เรือนริษยา วันที่ 26 พฤษภาคม 2557
 


เรือนริษยา วันที่ 26 พฤษภาคม 2557


เรือนริษยา วันที่ 26 พฤษภาคม 2557

 “เปล่าครับ ผมไม่ได้พาเค้าเข้ามา เอ่อคือ...”

     

กฤตพนธ์ไม่มีโอกาสได้อธิบาย เพราะรณฤทธิ์ลุกขึ้นโวยวายเลขาฯ ทั้งสองที่ปล่อยให้นันทนัชเข้ามาได้ นันทนัชได้ยินก็หันมายิ้มสู้ แล้วต่อว่ารณฤทธิ์ มีสิทธิอะไรมาไล่เธอ รณฤทธิ์ชี้หน้าจะโวย ฤทัยคว้าแขนหมับห้ามไว้ทัน ก่อนที่รณฤทธิ์จะอาละวาดให้หุ้นส่วนเห็น รณฤทธิ์จำต้องนั่งลงอย่างหัวเสีย นันทนัชหันไปยกมือไหว้ขอโทษเหล่าหุ้นส่วนและกรรมการทุกคนที่เสียมารยาท

       

“แต่นันคิดว่าทุกท่านคงจะทราบดี ว่านันเป็นลูกแท้ ๆ ของประธานบริษัทนี้ นันควรจะมีสิทธิเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้ในการบริหารงานทุกอย่าง ถูกต้องมั้ยคะ..นันไม่ต้องการอะไรมากค่ะ แค่อยากจะเห็นการบริหารที่ถูกต้องและยุติธรรมเท่านั้นเอง ช่วยพิจารณาด้วยนะคะ”

       

กฤตพนธ์ที่มองอยู่อดชื่นชมความฉลาดในการพูดของเธอไม่ได้ เหล่าหุ้นส่วนกับกรรมการ หันไปคุยปรึกษากัน สมุทรชัยกับไกรภัทรมองลุ้น ๆ ขณะที่ 3 แม่ลูกเริ่มเครียด และแล้วหุ้นส่วนคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า นันทนัชควรได้รับสิทธิตามที่เรียกร้อง นันทนัชดีใจยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน สมุทรชัยกับไกรภัทรแอบสบตากันอย่างพอใจ ผิดกับพวกฤทัยที่นั่งแทบไม่ติด แล้วรณฤทธิ์โพล่งขึ้นมาอย่างเหลืออด

“ได้ไงครับ! เค้าหายไป 5 ปี อยู่ ๆ กลับมาก็จะให้มาร่วมรับรู้เรื่องในบริษัทงั้นเหรอ”

      

“คุณนันจะหายไปนานแค่ไหน คุณนันก็ยังเป็นลูกของคุณลิตรอยู่นะครับคุณรณ” 

รณฤทธิ์จะแย้งอีกแต่ถูกฤทัยปรามด้วยสายตา สมุทรชัยเลื่อนเก้าอี้ให้นันทนัชนั่ง เธอหันไปทางกฤตพนธ์ที่ยืนอยู่

      

“นันขอให้ผู้พันกฤตพนธ์เข้าร่วมฟังการประชุมด้วยนะคะ ในฐานะที่ปรึกษาของนัน”

       

นันทนัชพูดพลางเข้าไปดึงกฤตพนธ์เข้ามานั่งข้าง ๆ  ทำเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก  กนกกรแทบจะร้องกรี๊ด สมุทรชัยกับไกรภัทรมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที อยู่ ๆ มีกฤตพนธ์เข้ามายุ่งอีกแล้ว

     

“คุณจะเพี้ยนรึเปล่านี่”กฤตพนธ์กระซิบถาม นันทนัชตอบเบา ๆ พอได้ยินกันสองคน

     

“อยากยุ่งเรื่องของฉันนัก ฉันก็จัดเต็มให้ไง” 

   

นันทนัชตอบเบา ๆ ก่อนจะเชิญเขานั่งข้างเธอ กฤตพนธ์ปฏิเสธไม่ออกต้องวางฟอร์มหันไปยิ้มและทักทายทุกคนในห้องประชุม..

