ชิลี-สีส้มชิงจ่าฝูง หวังหลบเจ้าภาพ
 


ชิลี-สีส้มชิงจ่าฝูง หวังหลบเจ้าภาพ


ชิลี-สีส้มชิงจ่าฝูง หวังหลบเจ้าภาพ

ชี้บราซิลกินนิ่มหมอผี จังโก้บู๊ตาหมากรุกตี3

“แซมบ้า” บราซิล ยังต้องการคว้าชัยชนะเพื่อ เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ในการลงสนามนัดส่งท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ที่จะพบกับ“หมอผี” แคเมอรูน ซึ่งตกรอบไปแล้วในศึกฟุตบอลโลก 2014 คืนนี้ (วันที่ 23 มิ.ย.) คาดว่านัดนี้ กุนซือบราซิลอาจมีการปรับทัพบางตำแหน่ง แต่ยังมีออสการ์และเนย์มาร์ เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า ขณะที่แคเมอรูนไม่มีซามูเอล เอโต หัวหอกตัวเก๋า ที่บาดเจ็บ และอเล็กซ์ ซง กองกลางตัวสำคัญที่ติดโทษแบน ส่วนคู่ “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ หวังคว้าแชมป์กลุ่มบี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ เจ้าภาพ “แซมบ้า” บราซิล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเกมชิงแชมป์กลุ่มกับชิลี ทีมม้ามืดประจำทัวร์- นาเมนต์ ซึ่งนัดนี้ทีมดัตช์ขอเพียงแค่ผลเสมอก็จะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มทันที

ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เดินทางเข้าสู่วันที่ 12 ของการแข่งขัน ซึ่งคืนวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย. เป็นเกมดวลแข้งนัดส่งท้ายของรอบแบ่งกลุ่มในกลุ่มเอและบี รวม 4 คู่ โดย 2 คู่แรกเป็นเกมนัดสุดท้ายกลุ่มบี ที่จะเตะในเวลา 23.00 น. พร้อมกัน ประกอบด้วย “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ จะดวลกับ ชิลี ซึ่งผ่านเข้ารอบไปแล้วทั้งคู่ โดยมีตำแหน่งแชมป์กลุ่มเป็นเดิมพัน ถ่ายทอดสดทางช่อง 5, ช่องอาร์เอส ฟีฟ่า และทรูวิชั่นส์ 668 และอีกคู่ “กระทิงดุ” สเปน แชมป์เก่า ที่ตกรอบไปแล้ว จะลงเล่นนัดสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ และหวังเอาชนะ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ให้ได้ ยิงสดให้ชมทางช่อง 8

โดยที่สนามอารีนา เดอ เซา เปาโล เป็นการเจอกันของ 2 ทีมที่ต่างชนะรวดจาก 2 นัดแรกและลอยลำเข้ารอบไปแล้ว แต่ยังต้องแย่งชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มกัน “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ต้องการเพียงแค่ผลเสมอเท่านั้นก็จะลอยลำเข้ารอบเป็นแชมป์ กลุ่ม เนื่องจากพวกเขามีลูกได้เสียดีกว่าชิลีอยู่ 1 ลูก อย่างไรก็ตาม คาดว่าเกมนี้หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมฮอลแลนด์ น่าจะมีการปรับทัพหลายตำแหน่ง โดยอาจจะพักผู้เล่นตัวหลักอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลีย์ สไนเดอร์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี แล้วส่งตัวสำรองอย่าง เดิร์ก เคาท์, เมมฟิส เดอ ปาย และคลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงเป็นตัวจริง ในขณะที่ ชิลี ภายใต้การคุมทัพของ ฮอร์เก ซามปาโอลี กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ กำลังคึกสุดขีด หลังหักเขา “กระทิงดุ” สเปน แชมป์เก่า ไปได้ขาดลอย 2-0 ในเกมนัดที่ 2 พร้อมซิวชัย 2 นัดรวด ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ดังนั้น เชื่อว่านัดนี้ชิลี จะจัดทัพใหญ่ลงบู๊เต็มสูบ หวังคว้าชัยชนะ 3 นัดรวด เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับเจ้าภาพบราซิล โดยจะส่ง เอดูอาร์โด วาร์กัส, ชาร์ลส์ อารันกิซ, อาร์ตูโร วิดาล และอเล็กซิส ซานเชซ เป็นกำลังสำคัญในแนวรุก สำหรับแนวโน้มเกมนี้ ถึงแม้ชิลีกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง แต่คงยากที่จะเอาชนะฮอลแลนด์ เกมน่าจะแลกกันสนุก ก่อนจะลงเอยด้วยการเสมอแบ่งแต้มกันไป

