ฝอยทอง แสบ!! วาเรลาโขกทดเจ็บเจ๊าสหรัฐฯระทึก 2-2
 


ฝอยทอง แสบ!! วาเรลาโขกทดเจ็บเจ๊าสหรัฐฯระทึก 2-2


ฝอยทอง แสบ!! วาเรลาโขกทดเจ็บเจ๊าสหรัฐฯระทึก 2-2

"ฝอยทอง" โปรตุเกส เกือบได้เก็บกระเป๋ากลับบ้าน หลังมาถูก คลินท์ เดมพ์ซีย์ จะชาร์จพา "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา พลิกแซงนำ 2-1 แต่ก็ได้ ซิลเวสเตร วาเรลา ตัวสำรองโขกนาทีสุดท้ายช่วยทีมตีเสมอเป็น 2-2 ต่อชะตาลุ้นเข้ารอบ 16 ทีม ...

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย. เวลา 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เกมที่ อารีนา อามาโซเนีย เมืองมาเนาส์ ศึกรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง ของกลุ่มจี "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา พบกับ "ฝอยทอง" โปรตุเกส โดยผลงานนัดแรกของทั้งสองทีม สหรัฐฯ ชนะ กานา 2-1 ขณะที่ โปรตุเกส แพ้ เยอรมนี 0-4

แมตช์ เจอร์เกน คลินส์มันน์ กุนซือทัพแยงกี้ขาด โจซี อัลติดอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บต้นขาทำให้ต้องปรับ คลินท์ เดมพ์ซีย์ มายืนหน้าเป้า ด้าน "ฝอยทอง" ของ เปาโล เบนโต ขาด เปเป้ ที่ติดโทษแบน ทำให้ ริคาร์โด คอสตา ต้องยืนเซ็นเตอร์คู่กับ บูรโน อัลเวส ส่วนแนวรุกมี คริสเตียโน โรนัลโด ลงล่าตาข่ายร่วมกับ หลุยส์ นานี และ เฮลเดอร์ ปอสติกา

เปิดฉากเพียง 5 นาที โปรตุเกส ก็ยิงขึ้นนำก่อน 1-0 มิเกล เวโลโซ แทงบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เจฟฟ์ คาเมรอน กองหลังของสหรัฐฯเตะสกัดพลาดลูกพุ่งมาฝั่งขวาเข้าทาง หลุยส์ นานี จับยิงสวน ทิม โฮเวิร์ด เข้าประตู

หลุยส์ นานี ยิงพา โปรตุเกส ออกนำก่อน 1-0

มาถึง น.10 ฝั่งสหรัฐฯ ตอบโต้ เจอร์เมนส์ โจนส์ จ่ายออกขวาให้ ฟาเบียน จอห์นสัน สปีดพาบอลไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงตัดเข้ามายิงเอง แต่ติดบล็อกออกหลังไป และหลังจากนั้น 6 นาที โปรตุเกส ก็ต้องเปลี่ยนตัวก่อนหลัง เฮลเดอร์ ปอสติกา มีอาการบาดเจ็บต้องเอา เอเดอร์ ลงมาแทน

หลังจากนั้นก็เป็นฝั่งของสหรัฐฯที่เปิดเกมรุกต่อเนื่อง น.23 เจอร์เมนส์ โจนส์ จ่ายให้ ไมเคิล แบร็ดลีย์ พักบอลลงก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายระยะ 25 หลา ทว่าบอลพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว และหลังจากนั้น 3 นาที โอกาสเป็นของ "พญาอินทรี" อีกครั้ง คลินท์ เดมพ์ซีย์ พาบอลแหวกคู่เซ็นเตอร์เข้าไปตะบันในกรอบเขตโทษแต่ติดบล็อก

รูปเกมของสหรัฐฯดูวูบวาบกว่าจนมาถึง น.36 โปรตุเกสได้ตอบโต้จากลูกยิงไกลของ คริสเตียโน โรนัลโด ทว่าแรงไม่พอบอลกระดอนพื้นไปเข้ามือ ทิม โฮเวิร์ด และหลังจากได้เบรกพักดื่มน้ำ น.42 "ฝอยทอง" ก็มีลุ้นประตูเพิ่มจากจังหวะที่ โรนัลโด พาบอลลุยขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะไหลต่อให้ นานี วิ่งเข้ามาวางเท้าซัดเต็มข้อจากนอกเขตโทษแต่ โฮเวิร์ด ป้องกันเอาไว้ได้

