไปเมื่อครั้งประกาศการตัดสินใจพัฒนาโครงการครั้งแรก

สำหรับ 2 ศูนย์การค้า รวมพื้นที่ถึง 5.25 แสน ตร.ม. และ 2 คอนโดมิเนียมมาตรฐานระดับโลก ขนาด 70- 500 ตร.ม./ยูนิต ซึ่งได้เดินหน้าเริ่มงานก่อสร้างแล้ว หลังตอกเสาเข็มไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา




หัวเรือใหญ่สยามพิวรรธน์ขยายความว่า กว่า 2 ปีไม่เพียงการเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดและคอนเซ็ปต์ที่ดีที่สุดเพื่อสร้างโครงการเมืองริมน้ำเจ้าพระยาแห่งนี้แต่ยังรวมถึงการเฟ้นหาชื่อเรียกซึ่งคิดกันทั้งทีมงานไทย-เทศ ออกมากว่า 1,000 ชื่อ จนสุดท้ายลงตัวที่ "ไอคอนสยาม"

ด้วยคอนเซ็ปต์ "Icons with Icon" แบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทย จะออกแบบและเนรมิตอาคารของตัวเอง ซึ่งอยู่ใน 2 ศูนย์การค้าอีกที

ศูนย์หนึ่งเป็นศูนย์การค้าหลัก นำการทำ "กระทง" เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ

อีกศูนย์หนึ่งจะเป็นลักเซอรี่บิลดิ้ง นำการ "ร้อยมาลัย" เป็นแรงบันดาลใจ

"ศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่งจะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในมิติต่าง ๆ ด้วยการสร้างพื้นที่ของร้านค้าในรูปแบบที่ไม่มีใครเหมือนถึง 500 ร้านค้า 100 ร้านอาหารจาก 30 ประเทศ ตลอดจนความแปลกใหม่ของสินค้าและบริการที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย รวมถึงศูนย์การแสดงและประชุมมาตรฐานโลก รองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ถึง 3,500 คน ใช้เงินลงทุนเฉพาะส่วนนี้ถึง 3,500 ล้านบาทเข้ามาเสริม "

นอกจากนี้ยังมี 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่จะเข้ามาเป็นแม่เหล็กสำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยว

โดย 2 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ คือการแสดงสายน้ำ ผสมมัลติมีเดีย แสงสีเสียง ความยาว 400 เมตร และพิพิธภัณฑ์ศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และสุดยอดภูมิปัญญาไทย

"สิ่งใหม่ ๆ ที่เราทำต้องดีกว่าเดิม ท้าทายกว่าเดิม เมื่อ 8 ปีก่อนสยามพารากอนเป็นที่สุดแล้วในตอนนั้น แต่ตอนนี้เรากำลังทำสิ่งที่ยากและท้าทายมาก

เราจะปั้น "ไอคอนสยาม" ให้เป็นมากกว่าศูนย์การค้าและเรสซิเดนต์ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย"

เช่นเดียวกับพาร์ตเนอร์สำคัญ "ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ฉายภาพว่า "ไอคอนสยาม" จะทำให้ทั่วโลกต้องหันมามองประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิม

"เรากำลังสร้างเมืองใหม่ที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ ครบถ้วนด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และความงดงามทางวัฒนธรรมโดยในส่วนที่พักอาศัยริมน้ำระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ 70 ชั้น 379 ยูนิต และ 40 ชั้น 140 ยูนิต จะสร้างมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัย ทั้งคุณภาพและการออกแบบ คำนึงถึงการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

ถามถึงความพร้อม และความมั่นใจในการลงทุน "ชฎาทิพ" ยอมรับว่า กังวลกับสถานการณ์บ้านเมืองช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อสอบถามนักลงทุนต่างประเทศ ปรากฏว่ายังยืนยันลงทุนเปิดธุรกิจกับไอคอนสยาม

"เราไม่มีปัญหาเรื่องผู้เช่าร้านค้า ซึ่งจะเปิดให้จองพื้นที่ในเดือนตุลาคม แต่สำหรับผู้เช่าแม็กเนตหลักได้มีการตกลงกันไปล่วงหน้า เช่นเดียวกับการมีธนาคารกสิกรไทย และธนชาต มาเป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน"

ขณะที่ "ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์" ยืนยันว่า การลงทุนด้วยมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าเมืองไทยมีดี และไม่แพ้ใคร ๆ ในโลก

"ไอคอนสยาม" จะเป็นสถานที่ที่ดึงดูดคนไทยทั่วประเทศ และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยทำเลริมน้ำที่สวยงามและทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดินผืนใหญ่ชิ้นสุดท้ายที่ตั้งอยู่ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สำคัญรัศมี 10 กม.โดยรอบโครงการแวดล้อมด้วยที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์กว่า 200 โครงการที่มีผู้พักอาศัยมากกว่า 3 ล้านคน และโรงแรมระดับโลกกว่า 50 แห่ง ห้องพักกว่าหมื่นห้อง

การเดินทางเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การออกแบบและความโดดเด่นของอาณาจักร "ไอคอนสยาม" ครอบคลุมทั้งทางบกและทางน้ำ ผ่านโมเดล "ICONSIAM River Master Vision" ด้วยการสร้างเครือข่ายเติบโตไปพร้อมกัน เพราะเป้าหมายลูกค้าที่เดินทางมาช็อบปิ้งแต่ละวันสูงถึง 2-3 แสนต่อวัน คือความท้าทายสำคัญ

จากการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 40 ราย ตลอด 10 กิโลเมตรริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครอบคลุมทั้งค้าปลีก โรงแรม เรือสัญจรในแม่น้ำ และสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อร่วมกันเนรมิตแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

โดยยุทธศาสตร์ทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจสีลมและสาทรขณะเดียวกันเป็นจุดที่เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า รถยนต์ หรือทางเรือ รวมกว่า 650 เที่ยวต่อวัน เรือโดยสาร 143 ลำต่อวัน มาจอดที่ท่าเรือทุก ๆ 15 นาที และในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะมีโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่สร้างเสร็จเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง

รวมถึงสำนักผังเมืองกรุงเทพมหานคร มีแนวคิดที่จะสร้างทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไอคอนสยามจะสร้าง The River Park ริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่ 10,000 ตร.ม. เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่โครงการกับทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับการจัดงานระดับชาติและการแสดงโชว์ระดับโลก

ในอีก 3 ปีข้างหน้า "ไอคอนสยาม" เตรียมอวดโฉมการลงทุนครั้งสำคัญสำหรับการเป็นแลนด์มาร์กของประเทศที่รวมสิ่งที่ดีที่สุดของไทยกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลกเข้าไว้ด้วยกัน


ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat




// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.