ธปท.ออกโรงแจง การประทับตรา ขีดเขียน บนธนบัตร ไม่ผิดตาม พ.ร.บ.เงินตรา และ พ.ร.บ.ธปท. แต่ชี้ไม่เหมาะสมนำมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ตามที่ได้มีการเผยแพร่ภาพธนบัตรใบละ 100 บาท ที่มีการประทับตรา ชู 3 นิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงการต้านรัฐประหาร แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ล่าสุด นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษก ธปท.ได้ออกมาระบุว่า การที่มีตราประทับหรือขีดเขียนลงบนธนบัตรนั้นไม่ได้มีการกล่าวถึงบทลงโทษไว้ใน พ.ร.บ.เงินตรา และ พ.ร.บ.ธปท. แต่การประทับตราอื่น ๆ ลงบนธนบัตร จะทำให้ธนบัตรมีสภาพไม่เหมาะสมในการใช้หมุนเวียนต่อไป เช่นเดียวกันรอยขีดเขียนบนธนบัตร ดังนั้น ในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดี ที่ ธปท.จะขอความร่วมมือจากประชาชน ในการรักษาและใช้ธนบัตรอย่างถูกวิธี

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ธปท.ได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ธนบัตรอย่างถูกวิธี เพื่อให้ธนบัตรมีอายุการใช้งานอย่างเหมาะสมและเป็นการประหยัดการใช้ทรัพยากรของประเทศ โดยการประทับตราหรือการขีดเขียนข้อความลงบนธนบัตรถือเป็นการใช้ธนบัตรอย่างไม่ถูกวิธี เนื่องจากธนบัตรที่ถูกตราประทับหรือถูกขีดเขียนจะถือเป็นธนบัตรที่เสื่อมสภาพเพราะเปรอะเปื้อนไปแล้ว

ซึ่งธปท.จะต้องดำเนินการคัดกรองออกจากระบบเศรษฐกิจเช่นเดียวกับธนบัตรที่ชำรุดเพราะมีอายุการใช้งานนานหรือฉีกขาดเป็นต้นทั้งนี้ เพื่อให้ธนบัตรที่หมุนเวียนเพื่อการใช้งานของประชาชนเป็นธนบัตรที่สะอาดและน่าใช้ตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้

อนึ่งในแต่ละปีธปท.ผลิตธนบัตรใหม่หลายพันล้านฉบับเพื่อออกใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยกว่า80% ของธนบัตรใหม่ดังกล่าวเป็นการพิมพ์เพื่อทดแทนธนบัตรที่เสื่อมสภาพไปแล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ และจากการศึกษาพบว่า หากประชาชนระมัดระวังการใช้งาน โดยใช้ธนบัตรอย่างถูกวิธี ไม่ประทับตรา ไม่ขีดเขียน และไม่ทำให้ฉีกขาด จะสามารถประหยัดทรัพยากรให้กับประเทศได้ถึงปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้ธนบัตรอย่างถูกวิธี

ทั้งนี้ ธนบัตรถูกตราประทับหรือมีรอยขีดเขียน ถือว่าเป็นธนบัตรที่มีสภาพไม่เหมาะสมที่จะใช้หมุนเวียนต่อไป จึงขอแนะนำให้ประชาชนที่ได้รับนำไปแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรสภาพดีได้ที่สาขาธนาคารออมสินและธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