“กสทช.” เร่งหาช่องแก้บิลช็อก ขอกูเกิลเพลย์ อิงรูปแบบแอปเป้ิล สโตร์ กรอกรหัสก่อนกดซื้อ เตรียมเรียกไลน์เข้าหารือเพิ่ม 2 ก.ค. เพื่อหาทางป้องกันต่อไป เผยมีผู้ใช้บริการดีซีบีของเอไอเอสกว่า 137,000 ราย มีผู้มาร้องเรียน 13 ราย มูลค่า 1.1 ล้านบาท

หลังจากเกม “คุกกี้รัน” ทำพิษ ทำให้มีคนต้องเป็นหนี้ก้อนโตเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนกระทั่งทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดูแลประชาชนต้องออกมาแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ บริษัท กูเกิล ประเทศไทย หาแนวทางป้องกันปัญหาการเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือที่เรียกเก็บเงินแบบอัตโนมัติ โดย กสทช.ได้ขอให้กูเกิลแจ้งไปยังบริษัทแม่ ว่า ให้กำหนดการยืนยันรหัสผ่าน (พาสเวิร์ด) ก่อนจะซื้อแอพพลิเคชั่นใดๆในเพลย์สโตร์ ในลักษณะเดียวกับแอปเปิ้ล สโตร์ ของ ค่ายแอปเปิ้ล เพื่อให้การซื้อต่างๆ มีความปลอดภัยมากขึ้น ป้องกันการกดซื้อหรือดาวน์โหลดบริการโดยไม่ตั้งใจ

นายฐากรกล่าวด้วยว่า อีกทั้งขอให้การส่งอีเมลยืนยันกลับมาที่ลูกค้าทุกครั้งเป็นภาษาไทยแทนภาษาอังกฤษ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย ซึ่งกูเกิล ประเทศไทย จะแจ้งให้ฝ่ายเทคนิคของกูเกิลที่สิงคโปร์ เป็นผู้ดำเนินการ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกมคุกกี้รันนั้น เป็นความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกูเกิลและสิงเทล ผู้ถือหุ้นของบริษัท แอด-วานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะเชิญผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น ไลน์ แชท เจ้าของเกมคุกกี้รันเข้าหารือ พร้อมกับฝ่ายเทคนิคของบริษัท กูเกิล จากสิงคโปร์ และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กรณีการซื้อสินค้าและบริการผ่านกูเกิลเพลย์สโตร์ ด้วยระบบการเรียกเก็บบริการเสริมผ่านบิลโทรศัพท์มือถือ(ดีซีบี) เพื่อหามาตรการในการดูแลผู้ใช้บริการนี้

ด้าน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการระบบดีซีบีของเอไอเอส ที่ให้บริการภายใต้ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) จำนวน 13,700 ราย มีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่ กสทช.ในกรณีคุกกี้รันและเกมที่ตัดเงินจากระบบดีซีบี จำนวน 13 ราย รวมมูลค่าความเสียหายที่ 1.1 ล้านบาท กรณีของ เอไอเอสที่ทำสัญญากับกูเกิล จะตรวจสอบว่าเป็นการทำสัญญาโทรคมนาคมหรือไม่ เนื่องจากเอไอเอสแจ้งเพียงว่า เป็นผู้เก็บค่าบริการแทน ซึ่งเป็นส่วนของการซื้อสินค้าและบริการ ตามกฎหมายโทรคมนาคม ระบุคำว่า บริการเสริม สามารถเรียกเก็บค่าบริการ ในบิลเดียวกันได้ โดยไม่ต้องแยกบิล อีกกรณีที่ต้องพิจารณาคือ การที่เอไอเอสนำข้อมูลลูกค้าไปผูกติดกับกูเกิล เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยจะให้ทีมที่ปรึกษาตรวจสอบและนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด กทค. ต่อไป

วันเดียวกัน บริษัท ไลน์ ประเทศไทย (LINE Thailand) ได้ออกแถลงการณ์ระบุ ไลน์และแอพพลิเคชั่นในไลน์ เป็นบริการที่เปิดให้ดาวน์โหลดและเล่นฟรี ส่วนการซื้อสินค้าหรือไอเทมต่างๆนั้น ถือเป็นทางเลือกที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ ไลน์ไม่มีข้อบังคับให้ผู้ใช้ต้องซื้อหรือต้องจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น โดยการซื้อขายสินค้าหรือไอเทมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภายในเกมหรือในแอพพลิเคชั่นไลน์ จะมี การบอกราคาของไอเทมนั้นๆ อย่างชัดเจน การซื้อสินค้าหรือไอเทมผ่านโทรศัพท์มือถือมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นทาง App Store หรือ Play Store ผู้ใช้ต้องมีการผูกการชำระเงินกับบัตรเครดิต ขึ้นอยู่กับวงเงินของแต่ละคน คนที่ไม่มีบัตรเครดิต ใช้ซื้อบัตรเงินสดไปซื้อสติกเกอร์หรือไอเทมในเกมได้ ไลน์มีการปรึกษาและพูดคุยกับผู้ให้บริการมือถือ เรื่องการ จำกัดวงเงินอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละรายว่าจะจำกัดเท่าใด