ย้อนรอยอาถรรพ์...ชัยชนะนัดเปิดสนาม
 


ย้อนรอยอาถรรพ์...ชัยชนะนัดเปิดสนาม


ย้อนรอยอาถรรพ์...ชัยชนะนัดเปิดสนาม

ท่ามกลางสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อของรอบแบ่งกลุ่ม "ฟุตบอลโลก2014" ที่ใกล้งวดเข้าสู่จุดแตกหักของหลายทีมเต็มที "ประชาชาติธุรกิจ" ขอทวนกระแสความเข้มข้นเกินคาดเดาของศึกชิงตั๋ว 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการมองย้อนกลับไปในเกมนัดเปิดสนามที่เจ้าภาพ "บราซิล" เป็นฝ่ายเอาชนะ "โครเอเชีย" ได้ตามความคาดหมายแบบหืดจับ 3-1 ซึ่งอาจมีผลกระทบเชิงลบต่อโอกาสลุ้นแชมป์โลกในบ้านของทัพเซเลเซา ยุค "บิ๊กฟิล 2" ก็เป็นได้

เพราะหนึ่งใน "อาถรรพ์ฟุตบอลโลก" ที่จัดได้ว่า "เก่าแก่" และ "แรง" กว่าคำทำนายของ "เปเล่" ตำนานแข้งระดับโลกทีมชาติบราซิล เห็นจะเป็นชัยชนะนัดประเดิมสนามเวิลด์คัพ ที่ทีมใดก็ตามได้ไปครอบครอง มักต้องลงเอยด้วยการพลาดตำแหน่งแชมป์โลกในปีนั้นแทบทุกครั้งไป จนกระทั่งได้รับการขนานนามอย่างแพร่หลายว่า "อาถรรพ์นัดเปิดสนาม" ที่ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น

จุดเริ่มต้นอาถรรพ์ชนิดนี้ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1930 พร้อมกับการถือกำเนิดของฟุตบอลโลกหนแรก สำหรับทีมแรกที่ได้รับเกียรติให้สัมผัสอาถรรพ์ คือ "ฝรั่งเศส" ซึ่งเปิดฉากประเดิมสนามอย่างเว่อร์วังอลังการ ไล่ถล่มเม็กซิโกไปถึง 4-1 ก่อนจะแพ้ 2 นัด ตกรอบตามกันไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่การตกรอบหลังชนะเกมเปิดสนามยุคนั้น ยังไม่ค่อยเป็นประเด็นให้พูดถึงมากสักเท่าไหร่นัก เพราะหลายทีมที่โดนอาถรรพ์ยังเป็นแค่ทีมรองบ่อน ทั้งฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ (เวิลด์คัพ 1938)

จนกระทั่งฟุตบอลโลกกลับมาเตะใหม่อีกครั้งในปี 1950 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โดยมี "บราซิล" รับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันและยังเป็นทีมเต็งแชมป์โลก โดยปีนั้นทัพเซเลเซาในฐานะเจ้าภาพได้รับเกียรติให้เตะประเดิมสนามกับเม็กซิโก แน่นอนว่าไม่มีอะไรพลิกล็อก บราซิลเป็นฝ่ายไล่ถล่มไปถึง 4-0 ก่อนจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์โลก เพราะแพ้อุรุกวัยในนัดสุดท้าย

นอกจากปี 1950 แล้ว บราซิลยังมีโอกาสได้แก้อาถรรพ์นัดเปิดสนามอยู่อีกถึง 3 ครั้ง แต่ก็พลาดท่าชวดแชมป์หมดเกลี้ยงทั้ง 3 หน ไม่ว่าจะเป็นปี 1954 ที่ไปได้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย, ปี 1974 จบด้วยอันดับ 4 และปี 1998 ทำได้เพียงแค่รองแชมป์โลกเท่านั้น

นอกจากบราซิลแล้ว "เยอรมัน" ก็เป็นอีกทีมที่ต้องจมอยู่กับอาถรรพ์นัดเปิดสนามถึง 2 สมัย ในปี 1958 (ยุคนั้นเป็นเยอรมันตะวันตก) ที่จบด้วยอันดับ 4 ของโลก กับปี 2006 ที่ขยับขึ้นมาจบอยู่อันดับ 3 หลังแพ้อิตาลี แชมป์โลกปีดังกล่าวไปถึง 2-0

อีกหนึ่งทีมดังในเคสนี้เห็นจะเป็น "อิตาลี" ที่ลงประเดิมสนามเวิลด์คัพด้วยชัยชนะถึง 2 ครั้ง แต่กลับไม่มีครั้งไหนเลยที่ได้ชูถ้วยแชมป์โลก ไม่ว่าจะเป็นปี 1978 ที่เอาชนะฝรั่งเศสไป 2-1 ก่อนจบด้วยอันดับ 4 หลังแพ้บราซิลไปแบบฉิวเฉียด หรือปี 1990 ที่จบด้วยอันดับ 3 ของโลก

ทว่าความน่าสนใจของอาถรรพ์นัดเปิดสนามบอลโลกของอิตาลีอยู่ในปี 1982 ซึ่งพลพรรคอัซซูรี่ทำได้เพียงแค่เสมอกับโปแลนด์ไป 0-0 แต่กลับไปจบด้วยตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 3 จากการเอาชนะเยอรมันตะวันตกได้ 3-1 ในรอบชิง

อย่างไรก็ตาม ในบันทึกประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกตลอด 84 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 19 หน มีเพียงครั้งเดียวในปี 1974 ที่อาถรรพ์นัดเปิดสนามไม่ทำงานกับยอดทีมอย่าง "เยอรมันตะวันตก" ภายใต้การนำทีมของ แกร์ด มุลเลอร์, จุ๊ปป์ ไฮย์สเกส และฟรานซ์ เบกเค่นบาว์เออร์ ซึ่งปีนั้นพวกเขาเอาชนะชิลีได้ในนัดเปิดสนาม 1-0 แล้วไปจบด้วยตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 2 และเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในบ้าน

สำหรับปีนี้ พลพรรคแซมบ้าภายใต้การคุมทีมของ "หลุยซ์ ฟิลิเป้ สโคลารี่" จะมีโอกาสได้ท้าทายอาถรรพ์กันอีกหน ภายใต้เงื่อนไขคล้าย ๆ กับทัพอินทรีเหล็กเมื่อ 40 ปีก่อน ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว

เพราะด้วยจุดร่วมของการเป็นเจ้าภาพและชนะนัดเปิดสนามเหมือนกันของ"เยอรมันตะวันตก ปี 1974" กับ "บราซิล ปี 2014" บวกกับความสามารถเฉพาะตัวของแข้งดังอย่าง "เนย์มาร์" กับ "ออสการ์" ที่พลิกเกมได้ตลอดเวลา แม้ฟอร์มย่ำแย่อยู่ในทีม

ไม่แน่ว่าอาถรรพ์นัดเปิดสนามอาจจะถูกทำลายลงเป็นครั้งที่ 2 ของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกก็เป็นได้




// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.