โทษฐานกัด-อดเล่นบอลโลกต่อ

หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ไม่รอด! โดนลงดาบแล้ว ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งแบนไม่ให้ลงเล่น 9 นัด โทษฐานเจตนากัดไหล่ “จอร์โจ คิเอลลินี” กองหลังทีมชาติอิตาลี ระหว่างเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย กลุ่มดี ที่ “จอมโหด” อุรุกวัย เฉือนชนะ อิตาลี 1-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ดาวยิงจอมกัด หมดสิทธิ์ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ตลอดทัวร์นาเมนต์แน่นอนแล้ว แถมยังโดนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลา 4 เดือนอีกด้วย

หลังจากหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ก่อเวรกรรมฉาวสะท้านโลกอีกครั้ง ด้วยการเอาฟันกัดที่หัวไหล่ของจอร์โจ คิเอลลินี ปราการหลังทีมชาติอิตาลี ระหว่างเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มดี ที่ “จอมโหด” อุรุกวัย เฉือนชนะอิตาลีไปได้ 1-0 เมื่อวันอังคารที่ 24 มิ.ย.

ทั้งนี้ แม้ซัวเรซจะรอดพ้นการโดนลงโทษในสนาม เนื่องจากผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์ชัดเจน แต่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็ยื่นมือเข้ามาสอบสวนกรณีนี้เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของแฟนบอลทั่วโลกที่อยากรู้ว่าบทสรุปของดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยนั้น จะถูกตัดสินลงโทษอย่างไร เนื่องจากการทำร้ายคู่แข่งด้วยการกัด มีโทษแบนสูงสุดถึง 2 ปีเลยทีเดียว

ล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ตัดสินแล้วว่าหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ผิดจริง จากกรณีเจตนากัดไหล่จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังทีมชาติอิตาลี พร้อมกับประกาศบทลงโทษออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสฯที่ 26 มิ.ย. ด้วยการแบนหัวหอกทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล วัย 27 ปี ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลา 4 เดือน พร้อมทั้งโดนแบนจากการเล่นทีมชาติอีก 9 นัดด้วยกัน เนื่องจากฟีฟ่าเห็นว่านี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ซัวเรซก่อเหตุทำร้ายคู่แข่งด้วยการกัด

จากการโดนแบนครั้งนี้ ทำให้ซัวเรซจะหมดสิทธิ์ลงเล่นฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์แน่นอนแล้ว แถมยังไม่สามารถลงเล่นฟุตบอลให้กับลิเวอร์พูล สโมสรต้นสังกัดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นานถึง 4 เดือนอีกด้วย สำหรับโทษแบนไม่ให้เล่นทีมชาติ 9 นัดของซัวเรซ ถือเป็นโทษแบนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟีฟ่า หลังจากเมาโร ทัสซอตติ กองหลังทีมชาติอิตาลี เคยโดนฟีฟ่าแบนย้อนหลัง 8 นัด จากกรณีชักศอกใส่หลุยส์ เอ็นริเก กองกลางทีมชาติสเปน ในศึกฟุตบอลโลก 1994 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา