ด้วยภาพที่ผ่านมา เรียกได้ว่าผูกมิตรกับ "พรรคเพื่อไทย" ไว้ไม่ใช่น้อย ทำให้ "ประภัสร์ จงสงวน" ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นอีกคนที่ถูก "คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" เรียกรายงานตัว โดยใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง กว่าจะถูกปล่อยตัวออกมา

"ประภัสร์" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทาง คสช.เรียกไปถามเรื่องงานทั่ว ๆ ไป เพราะการรถไฟฯในอนาคตจะมีโครงการลงทุนก่อสร้างระบบรางมาก ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีแดง แอร์พอร์ตลิงก์ รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น ถึงความก้าวหน้า และการหาคนมาลงทุน ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง

"ผมทำงานรัฐวิสาหกิจมาตลอด 30 ปี ตั้งแต่ปี 2527 ถึงปัจจุบัน ผ่านอะไรมาเยอะ โดยส่วนตัวอีก 10 เดือนจะเกษียณ ก็เข้าใจทุกอย่าง ถ้ามีการบอกกล่าวกันมา ไม่มีปัญหา ก็ยินดี"

แต่จนถึงปัจจุบัน (7 มิถุนายน) "ประภัสร์" ยืนยันว่า ยังไม่มีใครส่งสัญญาณหรือสะกิดมาให้เขียนใบลาออก หากจะให้ลาออกคือช่วยงาน คสช.ไม่ได้แล้ว หากไม่มีสัญญาณมาจะไปลาออก

ลาออกยังไงงานยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเดินหน้า

"วันนั้นคุยหลายเรื่อง ผมได้อธิบายปัญหารถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต รออนุมัติปรับแบบใหม่ที่สถานีบางซื่อ รับรถไฟความเร็วสูง และเพิ่มรางวิ่งอีก 1 ราง จาก 3 รางเป็น 4 ราง หากนโยบายไม่สร้างไฮสปีดเทรนก็ต้องเสียเงินมาสร้างภายหลัง แต่รางนั้นจำเป็นต้องเพิ่มเพราะอันตรายที่จะเอารถดีเซลรางมาวิ่งรวมรถไฟฟ้า อยู่ที่นโยบาย"

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า...ยังมั่นใจหรือไม่จะได้นั่งเป็นผู้ว่าการการรถไฟฯ จนครบวาระวันที่ 18 พฤษภาคม 2558

"ผมไม่ยืนยัน อย่างที่บอก เราเข้าใจสถานการณ์ ผมเป็นผู้ว่าการตั้งแต่อายุ 40 ปี เขาก็เห็นเราว่าเป็นคนยังไง ไม่เคยเปลี่ยน"

"ประภัสร์" ย้ำว่า...อย่างน้อยที่สุด การคุยเป็นการบอกตัวตนว่าเราคิดยังไง ถ้าเห็นว่ามีคนอื่นที่มีความรู้ความสามารถมากกว่า ที่จะพาองค์กรพัฒนาต่อไปได้ ก็ยินดี