ต้องขอบคุณ ทิม โฮเวิร์ด ที่ช่วยป้องกันประตู

น.45 โปรตุเกส มีโอกาสจะได้ประตูถึงสองครั้งจากจังหวะยิงนอกกรอบเขตโทษของ นานี แต่ โฮเวิร์ด ป้องกันได้โดยปัดบอลไปชนเสา ลูกเด้งมาเข้าทาง เอเดอร์ ยิงซ้ำแต่นายด่านมะกันยังเซฟได้อีก ทำให้จบครึ่งแรก โปรตุเกส ยังนำ สหรัฐอเมริกา อยู่ 1-0

กลับมาต่อในครึ่งหลัง โปรตุเกส เริ่มเกมด้วยความดุดันจนมีลุ้นใส่สกอร์เพิ่มใน น.48 นานี เปิดบอลไปติดแนวรับสหรัฐฯลูกลอยไปเข้าทาง เอเดอร์ พลิกตัวฮาล์ฟวอลเลย์ข้ามคานออกไป

มาถึง น.55 โอกาสทองเป็นของ สหรัฐฯ ฟาเบียน จอห์นสัน พาบอลหลุดไปถึงริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะหักข้อจ่ายเข้าหน้าประตูให้ ไมเคิล แบร็ดลีย์ ยิงเต็มข้อ แต่ ริคาร์โด คอสตา วิ่งมาบล็อกได้อย่างหวุดหวิด และใน น.62 โปรตุเกส ก็มีจังหวะได้บวกสกอร์จากลูกสวนกลับ เอเดอร์ ผ่านบอลออกขวาให้ โรนัลโด ลากเข้าไปยิงทางเสาแรกแต่ไม่เข้าเป้า

ริคาร์โด คอสตา บล็อกแบบเฉียดฉิว

แต่หลังจากนั้นเพียง 2 นาที กองเชียร์ "แยงกี้" ได้เฮลั่นสนามเมื่อมาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ เกรแฮม ซูซี เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้ากลางเขตโทษกองหลังโปรตุเกส โขกสกัดมาเข้าทาง เจอร์เมน โจนส์ แตะหลบ นานี ก่อนจะส่องด้วยขวาระยะ 20 หลาส่งบอลเข้าประตูไม่เหลือ

เจอร์เมน โจนส์ ยิงตีเสมอให้กับ สหรัฐฯ

เข้าสู่ช่วงท้ายเกมลุ้นระทึกขึ้นเรื่อยๆ และเป็น สหรัฐฯ ที่ได้ประตูแซงนำเป็น 2-1 ใน น.81 จากจังหวะที่ เดอันเดร เยดลิน ตัวสำรองเปิดบอลมาติด บรูโน อัลเวส ลูกแฉลบไปเข้าทาง ไมเคิล แบร็ดลีย์ แตะต่อให้ เจอร์เมน โจนส์ ตบเข้าปากประตูให้ คลินท์ เดมพ์ซีย์ ใช้ตัวชาร์จบอลเข้าประตู

คลินท์ เดมพ์ซีย์ ทำประตูพลิกแซงให้กับ สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามในนาทีสุดท้ายก่อนนกหวีดดังทัพ "ฝอยทอง" ก็ตีเสมอจนได้ โรนัลโด เปิดจากฝั่งขวาเข้าเสาสองอย่างแม่นยำให้ ซิลเวสเตร วาเรลา ตัวสำรองโหม่งตุงตาข่าย จบการแข่งขัน โปรตุเกส เสมอกับ สหรัฐอเมริกา ไป 2-2 เก็บ 1 คะแนนไปลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายกับ กานา โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องถล่มคู่แข่งให้มากที่สุด และต้องลุ้นให้ สหรัฐฯ โดน เยอรมนี ยิงให้มากที่สุดเช่นกัน.

วาเรลา โขกประตูช่วย โปรตุเกส เสมอ 2-2


รายชื่อ 11 ตัวจริง

สหรัฐอเมริกา : ทิม โฮเวิร์ด,แมตต์ เบสเลอร์,ดามัสคัส บีสลีย์,เจฟฟ์ คาเมรอน,ฟาเบียน จอห์นสัน,ไมเคิล แบร็ดลีย์,อเลฮานโดร เบโดยา,เจอร์เมน โจนส์ ,ไคล์ เบคเกอร์แมน ,คลินท์ เดมพ์ซีย์, เกรแฮม ซูซี



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.