ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมใน จ.ราชบุรี ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับสถานที่จำหน่ายน้ำนมดิบ และปัญหาการขาดทุนในการประกอบอาชีพ โดยรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อจำหน่ายทั้งนมสดและแปรรูปผลิตภัณฑ์นมชนิดต่าง ๆ

ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกกว่า 4,000 คน และมีแม่วัวนมกว่า 50,000 ตัว ในการผลิตนมสดทุก ๆ วัน อีกทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานในระบบปลอดเชื้อโดยเครื่องจักรทันสมัย รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายชนิด ทั้งนมยูเอชที, ไอศกรีม, โยเกิร์ต ที่สำคัญสหกรณ์ไม่ใช่ก่อตั้งมาเพียงแค่ช่วยเหลือเกษตรกรเท่านั้น

แต่ยังมุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินงาน โดยให้การช่วยเหลือและสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการพัฒนาเกษตรกรและชุมชนในด้านต่าง ๆ

"สมชาย ดำทะมิส" ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ที่สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรีดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน จนสามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับเกษตรในพื้นที่ ด้วยการสร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น ตลอดจนลูกหลานเกษตรกรนำมาต่อยอดเป็นอาชีพ จนเกิดการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

"นอกจากนั้นสหกรณ์ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสังคม ชุมชนด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ไปช่วยเหลือโรงเรียน ชุมชน และการมอบให้หน่วยงานท้องถิ่นไจักิจกรรม อีกทั้งยังสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสาธารณประโยชน์ และสาธารณกุศล"

กอปรกับการให้สมาชิกของสหกรณ์มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยการร่วมสนับสนุนกิจกรรมทั้งโครงการสาธารณประโยชน์ และการมอบทุนการศึกษา

"นอกจากช่วยเหลือชุมชน สังคม เรายังมองถึงความยั่งยืนของชุมชน ด้วยการให้ความสำคัญด้านการศึกษา ที่นับเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในอนาคต ซึ่งจากส่วนหนึ่งของการก่อตั้งบริษัท นมหนองโพราชบุรี จำกัด ที่ปัจจุบันได้รับการโอนกิจการมาเป็นส่วนหนึ่งของสหกรณ์ มีแนวคิดที่ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรเป็นที่ตั้ง จึงมีหลักเกณฑ์ในการแบ่งผลกำไร โดยที่ส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งเข้ากองทุนที่ตั้งขึ้นเพื่อการศึกษาของลูกหลานสมาชิกที่เล่าเรียนดีมีความประพฤติเรียบร้อย"

อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเงินจำนวน 3 แสนบาทเศษให้สหกรณ์นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับด้านการศึกษาแก่บุตรหลานของสมาชิก และสหกรณ์จึงนำเงินจำนวนนี้ตั้งเป็นมูลนิธิพระบารมีปกเกล้า เพื่อนำดอกผลมาเป็นทุนการศึกษา

ถึงตรงนี้ "สมชาย" กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันหนองโพได้จัดสรรทุนการศึกษาแก่บุตรหลานของสมาชิก โดยแบ่งออกเป็น 2 ทุน คือ ทุนรายปี และทุนต่อเนื่อง สำหรับทุนรายปีจะเป็นทุนที่มอบให้แก่นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดีในแต่ละปี

"ส่วนทุนต่อเนื่อง เราสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยส่งเรียนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงระดับปริญญาตรี-โท-เอก ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเรียน ที่สำคัญทุนนี้เป็นทุนให้เปล่า ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น"

"นอกจากนี้ เรายังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการให้ทุนการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้เฉพาะทาง อาทิ หลักสูตรการจัดการฟาร์ม, หลักสูตรสัตวศาสตร์ เพื่อให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยคิดค้น และพัฒนาจนทำให้เกิดการยกระดับระบบฟาร์ม และสัตวศาสตร์ของประเทศไทย"

อีกทั้งยังร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจในการช่วยเหลือสังคม โดยจับมือกับบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อรวบรวมกล่องนมที่ใช้แล้วไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสังคม ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และหลังคา

สำหรับในปี 2557 หนองโพยังขยายความช่วยเหลือ และการตอบแทนสังคมให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยจัดโครงการหนองโพโชว์พาว ครั้งที่ 1 ส่งต่อความสุขจากฟาร์มสู่โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน โดยเรื่องนี้ "สมชาย" บอกว่าเป็นโครงการที่น้อมนำเอาแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในส่วนของโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อให้เขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

"เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลนในถิ่นทุรกันดาร และสานต่อโครงการพระราชดำริ รวมถึงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 59 พรรษา ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เราจึงได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ด้วยการจัดสร้างห้องน้ำและห้องอาบน้ำ เนื่องจากจำนวนนักเรียนที่มาพักประจำมีจำนวนมากขึ้น จึงทำให้ประสบปัญหาขาดแคลน"

นอกจากนั้น ยังมีการมอบนมยูเอชทีกว่า 20,000 กล่องให้กับนักเรียนในโรงเรียน ตชด.บ้านถ้ำหิน และโรงเรียนตชด.ตะโกปิดทอง ในช่วงปิดเทอมเพื่อให้เด็กได้รับคุณค่า และโภชนาการครบถ้วน

"โครงการหนองโพโชว์พาวถือเป็นโครงการนำร่อง และเป็นการเริ่มต้นกิจกรรมเพื่อสังคมในปี 2557 ของหนองโพ เราตั้งเป้าที่จะขยายกิจกรรมเหล่านี้ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น"

ที่ไม่เพียงทำให้เห็นถึงแนวคิดสำคัญของการก่อตั้งสหกรณ์ ที่นอกจากจะช่วยเหลือเกษตรกร และไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรเป็นที่ตั้ง หากยังเป็นการให้ความช่วยเหลือ และพัฒนาชุมชนสังคมอย่างยั่งยืนอีกด้วย