ส่วนเกมอีกคู่ในกลุ่มบี ที่สนามอารีนา ดา ไบซาดา ในเมืองคูริติบา เป็นการพบกันของ 2 ทีมที่ตกรอบไปแล้ว ระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน แชมป์เก่า ที่ร่วงตกรอบแรกไปแบบช็อกโลก หลังแพ้รวดจาก 2 เกมแรก ดวลกับ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ตัวแทนจากเอเชีย ที่แพ้ 2 นัดรวดมาเช่นกัน โดยเกมนี้ “กระทิงดุ” สเปน หวังกู้หน้าล้างอายด้วยการถล่มเอาชนะทีม “ซอคเกอร์รูส์” ให้ได้ แต่คาดว่าบิเซนเต เดล บอสเก กุนซือหนวดงามของสเปน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมแบบยกชุด โดยจะส่งโฮเซ เรนา ลงมาเฝ้าเสาแทนอิเคร์ กาซิยาส ที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังใน 2 นัดแรก ส่วนแดนกลางก็น่าจะใช้ ซานติ กาซอร์ลา, โกเก และเชส ฟาเบรกัส ลงเป็นตัวจริงแทนชาบี อลอนโซ และอิเนียสตา ขณะที่แนวรุกอาจส่ง ดาวิด บีญา และ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ลงมาเป็นคู่กองหน้า ส่วนทางด้าน “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย จะยังคงส่งมาร์ก เบรสชาโน เป็นตัวปั้นเกมในแดนกลาง และมี ทิม เคฮิลล์ เป็นตัวความหวังในแดนหน้า เทียบฟอร์มกันแล้ว เชื่อว่าสเปน น่าจะทิ้งทวนทุบเอาชนะออสเตรเลียที่แนวรับค่อนข้างเปื่อยยุ่ย ไปได้แบบไม่ยากเย็น พร้อมกับเก็บ 3 คะแนนแรกของทัวร์นาเมนต์ก่อนกลับบ้านได้สำเร็จ

ด้านเกมนัดสุดท้ายกลุ่มเอ “แซมบ้า” บราซิล เจ้าภาพและอดีตแชมป์โลก 5 สมัย ยังต้องการเอาชนะ “หมอผี” แคเมอรูน ที่ตกรอบไปแล้วให้ได้ เพื่อผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม โดยเกมนี้จะมีขึ้นที่สนามเอสตาดิโอ นาซิอองนาล ในกรุงบราซิเลีย เริ่มเตะเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 5, ทรูวิชั่นส์ 668 และช่องอาร์เอส ฟีฟ่า สำหรับแมตช์นี้ “บิ๊กฟิล” หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี กุนซือทีมแซมบ้า อาจจะปรับทัพในบางตำแหน่ง โดยแนวรุกจะไร้ฮัล์คที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน และอาจดร็อปเฟรดที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังไปเป็นตัวสำรอง แล้วจะส่งโช ลงมาประสานงานในเกมรุกร่วมกับออสการ์ และรามิเรส ส่วนหน้าเป้าจะยังเป็นเนย์มาร์ หัวหอกตัวเก่ง ที่ซัดไปแล้ว 2 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ ลงล่าตาข่ายเหมือนเดิม ขณะที่ “หมอผี” แคเมอรูน จะขาด 2 กำลังสำคัญอย่างซามูเอล เอโต หัวหอกตัวเก๋าที่บาดเจ็บ และอเล็กซ์ ซง กองกลางตัวสำคัญ ที่ติดโทษแบน จากการโดนใบแดงในนัดแพ้โครเอเชีย 0-4 สำหรับความน่าจะเป็นในเกมนี้ คาดว่าบราซิล จะเอาชนะแคเมอรูนไปได้แบบไม่ยาก พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มไปครองตามคาด



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.