คงยังไม่ช้าเกินไป ที่ “สตาร์เทรนดี้” จะขอย้อนรอยไปกับ ซุป’ตาร์สาว ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต นักแสดงสาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในปีนี้ที่ไปเดินเฉิดฉายที่พรมแดงเมืองคานส์ ในฐานะ แบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของ ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ เป็นปีที่ 2 ซึ่งนอกจากชุดที่สวมใส่ในวันเดินพรมแดงแล้ว เสื้อผ้าหน้าผม ตลอดระยะเวลาเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวชม ยังจัดหนัก จัดเต็ม ด้วยแบรนด์ดังคอลเลกชั่นล่าสุดจากรันเวย์ สมกับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่แบกจากเมืองไทยไปถึง 50 กิโลกรัม วันนี้เราเลยขอเก็บภาพแฟชั่นสวย ๆ รวมไปถึงบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของเธอมาฝากผู้อ่านก่อนใครที่นี่เป็นที่แรก
สำหรับงานในปีนี้เตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
“ครั้งนี้ชมพร้อมมาก เพราะปีที่แล้วเราเคยไปมาแล้ว เลยพอรู้บรรยากาศงานและการวางตัว แต่ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม เพราะแต่ละปีสิ่งที่เจอก็เปลี่ยนไป แถมยังได้ไปเจอกับ แบรนด์ แอมบาสเดอร์ ที่เป็นตัวแทนมาจากประเทศต่าง ๆ แต่ละคนก็สุดยอดในที่ของเขากันทั้งนั้น ที่เตรียมตัวเป็นพิเศษเลยจริง ๆ คือ เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม เรียกว่าขนอย่างกับย้ายบ้านเลยล่ะ (หัวเราะ) ชมขนกระเป๋าไป 4 ใบใหญ่ ๆ เลย ลองแล้วลองอีก จัดเต็มเพื่อไม่ให้ขายหน้าคนไทย”
ชุดในแต่ละวันที่ไม่ใช่ชุดเดินพรมแดง ชมเลือกยังไงบ้าง?
“ชมกางตารางกิจกรรมแต่ละวันออกมาดูเลยนะ ว่าเราจะต้องไปเจอกับใคร หรือทำอะไรบ้าง แล้วก็นึกภาพว่าน่าจะออกมาในลุคไหน สไตล์แบบไหน”
คิดว่าคนไทยคาดหวังกับการปรากฏตัวของเราไหม?
“มีบ้างนะ ความคาดหวังคงเป็นเรื่องปกติ เราเป็นตัวแทนคนไทยที่ได้ไปเดินพรมแดง คนคงรอดูกันเยอะ ชมอยู่ทางโน้นก็คอยตามข่าวอยู่เรื่อย ๆ นะคะ ว่าฟีดแบ็กเป็นยังไง ลุคของเราเป็นไง คนชอบไหม ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ลุคทั้งหมดที่ทุกคนเห็น มันก็คือบทบาทที่เราได้รับ”
ตอนที่ฟิตติ้งชอบชุดไหนบ้าง ตัดสินใจใส่เลือกชุดเดินพรมแดงแต่ละชุดเพราะอะไร?
