เสน่หาสัญญาแค้น วันที่ 29 พฤษภาคม 2557
 


เสน่หาสัญญาแค้น วันที่ 29 พฤษภาคม 2557


เสน่หาสัญญาแค้น วันที่ 29 พฤษภาคม 2557

นาคินทร์ชวนประกายเดือนไปกินข้าวที่บ้านไกรตระกูล โดยให้เหตุผลว่าอยากให้ประกายเดือนไปพบกับปานตะวันบ้าง เพราะกลัวปานตะวันจะเครียด ที่ไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน ประกายเดือนดีใจมาก ยิ่งรู้สึกว่านาคินทร์เป็นคนดีที่เห็นใจเธอสองพี่น้อง และรู้สึกว่าเป็นโชคดีของปานตะวันที่นาคินทร์สนใจปานตะวัน โดยหารู้ไม่ว่านาคินทร์ต้องการใช้ประกายเดือนเป็นตัวประกันขู่ปานตะวัน 

สาวิตรีทำซุปมาให้ปานตะวันกิน และบอกให้พักผ่อนมาก ๆ นารถนรินทร์ก็เป็นห่วงปานตะวัน ทำให้ปานตะวันรู้สึกผิดที่บกพร่องในหน้าที่ แถมยังต้องมาเป็นภาระอีก 

“เราเป็นคนในครอบครัวเดียวกันนะจ๊ะ หนูตะวันต้องไม่พูดจาแบบนี้...แม่โกรธนะจ๊ะ” สาวิตรีกอดปลอบ ปานตะวันอึ้ง ซึ้ง นํ้าตารื้น ไม่เคยสัมผัสอ้อมกอดอบอุ่นแบบนี้มานาน ทั้งตื้นตัน ทั้งสับสนที่ทุกคนดีต่อเธอ ยกเว้นนาคินทร์...ทำไม?!! ปานตะวันสะอื้น

สาวิตรีตกใจที่เห็นปานตะวันร้องไห้ “ร้องไห้ทำไม?? แม่ล้อเล่น!! แม่ไม่ได้โกรธหนูนะจ๊ะตะวัน”

“ตะวันทราบค่ะ ตะวันกราบขอบพระคุณค่ะ” กราบที่อกสาวิตรี

“ไม่เอา ๆ ๆ...ร้องไห้เดี๋ยวจะยิ่งไม่สบายไปกันใหญ่ มา!! ทานซุปบำรุงให้หายไว ๆ ดีกว่า แม่ทำสุดฝีมือ สูตรนี้รับรองฟิตเปรี๊ยะจ้ะ มา...แม่ป้อน”

“มะ...ไม่ดีกว่าค่ะ...รบกวนคุณแม่...ตะวันทานเองได้ค่ะ” ปานตะวันรับถ้วยซุปจากสาวิตรีมาฝืนใจตักทาน ท่ามกลางสายตาทุกคนที่มองอย่างจริงใจ ปานตะวันพยายามกลืนนํ้าซุปพร้อม ๆ กับนํ้าตา

  

นัครินทร์นอนจุ๊ยดูยูทูบอยู่ ประกายเดือนเอาแฟ้มเอกสารเข้ามาให้เซ็น แต่นัครินทร์ไม่ยอมเซ็น จนประกายเดือนต้องขู่

“เซ็นได้แล้วค่ะ ดิฉันต้องนำเอกสารส่งท่านประธานด่วน เพราะท่านประธานจะรีบกลับ”

“รีบกลับ?? พี่คินจะกลับไปไหนฮะ?” นัครินทร์ถามอย่างแปลกใจ

“ไว้ถามท่านเองนะคะ ตอนนี้เซ็นก่อน เพราะดิฉันเองก็รีบเหมือนกันค่ะ”

นัครินทร์ชะงัก “คุณจะรีบไปไหน?”

ประกายเดือนยิ้มเชิด “ก็ไปกับท่านประธานไงคะ!!” นัครินทร์ลุกพรวดเลย “ไปกับพี่คิน?”

นัครินทร์คาใจปนหวงก้าง เลยมาถามพี่ชาย ทำไมต้องมาชวนเลขาฯ ของเขาไปกินข้าวด้วย “เลขาฯ พี่...พี่ก็มี...ปาริฉัตรไงฮะ ทำไมพี่ไม่ชวนปาริฉัตรไปล่ะฮะ?!”

“ก็ฉันอยากจะชวนประกายเดือน”

“อ้าว...” นึกขึ้นได้ “แล้วคุณพยาบาลคนสวยนั่นล่ะฮะ?!”

นาคินทร์หน้าหงิกเลย “ทำไม?! ปานตะวันทำไม?!”

“ก็จะทำไมละฮะ ก็พี่คินมีคุณพยาบาลคนสวยนั่นอยู่ที่บ้านทั้งคนแล้ว ยังไม่พออีกเหรอฮะ? จะมาเอาเลขาฯ ผมไปอีกทำไมฮะ?!”

“ยัง...ยังไม่พอ!!! ทีแกยังมีน้องนู่นน้องนี่ เกาหลี ฝรั่ง อาหมวยยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แล้วทำไมฉันจะทำมั่งไม่ได้”

นัครินทร์อึ้ง ค่อย ๆ เดินมาจ้องหน้าพี่แตะหน้าผาก มองไปทั่วตัวแบบจ้องตรวจพิจารณา “ตอนแรกผมนึกว่าพี่คินไม่สบาย แต่ไม่ใช่...ไม่มีไข้ พี่คินฮะ...พี่คินหกล้มมั่งรึเปล่าฮะ?...คือ...ที่ผ่านมามีหัวไปกระแทกอะไรมั่งเปล่าฮะ?!” นัครินทร์แปลกใจ เพราะร้อยวันพันปี พี่ชายเขาไม่เคยสนใจสาว ๆ “พี่คินรู้ตัวรึเปล่าว่าพี่คินเปลี่ยนไปนะฮะ เมื่อก่อนนี้พี่คินรักเดียวใจเดียว หายใจเข้าก็กนก หายใจออกก็กนก ต่อให้กนกตายไปตั้งหลายปี ผมก็ไม่เคยเห็นพี่คินสนใจสาวไหนจนผมนึกว่าพี่ชายผมกลายเป็นตุ๊ดไปซะแล้ว”

“ไอ้นัคคคค!!” นาคินทร์เสียงสูง

นัครินทร์และนาคินทร์ตกลงกันว่า หากผู้หญิงคนไหนที่อีกฝ่ายชอบ อีกฝ่ายก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย สองพี่น้องเช็กแฮนด์กัน นัครินทร์ยิ้มกริ่ม สุขใจ ขณะที่นาคินทร์ยิ้มน้อย ๆ พอใจที่เป็นไปตามแผน

  

สาวิตรีเกณฑ์ทุกคนในบ้านมาช่วยกันทำกับข้าว ปานตะวันเริ่มดีขึ้นก็มาช่วยด้วยเช่นกัน สาวิตรีบอกว่า นาคินทร์โทรฯ มาบอกว่าจะพาแขกคนสำคัญมากินข้าวที่บ้าน

ใบตองทำท่าตกใจ “แขกที่ว่าน่ะ...ผู้หญิง หรือ ผู้ชายคะ?” สาวิตรีอึ้ง ทุกคนเซ็งแซ่วิจารณ์ ปานตะวันอึ้งไปเช่นกัน ทุกคนมองมาที่ปานตะวันเพราะที่ผ่านมารู้ว่านาคินทร์ทำท่าทางสนใจปานตะวันมาตลอด 

สาวิตรีทำอาหารไว้เต็มโต๊ะเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญของนาคินทร์ ทั้งสาวิตรี ทวยเทพ และนารถนรินทร์ต่างก็อยากรู้ว่าแขกคนสำคัญของนาคินทร์เป็นใคร ทวยเทพไม่เห็นปานตะวันจึงจะให้คนไปตามมาร่วมโต๊ะ แต่นารถนรินทร์ไม่เห็นด้วย เพราะรู้ว่าปานตะวันต้องคิดมาก หากนาคินทร์พาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้าน 

นัครินทร์เข้าบ้านมาเห็นอาหารเต็มโต๊ะก็ตาโต พอรู้ว่านาคินทร์จะพาแขกคนสำคัญมากินข้าวก็อึ้ง ก่อนจะนึกได้ “แขกคนสำคัญ?  ประกายเดือน? ประกายเดือนน่ะเหรอฮะ แขกคนสำคัญ?”

เป็นเวลาเดียวกับ นาคินทร์เดินเข้ามาพร้อมประกายเดือน “ใช่...ประกายเดือน...แขกคนสำคัญของผม”

ทุกคนหันมอง ตะลึง ๆ ประกายเดือนยิ้มสดใส และยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ...ประกายเดือนค่ะ” พ่อแม่รับไหว้ นารถนรินทร์มอง ๆ ใบตองตาโต

“ประกายเดือนเป็นน้องสาวของตะวัน” นาคินทร์บอกทุกคน นัครินทร์แทบจะตกเก้าอี้ “อะไรนะฮะพี่คิน?! น้องสาว?? คุณเลขาฯ ของผมเป็นน้องสาวคุณพยาบาลของพี่คิน??”

“และที่ผมต้องบอกว่าประกายเดือนเป็น “แขกคนสำคัญ” ก็เพราะ ตะวันรักน้องสาวคนเดียวคนนี้มาก”

นารถนรินทร์ยิ้มแฉ่ง โล่งอก “เข้าใจแล้วค่ะ พี่คินเลยอยากพามาเซอร์ไพร้ส์พี่ตะวัน พี่ตะวันจะได้หายป่วยเร็ว ๆ ใช่มั้ยคะ?”

“อะไรนะคะ? ตะวันไม่สบายเหรอคะ? ตะวันป่วยเป็นอะไรคะ?” ประกายเดือนตกใจมาก นาคินทร์รีบชิงตอบ “อ่อนเพลียนิดหน่อยน่ะครับ คุณเดือนไม่ต้องตกใจ”

ปานตะวันถูกตามลงมาร่วมโต๊ะอาหาร แม้ไม่อยากจะลงมาแต่ก็เลี่ยงไม่ได้ เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร ประกายเดือนนั่งหันหลัง ปานตะวันเลยไม่เห็นหน้า 

“พี่ตะวัน...ดูซิคะ...ว่าใครมา??” 

นารถนรินทร์พูดยิ้ม ๆ ประกายเดือนหันมา ยิ้มให้ ปานตะวันตะลึง ดีใจสุด ๆ สองพี่น้องวิ่งเข้ากอดกันแน่น ร้องไห้ “ตะวัน!!! เค้าคิดถึงตะวัน”

“พี่ก็คิดถึงเดือน...คิดถึงมาก” ปานตะวันบอก นาคินทร์ตาวาว 

“เป็นไงจ๊ะหนูตะวัน หายป่วยเลยมั้ยได้เจอน้องสาว” สาวิตรียิ้มอย่างเอ็นดู

“ค่ะ...ตะวันขอบคุณมากนะคะ”

“หื้มม...มาขอบคุณอะไรแม่?! ต้องขอบคุณพี่คินเค้า” 

ปานตะวันอึ้ง!! นาคินทร์นิ่ง นารถนรินทร์รีบโกยคะแนนให้พี่ชายบอกเป็นแผนเซอร์ไพร้ส์ให้ปานตะวันโดยเฉพาะ ปานตะวันอึ้ง ๆ มองหน้านาคินทร์ ที่เฉยมาก ดูไม่ออกว่าอารมณ์ไหน ทวยเทพชวนทุกคนกินข้าว นัครินทร์รีบไปพาปานตะวันมานั่งข้างตนเอง ตรงข้ามกันนาคินทร์ นาคินทร์พูดคุยและตั้งใจจับมือประกายเดือนที่วางอยู่บนโต๊ะให้ปานตะวันเห็น ปานตะวันอึ้ง รู้สึกถึงความไม่ปกติ นาคินทร์ยังพยายามเอาอกเอาใจประกายเดือน สาวิตรีปลาบปลื้ม บรรยากาศดูเหมือนจะชื่นมื่น ยกเว้นปานตะวันที่แทบจะกลืนอะไรไม่ลง เพราะระแวงในการกระทำของนาคินทร์

  

หลังมื้อค่ำ นาคินทร์เดินออกมาด้านนอก ปานตะวันปรี่มาขวางหน้าและจ้องนาคินทร์เขม็ง นาคินทร์ไม่สะทกสะท้าน

“คุณกำลังจะทำอะไร?”

“ก็กลับไปทานข้าว ได้เวลาทาน ‘ของหวาน’ แล้ว”

ปานตะวันตกใจ เพราะเข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ “อย่ายุ่งกับประกายเดือน!!” 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.