กนกกรไม่พอใจหันไปต่อว่ากฤตพนธ์แต่ฤทัยปรามให้หยุด นันทนัชยิ้มพอใจทำเป็นหยิบปากกา สมุดจดเล่มเล็ก ๆ จากกระเป๋าขึ้นมาเตรียมพร้อม 

 

เมื่อนันทนัชรู้เรื่องว่าประชุมเพื่อจะหาคนมานั่งแทนตำแหน่งลิตรที่ว่างลงเธอก็ค้านขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย

     

“ศพของคุณพ่อยังอยู่ในระหว่างสืบคดี  นันไม่เห็นด้วยถ้าจะมีใครมานั่งรักษาการแทน”

       

คำพูดของเธอทำเอาเหล่าหุ้นส่วนและกรรมการต่างพากันขนหัวลุก

     

“นี่! ตอนจะเปิดพินัยกรรมก็อ้างยังงี้มาทีนึงแล้ว นี่จะมามุกเดิมอีกแล้วเหรอหะ..”

       

ระหว่างที่นันทนัชปะทะคารมกับพวกฤทัย  สายตาของกฤตพนธ์แอบจ้องไปที่ทุกคนเพื่อจับพิรุธหาผู้ต้องสงสัยที่หมายปองชีวิตนันทนัช

     

“หนูนันจ๊ะ นี่หนูกำลังเอาอนาคตของบริษัทเข้ามาเสี่ยง ถ้าไม่มีประธานสั่งงาน บริษัทจะเดินหน้าได้ยังไง”

     

“ฉันก็ไม่ได้บอกว่า จะไม่ให้มีประธานคนใหม่นี่คะ แค่ขอให้รอเรื่องคดีคุณพ่อจบเสียก่อน ให้รู้ว่าคุณพ่อเสียชีวิตเอง หรือว่าถูกฆาตกรรม ไม่อย่างงั้น ฆาตกรอาจจะยังลอยนวลอยู่ ฉันคิดว่านั่นล่ะที่บริษัทจะเสี่ยงมากกว่า” 

       

“แกจะว่าแม่ฉันเป็นฆาตกรก็พูดมาตรง ๆเลยซี ไม่ต้องมาอ้อมค้อม” รณฤทธิ์ฉุนจะเอาเรื่อง

       

“รณหยุด” ฤทัยสั่งเสียงเข้ม

       

“ห้ามผมทำไม มันคอยแต่จะด่าว่าแม่เป็นฆาตกร ผมไม่อยากนั่งฟังมันพล่ามอีกแล้ว จะเอาใครขึ้นมาแทน เลือกเลยไม่ต้องสนใจนังปากพล่อยพ่อแม่ไม่สั่งสอนนี่หรอก”

       

“อ๋อ แต่ละคำที่คุณพ่นออกมานี่ พ่อแม่สั่งสอนมาดีแล้วเหรอ”

       

“อีนัน!” รณฤทธิ์จะเอาเรื่อง

     

กฤตพนธ์เห็นท่าไม่ดีรีบดึงนันทนัชให้นั่งลง แต่เธอสะบัดมือมองรณฤทธิ์อย่างท้าทาย ทั้งสองจ้องกันอย่างไม่มีใครกลัวใคร  หนึ่งในหุ้นส่วนกลัวเรื่องจะไปกันใหญ่จึงห้ามให้หยุด   

       

“ผมว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมจะหาคนมารักษาการแทนตำแหน่งคุณลิตร ไว้ให้ผลการรื้อฟื้นคดีออกมาเสียก่อน เราค่อยเรียกประชุมกันใหม่ วันนี้ขอยุติเพียงแค่นี้ก่อนครับ”

       

แต่ไม่มีใครฟัง เหล่าหุ้นส่วนและกรรมการลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุม  ทำเอาฤทัย กนกกร รณฤทธิ์นั่งหน้าเสียมองมาที่นันทนัชอย่างแค้นสุด ๆ นันทนัชรีบลุกไปยืนไหว้ส่งเหล่าหุ้นส่วนและกรรมการ  หลังจากสกัดการเลือกตำแหน่งประธานเอาไว้ได้ก็เข้ามาคุยกับสมุทรชัยกับไกรภัทรด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก

       

“นันชักไม่แน่ใจแล้วว่า ลุงทนายกับคุณไกรภัทรอยู่ข้างใคร”

       

“ผมอยู่ข้างใครไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ ผมเป็นทนายของบริษัท ต้องเป็นกลาง”

       

“ถ้าเป็นกลาง แล้วทำไมถึงไม่บอกนัน ว่าวันนี้จะมีการประชุมเลือกคนขึ้นมารักษาการแทนตำแหน่งคุณพ่อคะ”

       

“คุณนันอย่าลืมนะครับ คุณไม่มีชื่อเกี่ยว ข้องอะไรในบริษัทนี้เลย”

       

“ถ้านันมาไม่ทัน ป่านนี้...น้าฤทัยก็คง จะคว้าตำแหน่งประธานบริษัทของคุณพ่อไปไว้ในกำมือแล้ว คุณลุงเห็นด้วยเหรอคะ”

       

“ในฐานะพนักงานคนหนึ่งของบริษัทนี้ ผมเห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ครับคุณนัน” 

       

“เอาเถอะครับ อย่าอารมณ์เสียกับเรื่องที่ผ่านไปแล้วเลย คิดถึงอนาคตข้างหน้า ตอนที่ผลการพิสูจน์ศพของคุณลิตรออกมาจะดีกว่าครับ”

       

“นันมั่นใจค่ะว่าเราจะต้องได้ตัวฆาตกร”ไกรภัทรตัดบทเปลี่ยนเรื่องคุย

       

“เอ่อ ผมจะจัดห้องทำงานไว้ให้คุณนัน แล้วจะหามือถือกับรถไว้ให้ใช้ ถ้าคุณนันต้องการอะไรอีกก็บอกผมได้นะครับ ผมจะจัดให้” 

       

“ขอบคุณค่ะ แต่ที่นันอยากได้มากที่สุดตอนนี้คือที่อยู่ของน้าทิพย์ รู้มั้ยคะน้าทิพย์อยู่ที่ไหน”

       

“ไม่มีใครเคยเจอหรือรู้ข่าวคราวคุณทิพย์เลย จนคุณลิตรเสียนั่นแหละครับ ผมถึงเห็นคุณทิพย์ถึงโผล่มาที่วัด”

     

นันทนัชได้แต่ถอนใจหนัก...ขณะเดียว กันกฤตพนธ์กำลังตกเป็นจำเลยของกนกกรกับรณฤทธิ์

         

“2 ครั้งแล้วนะ ที่คุณพานังนั่นมาแหกหน้าเรา” รณฤทธิ์บอก

       

“คุณก็เห็น ว่าผมพยายามห้ามเค้าแล้ว”

       

“ห้าม...เหอะ! แต่คุณก็เป็นคนพามา”

       

“เค้าขอติดรถผมมาเอง”

     

“ติดมาจากไหน ถ้าคุณไม่ได้รับเค้ามาจากบ้านน่ะหะ”

รณฤทธิ์ชี้หน้าจะเอาเรื่องกฤตพนธ์ให้ได้       

“อย่ามาชี้หน้าผมนะ พวกคุณทะเลาะกันเองในครอบครัว อย่าดึงผมเข้าไปเอี่ยว ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับพวกคุณ”

       

“ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย  ผมว่าคุณอยากจะได้เสียกับมันมากกว่ามั้งถึงได้ตามมันต้อย ๆ แบบนี้”

       

“รณ! แกพูดบ้าอะไรเนี่ย”

       

กฤตพนธ์ลุกพรวดจนเสียงเก้าอี้ดังลั่น ปัดมือรณฤทธิ์ที่ชี้หน้าเขาออกอย่างรวดเร็ว  

       

“ถ้าผมไม่เห็นว่าคุณเป็นน้องคุณกิ๊บล่ะก็”

         

“ก็เอาเด่ะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้พวกในเครื่องแบบมันจะแน่ซักแค่ไหนวะ”

       

ฤทัยเข้ามาพอดีบอกลูกชายขอโทษกฤตพนธ์  แต่เขาไม่ยอม ฤทัยสั่งอีกครั้ง รณฤทธิ์จำต้องขอโทษอย่างเสียไม่ได้

       

“น้องขอโทษแล้วก็อย่าถือสาน้องเลยนะคะคุณกฤต หนูนันทำกับพวกเราขนาดนี้ ตารณยังเด็ก น้องเลยทนไม่ไหว”

         

“นั่นซิคะ กิ๊บก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เค้าคิดว่าตัวเองเป็นลูกแท้ ๆ จะรังแกลูกเลี้ยงอย่างเรายังไงก็ได้ คุณกฤตต้องไม่เข้าข้างเค้านะคะ” กนกกรเข้ามาจับมือกฤตพนธ์ร้องห่มร้องไห้  



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.