ฟุตบอลโลก 2014 ในสายตาแฟนบอลจำนวนไม่น้อยอาจมองว่าเป็นปีที่เวิลด์คัพมีสีสันมากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกสนามต่างมีเหตุการณ์ชวนอมยิ้มและสร้างความแปลกใจให้กับคนทั่วโลก ลองมาไล่เรียง 10 เหตุการณ์สีสันที่เกิดขึ้นช่วงรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลก 2014 พร้อมรับบรรยากาศรอบน็อกเอาต์

10.สัตว์จอมทำนาย

สัตว์ทำนายผลกลายเป็นของคู่กันกับทัวร์นาเมนต์ลูกหนังโลกเรียบร้อย แม้เจ้าหมึกพอลฉบับดั้งเดิมจะไม่อยู่บนโลกแล้ว แต่เจ้าพอลทำให้คนสรรหาสารพัดสัตว์มาทำนาย ไล่ไปตั้งแต่อูฐในดูไบ, เต่าทะเลในบราซิล, ช้างป่าจากเยอรมนี, จิงโจ้ออสเตรเลีย, วัวจากอังกฤษ, "เรจินา" หมึกในสวนน้ำคล้ายกับพอลเอง และอีกหลายชนิด ขณะที่ไทยก็มีหลายฝ่ายสรรหามา เช่น "ลิตเติล" เม่นเผือกจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แต่ที่แปลกไม่แพ้คนอื่นคือ "แมลงสาบ" จากกลุ่มนักวาดการ์ตูนอิสระในคลิปยูทูบของกลุ่ม

9.กฎเหล็ก

การใช้ชีวิตของนักฟุตบอลทีมชาติระหว่างลุยฟุตบอลโลกไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก ทำให้เกิดกฎเหล็กแบบจะว่าธรรมดาก็ไม่เชิงจะประหลาดก็ไม่ใช่ โดยฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือจอมเฮี้ยบที่ปีนี้คุมรัสเซียมาลุย สั่งห้ามนักเตะใช้ทวิตเตอร์ เนื่องจากหวั่นข้อความนักเตะสร้างปัญหา ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยอย่างเรื่องกุ๊กกิ๊กของท่านชาย ระเบียบในแคมป์แต่ละก็ทีมแตกต่างกันไป ตรวจสอบดูพบว่ามีทีมดังที่ไฟเขียวชัดเจน อาทิ อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, สเปน, อุรุกวัย, ฝรั่งเศส และอิตาลี ขณะที่ไฟแดงแบบมีเงื่อนไขต่าง ๆ อาทิ ชิลี, เม็กซิโก, บอสเนีย ส่วนบราซิลเจ้าภาพ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือระบุมีเซ็กซ์รูปแบบ "ปกติ" ได้เท่านั้น



8.วีรกรรมของมาริโอ บาโลเตลลี่

ถ้าจะมีใครเบียดกระแส "เพอร์ซีอิง" ท่าพุ่งโหม่งของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ได้ ก็ต้องเป็นกองหน้าจอมห้าวผู้สร้างวีรกรรมมามากมาย สำหรับครั้งนี้ วีรกรรมของบาโลเตลลี่แสบไม่แพ้เหตุการณ์อื่น ๆ ดูแล้วจะมีนักเตะคนไหนแปะสติ๊กเกอร์สะสมของฟุตบอลโลกเป็นหน้าตัวเองเต็มพื้นที่หน้าทีมชาติอิตาลีแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวหรือจะมีนักเตะคนไหนกล้าโพสต์ข้อความว่า ถ้าชนะคอสตาริกา จะขอจูบจากพระราชินีของสหราชอาณาจักร (อังกฤษยังไม่มีแต้มจาก 2 นัด โอกาสเข้ารอบคือต้องลุ้นให้อิตาลีชนะคอสตาริกาด้วย แต่อิตาลีแพ้ 0-1 บาโลเตลลี่อดได้ทั้งจูบและตั๋วเข้ารอบ)



7.แฟนบอลพันธุ์สยิว ปี 2010

ลาริสซา ริเคลเม่ แฟนบอลสาวปารากวัยฝากภาพความทรงจำไว้มากมาย ปีนี้แฟนบอลรู้จักมาร์เลน ดอลล์ ดาราหนังผู้ใหญ่ที่ประกาศพลีกายให้เป็นรางวัลสำหรับผู้ติดต่อมาหากชิลีเอาชนะคู่แข่งได้ ซึ่งเมื่อชิลีชนะออสเตรเลียและสเปนได้ เธอประกาศว่าทำตามสัญญา แต่ก็ไม่มีใครยืนยันชัดเจนว่าจริงหรือไม่ ขณะที่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ดอลล์ยังประกาศพร้อมพลีกายบนเตียงเป็นเวลา 48 ชั่วโมงทีเดียว นอกจากดอลล์แล้วยังมีฟรานซิสก้า อุนดูร์รากา อีกหนึ่งสาวสุดเซ็กซี่ที่เพนต์อกออกรายการจนโด่งดังไปทั่วประเทศ



6.แค่เสื้อยังไม่พอ

การแลกเสื้อระหว่างนักฟุตบอลในสนามเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังแล้วการแลกเสื้อของนักเตะทุกวันนี้ไม่เพียงพอ เมื่อเจอวัฒนธรรมอีกแบบจากเหตุการณ์ที่อิวาน ราคิติช แข้งโครเอเชีย กับสเตฟาน เอ็มเบีย จากแคเมอรูน สองนักเตะร่วมสโมสรเซบีญาถูกจับภาพแลกกางเกงกันหลังออกจากสนามแล้ว

5.สถิติแล้วก็สถิติ

เรื่องของตัวเลขในการกีฬาถือเป็นเสน่ห์อีกแบบ ฟุตบอลโลกปีนี้มีสถิติใหม่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเลขดาวซัลโวร่วมในเวิลด์คัพของมิโลสลาฟ โคลเซ่, ประตูที่เร็วที่สุดอันดับ 5 ของทัวร์นาเมนต์จากลูกยิงของคลินค์ เดมพ์ซี่ย์ หรือดิว็อค โอริชี่ ดาวรุ่งเบลเยียมในฐานะนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในฟุตบอลโลกได้ รวมไปถึงสถิตินักเตะอายุมากที่สุดที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกของฟาริด มอนดรากอน นายทวารโคลอมเบียวัย 42 ปีทำลายสถิติของโรเจอร์ มิลลา เรียบร้อยแล้ว

4.ใบลางานแด่คนรักชาติที่บ้าบอล

เกมนัดสุดท้ายของกลุ่มจีระหว่างสหรัฐกับเยอรมนีเป็นเกมสำคัญสำหรับทั้งสองทีม นอกจากจะเป็นศึกศักดิ์ศรีระหว่างสองกุนซือที่เป็นชาวเยอรมันด้วยกันแล้วยังเป็นการแย่งตำแหน่งในกลุ่ม เจอร์เกน คลินส์มัน กุนซือเยอรมันที่คุมสหรัฐไม่รู้เอาจริงหรือหยอกแฟนบอลเล่น แต่คลินส์มันรู้ใจแฟนบอล โพสต์แบบฟอร์มใบลางานที่เขียนเหตุผลแถมท้ายด้วยลายเซ็นของคลินส์มันสำหรับลาไปเชียร์ทีมชาติสหรัฐ ไม่แน่ว่าอาจมีใครเอาไปใช้จริงก็เป็นได้ แต่ใช้แล้วคงไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยหลังจากยื่นไป



3.แคมป์แตก

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ตามรอยครั้งปี 2010 ซึ่งแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศสแทบแตกกับปัญหาเกาเหลาระหว่างผู้เล่นและโค้ช ส่วนปีนี้แคมป์ทีมชาติกานาตามรอยอีกครั้ง และปัญหาแรงถึงขั้นตัดชื่อซัลลีย์ มุนตารี่ และเควิน พรินซ์ บัวเต็ง ผู้เล่นตัวหลักก่อนหน้าเกมสุดท้ายกับโปรตุเกส โดยให้เหตุผลว่ามุนตารี่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่ในทีม ขณะที่บัวเต็งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับโค้ช สุดท้ายกานาก็ยุติเส้นทางไว้ที่รอบแบ่งกลุ่ม

2.เซียนปากกาหัก

นอกจากเรื่องนอกสนามที่แสนแสบแล้ว เรื่องในสนามสำหรับเหล่าเซียนทั้งหลายยังแสบไม่แพ้กัน เมื่อหน้าตาของ 16 ทีมในรอบน็อกเอาต์แปลกตาไปไม่น้อย โดยทีมเต็งอันดับต้น ๆ อย่าง สเปน, อิตาลี, อังกฤษ และโปรตุเกส ตกรอบแบ่งกลุ่มไปแบบน่าเหลือเชื่อ ผลที่ออกมาคงน่าตกใจถึงขั้นบิเซนเต้ เดล บอสเก้ ขึ้นรถกลับที่พักผิดคันไปขึ้นคันของทีมคู่แข่งเลยทีเดียว



1."ซัวเรซ" กัดอย่ากัดตอบ

เหตุการณ์อันดับแรกหนีไม่พ้นวีรกรรมของหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย ทำแฮตทริกในสนามที่ไม่ใช่การยิงตาข่าย แต่เป็นแฮตทริกการใช้ฟันกัดคู่แข่งเป็นครั้งที่ 3 แล้วเมื่อซัวเรซ กัดจอร์โจ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี โดยครั้งล่าสุดดันเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกด้วย โดยฤดูกาลที่แล้วซัวเรซเพิ่งโดนแบนจากการกัดบลานิสลา อิวาโนวิช ฤดูกาลนี้ก็จะโดนแบนอ่วมกว่าหนที่แล้ว ซัวเรซโดนแบน 4 เดือน ห้ามลงเล่นทีมชาติ 9 นัด รูดม่านฟุตบอลโลก 2014 แบบที่ทั่วโลกตะลึงและน่าจะถูกพูดถึงไปอีกนานแสนนาน

ภาพประกอบ @BBCSport @Mailsport @Express