เป็นเรื่องฉาวอีกครั้ง สำหรับดาวยิงจอมกัดอย่าง "หลุยส์ ซัวเรส" หลังมีจังหวะปัญหาไปกัดที่หัวไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังอิตาลี่ได้เกมที่ทั้งสองทีมพบกัน โดยมีภาพเจาะให้เห็นชัดเจนถึงรอยกัดที่ฝังชัดเจนบนหัวไหล่คิเอลลินี่ ต้องติดตามต่อไปว่าทางฟีฟ่าจะมีบทลงโทษย้อนหลังกรณีนี้อย่างไร

ทั้งนี้ ซัวเรสเคยก่อพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วในเกมพรีเมียร์ลีกที่ลิเวอร์พูล พบเชลซี ก่อนกองหน้าอุรุกวัยจะกัดบรานิสลาฟ อิวาโนวิช จนโดนแบนมาแล้ว 10 เกม

หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งทีมชาติอุรุกวัย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของอุรุกวัย โดยหัวหอกวัย 27 ปี ยืนยันว่าเรื่องอื้อฉาวที่เขาไปกัดไหล่ของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในศึกฟุตบอลโลก รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่มดี ซึ่งทีมจอมโหดเป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 1-0 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป พร้อมกับติงคู่กรณีว่าไม่น่าจะต้องทำให้เป็นประเด็นใหญ่โตอะไรเลย
"สิ่ง เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในสนาม มันเกิดขึ้นเพราะว่าเราเบียดกันล้ม และเราก็ชนกัน มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นได้ในสนามและคุณก็ไม่เห็นจะต้องทำเรื่อง นี้ให้มันใหญ่โตอะไรนักเลย" ซัวเรซ เผย
ด้าน โฆษกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ออกแถลงการณ์ว่า "เรากำลังรอรายงานการแข่งขันจากผู้ตัดสินและจะพยายามรวบรวมข้อมูลทุกอย่าง ที่จำเป็นเพื่อประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" 
ทั้ง นี้ตามกฏของฟีฟ่า หุลยส์ ซัวเรซ มีสิทธิโดนแบนห้ามเล่นฟุตบอลนาน 24 นัด หรือเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟีฟ่า เคยลงโทษแบน เมาโร ทอสซอตติ อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลี ที่ไปศอกใส่ หลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน จนดั้งจมูกหัก ในศึกฟุตบอลโลก เมื่อปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา มาแล้ว




ภาพประกอบจาก @BBCSport