แม้ ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในอินเดียจะเติบโตและมีมูลค่าการซื้อเกิดขึ้นราว 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็ต้องพบกับอุปสรรคสำคัญที่ยากต่อการหลีกเลี่ยง นั่นก็คือสภาพของถนนที่จราจรติดขัด และระบบการขนส่งทางรถไฟที่ไม่มีประสิทธิภาพ แม้กระทั่งทางเครื่องบินก็ยังคงมีปัญหา

"ฟลิปคาร์ท" บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย เช่นเดียวกับคู่แข่งระดับโลกอย่างอะเมซอนและอีเบย์กำลังแข่งขันกันสร้างระบบ เครือข่ายจัดจำหน่ายและระบบโลจิสติกส์ของตนให้มีความครอบคลุมมากขึ้น คิดเป็นเม็ดเงินมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลดเวลาการขนส่งสินค้าสู่มือผู้บริโภคให้เหลือเพียง 1 วัน หรือภายใน 9 ชั่วโมง เป็นการดึงดูดใจให้ผู้บริโภคหันมาช็อปผ่านช่องทางนี้กันมากขึ้น

โดย ปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์ของอินเดียใช้การขนส่งทางอากาศ กว่า 90% ทำให้ค่าขนส่งมีราคาเกือบครึ่งหนึ่งของสินค้า จากข้อมูลของผู้ประกอบการออนไลน์และบริษัทขนส่งต่าง ๆ เพราะถนนหรือรางรถไฟยังด้อยพัฒนาจากการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในประเทศ

แต่ การใช้เครื่องบินพาณิชย์ในการขนส่ง บ่อยครั้งก็ทำให้สินค้าต้องถูกย้ายออกมาเพื่อรองรับผู้โดยสารที่ต้องการขึ้น เครื่องมากกว่า ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของผู้ประกอบการที่ต้องการจะเข้ามาร่วมแบ่งเค้กก้อน โต โดยยอดขายในอีคอมเมิร์ซปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.6 พันล้านเหรียญ และมีการเติบโตเฉลี่ยราว 34% ต่อปี

"นับ ว่าเป็นความโชคร้ายที่เกิดขึ้น แต่สินค้าที่ไม่ถูกโหลดขึ้นเครื่องก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ส่วนเราก็ต้องทำให้ได้ตามที่สัญญากับผู้บริโภคเอาไว้ในการส่งสินค้าให้ตาม กำหนด" ราหู ชาริ รองประธาน เทคโนโลยีซัพพลายเชน บริษัทฟลิปคาร์ทระบุ

อีคอมเมิร์ซในอินเดียถือว่ามีศักยภาพอย่างมหาศาล ด้วยประชากรเกือบ 1.1 พันล้านคน ที่มีชนชั้นกลางกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งบริษัทวิจัยฟอร์เรสเตอร์ได้คาดการณ์ว่ายอดขายของค้าปลีกออนไลน์จะมี มูลค่าสูงถึง 7.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 7 ปีข้างหน้า และ มาตรการทางการค้าในช่องทางออนไลน์ที่ผ่อนคลายขึ้นของรัฐบาลในเดือนหน้านี้ จะช่วยให้อีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศสามารถทำการขายสินค้าได้โดยตรงกับผู้ บริโภค ก็เป็นอีกปัจจัยที่เข้ามากระตุ้นให้ตลาดดังกล่าวมีการเติบโตมากขึ้น

อย่าง ไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงมีการใช้บริษัทขนส่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีอัตราการคืนสินค้าสูง และการปลอมที่อยู่ขึ้นมาเพื่อให้ส่งสินค้านั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น จากระบบเก็บค่าสินค้าปลายทาง

"ความได้เปรียบของอีคอมเมิร์ซก็คือการ เข้าถึงพื้นที่ได้ทั่วทุกแห่งอย่างรวดเร็ว และทำให้มีการซื้อขายเกิดขึ้นกับสินค้าแทบทุกชนิด โดยหัวใจของโอกาสดังกล่าวนี้ก็คือการขนส่ง นั่นทำให้เราต้องหันมาพัฒนาและลงทุนให้กับอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง" อามิต อาการ์วาล รองประธานและคันทรีเมเนเจอร์ บริษัท อเมซอนระบุ

เมื่อ เป็นเรื่องยากที่จะรอให้มีการพัฒนาแก้ไขระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในอินเดีย ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่จึงหันมาให้ความสนใจในการลงทุนพัฒนาระบบขน ส่งเอง โดยอเมซอนก็เพิ่มขีดความสามารถให้การเข้าถึงผู้บริโภคด้วยการหาพาร์ตเนอร์ ที่เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์อยู่แล้วอย่างเฟดเอ็กซ์, และบลู ดาร์ท รวมถึงมีการจัดตั้งแวร์เฮาส์ขึ้นมา และเปิดให้ลูกค้าสามารถไปรับสินค้าได้ที่ร้านชำหรือปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดให้ บริการ

ส่วนฟลิปคาร์ทอยู่ระหว่างการจัดตั้งแวร์เฮาส์ต่าง ๆ ตามภูมิภาค เพื่อลดค่าขนส่งทางอากาศ และจับมือทำสัญญากับซัพพลายเออร์ทั่วทั้งประเทศ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค

ในขณะที่อีเบย์ มีกลยุทธ์ที่แตกต่างไปจาก 2 ค่ายหลัก โดยให้บริษัทขนส่งจากภายนอกเข้ามารับช่วงแทน เพื่อลดต้นทุนทางด้านภาษี รวมถึงการฝึกอบรมให้กับฐานผู้จัดจำหน่ายในเครือกว่า 4.5 หมื่นแห่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน