พ่อแม่และญาติของกริชตามมาสมทบ ทั้งหมดนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน วนิษาสวดอธิษฐานไปเรื่อย ๆ สักพักหมอก็เดินออกมา วนิษากับญาติ ๆ รีบเข้าไปหา หมอแจ้งข่าวร้ายแล้วเดินออกไป วนิษาทรุดฮวบ พ่อแม่กริชตะลึง
วนิษาวิ่งเข้าไปในห้อง เปิดผ้าคลุมหน้าศพกริชที่อยู่บนเตียง จับมือกริช ร้องไห้โฮ พยาบาลจะดึงวนิษาออก โจเข้ามาจับพยาบาลไม่ให้ยุ่งกับวนิษา ญาติ ๆ กริชเข้ามาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร แต่โจปักหลักยืนขวางให้วนิษาอยู่กับศพกริช
ในที่สุดวนิษาก็ต้องยอมปล่อยมือกริช มือกริชตกลงข้างตัว
ตอนที่ 12
ในงานศพของกริช ญาติคนหนึ่งแกล้งเอาหนังสือพิมพ์มาวางไว้ใกล้ ๆ วนิษาจงใจให้เห็น แล้วเดินหนีไปอย่างรังเกียจ วนิษาเห็นข่าวพาดหัว “ลือสนั่นดวงกินผัว สามรายตายคาชุดเจ้าบ่าว” ก็ได้แต่เบือนหน้าหนี โจจับตาดูวนิษาอยู่ รู้สึกสงสารจับใจ
มีรูปประกอบ ตอนกริชหอมแก้มวนิษาบนเวที พวกสื่อมวลชนที่ถูกกันไม่ให้เข้าไปในศาลา เห็นระรินกับเพ็ญแขเดินมาด้วยกันก็รีบกรูไปสัมภาษณ์ ระรินทำเป็นบีบน้ำตา ให้สัมภาษณ์ว่าเคยเตือนกริชแล้วเรื่องดวงกินผัว แต่กริชก็ยังดึงดันจะแต่งงาน สุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตจริง ๆ วนิษาเดินมาได้ยินระรินให้สัมภาษณ์พูดพิงถึงตนก็ไม่พอใจมาก
“ถ้าคุณมาเคารพศพคุณกริช ฉันยินดีต้อนรับค่ะ แต่ถ้าคุณจะมาเพื่อด่าฉัน เชิญที่อื่น ที่นี่งานศพ หัดมีมารยาทซะบ้าง”
“ใครด่าคุณ ฉันกำลังพูดถึงฆาตกรต่อเนื่อง มันฆ่ามาแล้วสามศพ ที่น่ากลัวคือไอ้ฆาตกรรายนี้มันไม่รู้สึกผิดซักนิด ยังกล้ายืนเชิดหน้าต่อหน้าคนอื่น ๆ อีกต่างหาก โหดเหี้ยมแล้วก็เลือดเย็นที่สุด”
“ถ้าหมายถึงฉันก็พูดมาตรง ๆ ไม่ต้องมาทำเป็นกระแหนะกระแหน น่ารำคาญ คุณทำตัวเหมือนเด็กขี้อิจฉาแล้วก็ขี้ขลาด อยากด่าฉันแต่ไม่กล้า กลัวฉันมากเหรอไงคะ”
ระรินปรี๊ด ตบะแตก “ใช่ ฉันด่าแกน่ะแหละยัยผู้หญิงกินผัว แกเข้ามาในชีวิตเขาทำไม เขากำลังคบกับฉันอยู่ดี ๆ แกก็เข้ามาเหมือนตอนคุณชายแจ้ แล้วแกก็ทำลายความสุขของทุกคน คนอย่างแกอย่ายุ่งกับผู้ชายที่ไหนอีกเลย แกมันถูกสาปไม่รู้ตัวหรือไง”
วนิษาอึ้ง พูดไม่ออก พ่อกับแม่กริชเดินออกมาต้อนรับระรินกับเพ็ญแข พาเดินเข้าไปในศาลา พวกสื่อถ่ายรูปกันมันมือ วนิษาหันมองไปรอบ ๆ เห็นโจยืนหลบมุมอยู่ จึงรีบพยักหน้าบอกให้รู้ว่าเธอจะกลับแล้ว
ปลายฝนเห็นวนิษาเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง นั่งเหม่อลอยไม่พูดไม่จา สามสี่วันผ่านไป ปลายฝนเริ่มทนไม่ไหว ตัดสินใจชวนวนิษาออกไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน พวกนักข่าวที่ซุ่มรออยู่หน้าคอนโดฯ พอเห็นวนิษาก็รีบปรี่เข้าไปสัมภาษณ์
“สวัสดีค่ะคุณวนิษา หายหน้าไปนานเลยนะคะ ขออัพเดทข่าวคาว เอ๊ย ข่าวคราวหน่อยนะคะ มีข่าวลือว่า คุณวนิษาเก็บตัวเพราะเตรียมตัวบวชตลอดชีวิต ไม่ทราบจริงหรือเปล่าคะ”
“ใครลือคะ”
“คุณระริน...อุ๊ยตาย...หลุดปาก ไม่ทราบ จริงหรือไม่จริงคะ”
“ไม่จริงค่ะ แค่นี้นะคะ ขอตัวก่อน”
วนิษาจะเดินหนี แต่กลับถูกรุมล้อมถามถึงเรื่องที่ระรินไปช่วยทางบ้านกริชทำพิธีไล่เสนียดปัดรังควานเสียก่อน วนิษาไม่ตอบ นักข่าวถามว่าตอนนี้มีใครเข้ามาใกล้ชิดบ้างหรือเปล่า ปลายฝนทนไม่ไหวเข้ามาผลักไมค์นักข่าวออกไป นักข่าวจำได้ว่าปลายฝนเป็นลูกเสี่ยป๊อก จึงหันมาสัมภาษณ์ปลายฝนแทน ปลายฝนสวนกลับทันควัน สองฝ่ายทำท่าจะมีเรื่องกัน วนิษารีบเรียก รปภ.ให้เข้ามาช่วยกันพวกนักข่าวออกไป
ปลายฝนเพิ่งเข้าใจว่าทำไมวนิษาถึงไม่อยากออกมาจากห้อง วนิษาดีใจที่มีปลายฝนเป็นพันธมิตร วนิษาอาสาจะพาปลายฝนไปเลี้ยงข้าว แต่ปลายฝนกลับให้วนิษาพาไปที่สวนสนุกแทน สองสาวเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวกันหลายชนิด
แหกปากร้องกรี๊ดกันอย่างสุดเสียง ได้ปลดปล่อยความเครียดที่สะสมไว้ออกไปบ้าง
วนิษาหอบเสื้อผ้าข้าวของไปนอนค้างที่บ้านวรางค์หนึ่งคืน เพื่อที่พรุ่งนี้เช้าจะได้ออกไปทำบุญที่วัดพร้อมกัน วรางค์ถือโอกาสคุยกับโจที่ขับรถมาส่งวนิษา เพราะบ้านตรงข้ามที่เป็นนายตำรวจ เคยเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าบ้านมาให้วรางค์ดู ในนั้นมีภาพโจตอนปีนเข้าออกบ้านวรางค์อยู่ด้วย จริง ๆ แล้ววรางค์ตั้งใจจะคุยกับโจในคืนวันแต่งงานของวนิษา แต่ก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน โจยอมสารภาพความจริงทั้งหมด วรางค์บอกจะช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนกว่าโจจะทำงานเสร็จ โจถามวรางค์ว่าไม่กลัววนิษาจะต้องติดคุกหรือ วรางค์บอกเธอเชื่อมั่นในตัววนิษา และก็อยากให้โจเป็นคนพิสูจน์ให้หญิงจุ๋มและทุกคนรู้ว่าวนิษาเป็น
ผู้บริสุทธิ์
วันรุ่งขึ้นหลังจากได้ไปทำบุญที่วัดกับวรางค์ วนิษาตัดสินใจจะบวชตลอดชีวิต เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตสามีทั้งสามคน วนิษาเป็นห่วงปลายฝน จึงลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามดู ปลายฝนว่าเธออยู่คนเดียวได้ และจะไม่ทำตัวไม่ดีเด็ดขาด เพราะไม่อยากให้เสี่ยป๊อกผิดหวัง วนิษาค่อยวางใจ
ปลายฝนถักหมวกไหมพรมไปให้ป๋อง เพื่อเป็นการตอบแทนที่ป๋องเคยช่วยเธอไว้ ป๋องตัดสินใจสารภาพรักปลายฝน แต่ปลายฝนกลับตอบปฏิเสธ แถมยังบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ป๋องเสียใจมาก แต่ต่อหน้าปลายฝนฝืนทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หญิงจุ๋มเห็นวนิษามาลาบวชกับหม่อมจัน ก็นึกแปลกใจมาก “นี่ คุณพจน์ ถ้ายัยวนิษาบวชแล้ว ทรัพย์สมบัติของยัยนั่นจะตกเป็นของใครคะ”
“ก็ยังเป็นของเขาอยู่น่ะสิ”
“อ้าว เป็นแม่ชีมีเงินได้ด้วยเหรอ”
“ได้สิ เขาไม่ได้ห้ามนี่”
“งั้นพอมันบวชแล้วเราต้องช่วยกันบิ๊วให้มันคืนเงินชายแจ้มา”
พจน์นึกอะไรขึ้นมาได้ พึมพำกับตัวเอง “เออใช่ แบบนี้ง่ายกว่าตั้งแยะ”
“ง่ายกว่าอะไรคะ”
“เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไร ฉันเห็นด้วยว่าเราต้องหาทางพูดให้วนิษาคืนเงินของชายแจ้มา ท่าทางเค้าก็ดูปลง ๆ อยู่ น่าจะยอมคืนเงินให้เราได้ไม่ยาก”
“ขอให้มันจริงเหอะ ไม่ใช่จะบวชแล้วยังงกเงินอยู่”
เรื่องทางบ่อน วนิษาขอให้ปฐมช่วยดูแลแทน ปฐมอยากให้วนิษาคิดทบทวนเรื่องบวชอีกครั้ง แต่วนิษายืนยันหนักแน่นจะบวชให้ได้ โจแอบจับตามองตลอดเวลาที่วนิษากับปฐมคุยกัน
หลังคุยกับปฐมเสร็จ วนิษาให้โจขับรถพาไปกินข้าวร้านอร่อยข้างทาง โจอาสาเลี้ยงข้าว เนื่องในโอกาสที่วนิษากำลังจะบวช
“เลี้ยงข้าวแบบนี้แปลว่านายเห็นด้วยใช่ไหม ที่ฉันจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับสามีทั้งสามเนี่ย”
“ถ้าใจคุณอยากบวช ก็บวชไปเถอะครับ”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วฉันอยากบวชจริง ๆ หรือเปล่า...หรือฉันแค่รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้พวกเขามีอันเป็นไป พวกเขาทั้งสามคนดีกับฉันมาก”
“อะไรทำให้คุณรู้สึกผิด คุณฆ่าพวกเขาเหรอ”
“ถึงไม่ใช่ก็เหมือนใช่...ฉันมันเป็นผู้หญิง กาลกิณี มีดวงกินผัว ถ้าพวกเขาไม่ได้แต่งงานกับฉัน พวกเขาคงไม่ตายหรอก”
โจนิ่งเงียบไป
“เมื่อก่อนเวลาพูดเรื่องนี้นายจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่มีจริง แต่ทำไมวันนี้เงียบไป นายเริ่มเชื่อแล้วใช่ไหม”
“ผมยอมรับว่าผมเริ่มลังเล”