สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาสังคมมีความยั่งยืน และครอบคลุมในมิติต่าง ๆ คือการพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานที่สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมและประเทศชาติ

ด้วยเหตุนี้ สมาคมเพื่อนชุมชนที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง จึงเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญของการยกระดับการศึกษาเพื่อการพัฒนาให้กับเยาวชนในพื้นที่

"ชลณัฐ ญาณารณพ" นายกสมาคมเพื่อนชุมชน บอกว่า สมาคมเพื่อนชุมชนก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมประสาน และพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่นแก้ปัญหาร่วมกัน โดยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน


http://www.prachachat.net/online/2014/06/14038439051403844122l.jpg

"ด้วยการดูแลเอาใจใส่ชุมชนทั้งในด้านการส่งเสริมพัฒนาการศึกษา และการดูแลสุขภาพ ความร่วมแรงร่วมใจของผู้ประกอบการที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่จริงจังและยั่งยืนต่อชุมชน อุตสาหกรรม และประเทศชาติ"

สมาคมมีสมาชิกร่วมก่อตั้ง โดยการสนับสนุนงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ ประกอบด้วย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบริษัท ปตท, เอสซีจี, บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด, กลุ่มบริษัท โกลว์ และบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด

อีกทั้งยังมีสมาชิกสมทบอีก 8 บริษัท ได้แก่ บริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เอบีบี จำกัด, บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด, บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด, บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด (มหาชน), บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด และบริษัท แอร์ ลิควิด (ประเทศไทย) จำกัด

"เรามีเป้าหมายในการพัฒนาและดูแลสังคมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม การดูแลเอาใจใส่คุณภาพชีวิต ชุมชน โดยมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 50 ชุมชน สำหรับ จ.ระยอง แบ่งออกเป็น 38 ชุมชน ในพื้นที่ อ.มาบตาพุด และ 14 ชุมชน ใน อ.บ้านฉาง"

นอกจากนี้ สมาคมยังให้ความสำคัญต่อการสร้างรากฐานการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ จ.ระยอง โดยส่วนนี้ "ชลณัฐ" บอกว่า เราให้ความสำคัญกับการศึกษามาก เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคม ชุมชน ด้วยการมอบทุนการศึกษา การจัดค่ายเยาวชน และการจัดติวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่มหา′ลัย

"เราร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการมอบทุนการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ภายใต้โครงการมอบทุนการศึกษานักเรียนพยาบาล จ.ระยอง เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาลในพื้นที่ และส่งเสริมให้นักเรียนในพื้นที่ จ.ระยอง มีโอกาสรับทุน เพื่อทำงานสร้างความเจริญให้กับจังหวัดต่อไป"

"เพราะเป้าหมายของสมาคมคือการส่งเสริมการผลิตพยาบาลให้ได้ถึง 300 คน ซึ่งนักเรียนทุนพยาบาลรุ่นแรก เมื่อจบการศึกษาสามารถเข้าสู่ระบบ และปฏิบัติงานในจังหวัดได้ในปี 2558 ประมาณ 200 คน ส่วนรุ่นที่ 2 มีจำนวน 52 คน และสามารถปฏิบัติงานได้ในปี 2559 ขณะที่รุ่นที่ 3 อีก 48 คน จะเข้าปฏิบัติงานได้ในปี 2560"

นอกจากนี้ "ชลณัฐ" ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมยังจัดโครงการจัดเต็มติวเข้มสู่มหาวิทยาลัย โดยร่วมมือกับคณาจารย์ของสถาบันกวดวิชาชั้นนำของประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและทบทวนความรู้ก่อนเข้าสู่สนามสอบเอ็นทรานซ์ ด้วยการแนะแนวการทำข้อสอบวิชาที่สำคัญ

"พร้อมวิเคราะห์ข้อสอบกลุ่มวิชา GAT และ PAT เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET"

"โครงการนี้ครอบคลุมถึงการแนะนำให้นักเรียนเข้าใจ จนสามารถเลือกคณะเรียนได้ตรงกับความถนัดและความชอบ โดยมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการกว่า 5,000 คน อีกทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ได้ประเมินผลคะแนนการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยของเยาวชนในจังหวัด โดยพบว่าอยู่ในลำดับเฉลี่ยที่ดีขึ้น โดยในปี 2552 ซึ่งเป็นปีแรกของการเริ่มต้นโครงการ นักเรียนของเราอยู่ในลำดับ 12 จนมาถึงปี 2556 กลับขึ้นมาอยู่ลำดับ 4 ซึ่งถือว่ามีผลสัมฤทธิ์น่าพอใจ"

"ขณะเดียวกันเรายังมีโครงการค่ายเยาวชน ทั้งค่ายวิทยาศาสตร์และค่ายภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยมต้นอีกด้วย"

ถึงตรงนี้ "ชลณัฐ" บอกว่า สำหรับปีนี้ทางสมาคมยังได้จัดงาน Rayong Education EXPO ภายใต้แนวคิดเปิดตัวตน ค้นหาอนาคตทางการศึกษา เพื่อเด็กทุกวัย ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนในพื้นที่ค้นหาตัวตนว่าต้องการศึกษาต่อทางด้านไหน สิ่งใดที่เหมาะสมกับตนเอง รวมไปถึงการแนะแนวให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง เพื่อให้รู้เท่าทันกับแนวทางการศึกษาของประเทศที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการวางแผนการเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วย

"เพราะเป้าหมายที่สำคัญของงานนี้คือการเปิดวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง โดยเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจสำหรับการวางแผน และพัฒนาศักยภาพการเรียนในแต่ละช่วงวัยอย่างเหมาะสม"

"เนื่องจากงานนี้เราแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ ทั้งผู้ปกครองและลูกหลานที่อยู่ในวัยเรียนจะได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์สำหรับการตัดสินใจเลือกแนวทางในการศึกษาที่ตนเองถนัด รวมถึงการให้คำแนะนำทางด้านการศึกษา และเคล็ดลับต่าง ๆ ในการเรียนที่เหมาะสมกับนักเรียนทุกระดับชั้น ตลอดจนการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งการเตรียมสมองให้พร้อมก่อนเอ็นทรานซ์ การพัฒนาลูกอย่างไรให้เก่งไร้ขีดจำกัด หรือทำอย่างไรให้ลูกเก่งภาษา"

จึงนับว่าเป็นการเสริมสร้างความรู้ และปูพื้นฐานทางการศึกษาให้กับเยาวชนใน จ.ระยอง เพื่อก้าวเข้าสู่การศึกษาในระดับประเทศอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป