นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์โลก 2014 ว่า อาร์เอสได้รับการประสานจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ว่าต้องการหารือเร่งด่วน เพื่อนำการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีครบทั้ง 64 แมตซ์ โดยพร้อมจะให้เงินสนับสนุนเพื่อชดเชยความเสียหาย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแผนธุรกิจอย่างกะทันหัน จากที่ได้วางแผนมานานกว่า 1 ปี ซึ่งเมื่อบริษัทฯ นำข้อหารือดังกล่าวกลับมาพิจารณาทบทวนกันภายในอย่างเร่งด่วน ก็ได้เล็งเห็นถึงเจตนาอันดี รวมถึงความตั้งใจของ กสทช. ที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีและมีความสุขในหมู่ประชาชนชาวไทย
"ที่สำคัญเรามองว่าในวันนั้นเรื่องธุรกิจเป็นเรื่องรองเงินชดเชย427ล้านบาท ไม่เพียงพอที่จะเยียวยาความเสียหาย เป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย แต่เราก็ยินดีให้ความร่วมมือและเร่งประสานผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้แก่ พล.ท ชาติอุดม ติตกะสิริ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และ พลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้ง 2 สถานี จนเป็นข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้"
จากวันที่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน "อาร์เอส" ได้ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก 2014 จนจบรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่บริษัทยังไม่ได้รับเงินครบถ้วนตามจำนวนเงิน 427 ล้านบาทที่ได้ตกลงไว้ ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าทาง กสทช. จำเป็นต้องมีคณะอนุกรรมการ พิจารณาและขอรับข้อมูลในรายละเอียดจากทางบริษัทอีกครั้ง แต่บริษัทต้องรับผิดชอบต่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจบางส่วนจากการเปลี่ยนแผนธุรกิจ อีกทั้งบริษัทได้ตกเป็นเป้าโจมตีจากสังคม เนื่องจากความเข้าใจผิดจากการให้สัมภาษณ์ของหลายฝ่าย ซึ่งคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ประการแรก เรื่องแผนการถ่ายทอดสดเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้ดูฟรีครบทั้ง 64 คู่ บริษัทได้ส่งแผนให้ กสทช. ได้รับทราบในวันที่ 11 มิถุนายน และได้ทำตามแผนดังกล่าวทุกประการ เพราะในข้อตกลงที่ได้หารือกันในวันนั้นคือทุกคู่ต้องดูฟรีผ่านฟรีทีวี ซึ่งในประเด็นนี้อาร์เอสคิดว่าอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในนิยามของคำว่าฟรีทีวี โดยบริษัทหมายถึงช่องฟรีทีวีที่รับชมฟรีในทุกแพล็ตฟอร์มการรับชม ซึ่งปัจจุบันนี้มี 24 ช่องฟรีทีวี แต่ทาง กสทช. อาจหมายรวมถึงเพียงแค่ฟรีทีวีในระบบอะนาล็อคเดิมเท่านั้น ซึ่งบริษัทได้แจ้งกับ กสทช. ว่า ช่อง 8 เป็นหนึ่งในฟรีทีวีของเมืองไทย ซึ่ง กสทช. ได้รับทราบและไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ จึงได้ยืนยันว่าอาร์เอสทำถูกต้องตามข้อตกลงทุกประการ ไม่ได้มีเจตนาบิดพริ้วตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีประชาชนจากหลายพื้นที่แจ้งว่า ไม่สามารถรับชมการแข่งขันระหว่างคู่บราซิล-ชิลี ในคืนวันที่ 28 มิถุนายน และ เนเธอร์แลนด์-เม็กซิโกในคืนวันที่ 29 มิถุนายนผ่านทางช่อง 8 ในหลายพื้นที่ได้ บริษัทได้เร่งประสานขอเช่าเวลาเพิ่มเติมจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และได้รับความร่วมมืออย่างดี เพื่อให้แฟนบอลสามารถรับชมการแข่งขันอีก 2 คู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เดิมวางแผนถ่ายทอดสดที่ช่อง 8 เท่านั้น ให้รับชมผ่านช่องเอ็นบีทีได้ด้วย
ประการต่อมา บริษัทขอเรียนว่าการเข้ามาเจรจาของ กสทช. เพื่อให้คนไทยได้รับชมฟุตบอลโลกครั้งนี้ฟรีทั้ง 64 คู่ ไม่ได้เกิดจากการบังคับหรือใช้อำนาจตามกฎหมาย หากแต่เกิดจากความสมัครใจของอาร์เอสที่ยอมตกลงร่วมกันบนพื้นฐานที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้
โดยในส่วนของอาร์เอสยอมรับที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนธุรกิจและรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามมาโดยมีค่าชดเชยความเสียหาย427ล้านบาทจากกสทช.เป็นเครื่องเยียวยา เงินจำนวนนี้ไม่ใช่การซื้อสิทธิที่จะมาบังคับให้อาร์เอสทำหรือไม่ทำอะไรในภายหลังจากที่ได้ตกลงกันเมื่อวันที่11มิถุนายนได้
"การแก้ปัญหาระหว่างทางตั้งแต่เริ่มการแข่งขันเป็นต้นมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเยียวยารับคืนกล่องจากผู้บริโภคหรือรับคืนสมาชิกช่องบอลโลกรวมถึงการจัดหาเวลาเพิ่มเติมที่ช่องเอ็นบีทีนั้นเกิดจากความสมัครใจในการแก้ปัญหาเพราะเรามองประชาชน ผู้บริโภค ลูกค้าของเราเป็นที่ตั้ง ผมทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ทำดีที่สุด แต่อาจไม่ถูกใจทุกคนได้ แต่เรายืนยันว่าทำสิ่งที่ถูกต้องมีหลักการรองรับ มีเหตุผลอธิบายได้ และขอยืนยันว่าคนไทยจะได้รับชมพิธีปิดสุดยิ่งใหญ่อลังการผ่านทางช่อง 5 หรือ ช่อง 7ตามที่ได้กำหนดไว้ในตารางการถ่ายทอดสดอย่างแน่นอน" นายสุรชัยกล่าว