“เรื่องฟิตติ้งชมทำการบ้านกันค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้วค่ะ แต่ยังอดที่จะแอบลุ้นไม่ได้ พอไปถึงวันแรก ชมต้องรีบไปพบ “ไมเคิล” สไตลิสต์คนดังประจำงานคานส์ เพราะไม่อยากที่จะพลาด เขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เตรียมชุดไว้ให้ชมเต็มที่มาก และที่สำคัญเขารู้จักและเข้าใจตัวชม ซึ่งชุดในวันแรกที่ใส่เป็นของ “คอฟแมน ฟรังโก” เป็นเกาะอกสีดำเรียบ ประดับด้วยเลื่อมทั้งตัว เน้นการตัดเย็บที่เนี้ยบ เข้ารูปร่าง และชมก็ดีใจมากที่ชุดนี้ได้รับการโหวตให้เป็น“เบสท์ เดรส” ประจำวันนั้นด้วยค่ะ โดยทาง “คาริม” เมคอัพ ไดเรกเตอร์ เลือกที่จะแต่งหน้าชมออกมาเป็น “แมท ลุค” กับปากแดง เพื่อให้ดูโดดเด่นบนพรมแดง ส่วนชุดวันที่ 2 ชมสารภาพว่าหลงรักชุดนี้ตั้งแต่แรกเห็น แล้วเป็นความบังเอิญนะคะ ที่เป็นชุดของ “แซค โพเซน” แบรนด์เดียวกันกับที่ชมใส่เดินพรมแดงเมืองคานส์เป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วนโทนการแต่งหน้าจะออกมาเป็น “ออร่า ลุค” เน้นการโชว์ผิว ออกแนววิ้ง ๆ กับปากสีนู้ด พอได้รับฟีดแบ็กในทางบวกจากแฟน ๆ ชาวไทยแล้ว ชมดีใจมากที่ตัดสินใจไม่ผิด”
มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่เจอบ้าง?
“ถ้าจะมีบ้าง คงเป็นเรื่องการแก้ไขไซซ์ให้พอดีกับชมค่ะ แต่ทีมงานเขามืออาชีพมาก สามารถทำทุกอย่างให้ออกมาเนี้ยบและเป๊ะมาก ซึ่งไม่ได้มีแค่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมแม้กระทั่งเล็บ หรือรายละเอียดอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็ดูแลเราเป็นอย่างดี เพื่อให้ภาพรวมเราออกมาดีที่สุด”
ความประทับใจที่มาเมืองคานส์ในปีนี้?
“อย่างแรกเลยคือต้องขอบคุณ ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ ที่ให้โอกาสชมได้เป็นปีที่ 2 ทำให้ได้ไปเจอกับประสบการณ์อะไรดี ๆ มากมาย อย่างการเดินพรมแดงเนี่ย ก็นับว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากแล้วนะสำหรับเรา คือไม่ใช่ว่าใครก็จะไปเดินได้ แต่พอได้รับโอกาสนั้นชมก็พยายามทำเต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อคนไทย อย่างวันที่ไปเจอคุณคาริม บอกตามตรงว่าตอนแรกก็เกร็งนะ เพราะเค้าเป็นระดับเมคอัพ ไดเรกเตอร์อยู่ที่โน่น เซเล็บดัง ๆ ดาราฮอลีวูดแทบทุกคนต้องผ่านมือนางมาแล้วทั้งนั้น เราก็แบบ เค้าจะจำได้มั้ย ชั้นจะยังไงดี ปรากฏพอเจอกัน นางไนซ์มาก แถมจำชมได้ ตอนนี้เลยเรียกนางว่าเป็น ขุ่นแม่ ไปละ สำหรับบรรยากาศอื่น ๆ ที่ไปเจอมา มันก็สุดยอดมาก ชมไปฝรั่งเศสมาหลายรอบ แต่กับพรมแดงงานคานส์นี่เหมือนมีมนต์สะกดอะไรพิเศษ ยิ่งวินาทีที่เค้าประกาศชื่อเรา แล้วเราเดินออกมา กล้องนี่ยิงชัตเตอร์กันเต็มไปหมด ตะโกนเรียกกันลั่น เราก็แบบตื่นเต้นก็ตื่นเต้นนะ แต่ “เดอะ โชว์ มัส โก ออน” ไม่ให้ขายหน้าคนไทย ชมก็ลุย เชิ่ดหน้าเดินยิ้มออกไปเลย
ไม่เสียชื่อแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ของเมืองไทยจริง ๆ ถ้าสาว ๆ คนไหนชอบสไตล์การแต่งตัวของสาวชม ก็ลองเอาไปมิกซ์แอนด์แมตช์กันดูได้นะจ๊ะ.
ลิตเติ้ล เคท
